องค์กรส่วนใหญ่ก็จะปรับเงินเดือนให้กับพนักงานที่ได้รับการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเพราะพนักงานจะต้องมีหน้าที่และงานต้องรับผิดชอบในหลาย ๆ เรื่องที่มากขึ้น ซี่งค่าเฉลี่ยในการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote ก็จะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่เกิน Midpoint ของกระบอกเงินเดือนถัดไป (ในกรณีที่องค์กรนั้นมีโครงสร้างเงินเดือน)
เรื่องที่ผมชวนคิดในวันนี้ก็คือเรื่องการปรับเงินเดือนเมื่อ
Promote
นี่แหละครับ !
เพราะหลายองