วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

หัวหน้างานกับการสอนงาน

            ท่านลองทายสิครับว่าวิธีการพัฒนาพนักงานที่ดีที่สุดคือวิธีใด.....

            เมื่อถามอย่างนี้ผมเชื่อว่าหลายท่านคงจะคิดเรื่องวิธีการฝึกอบรมก่อนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการส่งพนักงานไปเข้ารับการอบรมตามสถาบันจัดฝึกอบรม หรือการจัดฝึกอบรมภายในองค์กรของท่านเอง

            แต่การฝึกอบรมไม่ใช้วิธีการหรือเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการพัฒนาบุคลากรหรอกครับ !

            เพราะเครื่องมือหรือวิธีการที่ดีที่สุดในการพัฒนาบุคลากรคือ “การสอนงาน” ครับ

            ถ้าจะถามว่า “แล้วใครจะเป็นผู้สอนงานล่ะ?” ก็ตอบได้ว่าคือ “หัวหน้างาน” ยังไงล่ะครับ

            เพราะผมมักจะเปรียบเทียบหัวหน้างานกับลูกน้อง และพ่อแม่กับลูกอยู่เสมอ ๆ ว่ามีความคล้ายคลึงกัน นั่นคือพ่อแม่ก็ย่อมจะต้องใกล้ชิดกับลูกและจะต้องคอยให้คำปรึกษาให้คำแนะนำตลอดจนสอนลูกในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ลูกเป็นคนเก่งคนดีมีความสามารถจนกระทั่งยืนบนขาของตัวเองได้ยามที่พ่อแม่ไม่อยู่ด้วยในอนาคต เพราะพ่อแม่ก็ไม่ได้อยู่กับลูกตลอดไปหรอกครับ

            หัวหน้างานกับลูกน้องก็เหมือนกัน หัวหน้าที่ดีก็จะต้องคอยให้คำปรึกษาหารือให้คำแนะนำ และสอนงานลูกน้องเพื่อที่ว่าวันหนึ่งวันใดข้างหน้าลูกน้องจะได้เติบโตขึ้นมาทดแทนหัวหน้างานยามเมื่อหัวหน้าไม่อยู่ในตำแหน่งนี้ ซึ่งไม่ควรจะเป็น “คนนอก” เข้ามาเสียบแทนในตำแหน่งนี้จริงไหมครับ

            ดังนั้น หัวหน้าที่ดีจึงจำเป็นจะต้องสอนงานเพื่อเตรียมความพร้อมของลูกน้องเพื่อให้เติบโตขึ้นมาทดแทนตัวเองในอนาคตถึงจะเรียกได้ว่าเป็นหัวหน้าที่รักและหวังดีกับลูกน้อง

            ซึ่งการสอนงานนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นการสอนงานอย่างเป็นทางการในลักษณะการจัดฝึกอบรมในห้องอบรมแต่เพียงอย่างเดียว แต่หัวหน้าสามารถจะสอนงานลูกน้องได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของการร่วมปรึกษาหารือ, การพาไปติดต่องานหรือแนะนำให้ผู้อื่นรู้จักและให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ กับลูกน้อง, การรับฟังและช่วยลูกน้องในการแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ฯลฯ

            เมื่อเห็นความสำคัญอย่างนี้แล้วหัวหน้างานควรจะปฏิบัติอย่างไรในการสอนงานลูกน้อง ผมจึงขอเสนอแนวทางดังนี้คือ

1.      หัวหน้างานควรจะต้อง รู้จักลูกน้องของตัวเอง เช่น รู้ว่าลูกน้องแต่ละคนทำงานเป็นอย่างไร มีความละเอียดรอบคอบมากน้อยแค่ไหน มีบุคลิกภาพหรืออุปนิสัยใจคออย่างไร เหมาะกับงานลักษณะไหน ซึ่งหัวหน้างานนั้นทำงานกับลูกน้องและเห็นกันอยู่ทุกวันจึงควรจะต้องสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกน้อง ตลอดจนควรจะมีการพูดคุยหารือกันเรื่องงาน ซึ่งจะทำให้หัวหน้างานเห็นวิธีคิด วิธีการแก้ปัญหา จุดเด่นจุดอ่อนของพนักงานแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้น

2.      หัวหน้างานควรจะต้องหาทางเลือกสำหรับการพัฒนาลูกน้องหลาย ๆ รูปแบบ โดยไม่ยึดติดกับการการฝึกอบรมเพียงเรื่องเดียว หรือคิดว่าการฝึกอบรมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ดังนั้นหัวหน้างานควรคิดหาวิธีอื่นในการพัฒนาลูกน้อง เช่น การมอบหมายงานพิเศษให้ทำ เช่น มอบหมายให้เป็นคณะกรรมการจัดงานปีใหม่ของบริษัท เพื่อฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น เป็นต้น ซึ่งการมอบหมายงานพิเศษเหล่านี้จะทำให้หัวหน้างานมีข้อมูลจากการทำงานของลูกน้องมากขึ้นเพื่อมาประกอบการหาทางเลือกในการพัฒนาลูกน้องไปให้ตรงศักยภาพด้วยนะครับ

3.      หัวหน้างานควรจะต้องวางแผนพัฒนาลูกน้องไว้ 3 ประการ คือ

- ระบุได้ว่าลูกน้องควรจะพัฒนาอะไร เช่น ลูกน้องบางคนอาจจะเหมาะกับการพัฒนาเพื่อให้เป็นผู้บังคับบัญชาหรือเป็นผู้บริหาร ลูกน้องบางคนอาจจะเหมาะกับการพัฒนาให้เป็นผู้ชำนาญหรือผู้เชี่ยวชาญแต่เขาอาจจะไม่เหมาะกับการพัฒนาให้เป็นผู้บริหาร ซึ่งหัวหน้างานจะต้องมองแววของลูกน้องแต่ละคนได้ดีกว่าคนอื่น ๆ เพราะตนเองทำงานกับลูกน้องอยู่ทุกวันจริงไหมครับ

- จะจัดกระบวนการเรียนรู้สำหรับลูกน้องอย่างไร เพราะลูกน้องบางคนเหมาะกับการมอบหมายงานพิเศษให้ทำ บางคนเหมาะกับการให้คำปรึกษาหารือกันอย่างต่อเนื่อง บางคนเหมาะกับการส่งไปเข้าอบรมในหลักสูตรต่าง  ๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีความถนัดในการเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นหัวหน้างานจึงควรสังเกตลักษณะของลูกน้องแต่ละคนที่มีความแตกต่างกันดังกล่าว

- ลูกน้องจะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง หน่วยงาน และองค์กรได้อย่างไร

เมื่อหัวหน้างานเข้าใจแนวทางการพัฒนาเพื่อการสอนงานลูกน้องทั้ง 3 ประการข้างต้นแล้ว ก็ลองนำไปประยุกต์กันดู สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะฝากไว้ในท้ายบทความนี้ก็คือทัศนคติในการสอนงานสำหรับหัวหน้างานเป็นเรื่องสำคัญนะครับ

หากท่านคิดอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่ที่ท่านสอนงานท่านกำลังทำบุญด้วยการสร้างคนให้เขามีความรู้ความสามารถ ท่านกำลังเป็นผู้ให้ กล่าวคือเป็นผู้ให้สติปัญญาความรู้ความสามารถกับคนอื่น ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือลูกน้องของท่านเองเพื่อให้เขาได้เจริญเติบโตก้าวหน้าในอาชีพการงานต่อไปในอนาคต และสังคมไทยก็เป็นสังคมที่เคารพนับถือคนที่เป็นครูบาอาจารย์ด้วยนะครับ และแน่นอนว่าท่านจะเป็น “ครู” ที่อยู่ในใจของลูกศิษย์ของท่านอยู่เสมอครับ

ขอให้หัวหน้างานทุกท่านเป็นครูที่มีลูกศิษย์เยอะ ๆ นะครับ

..................................................


 ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์
081-846-2525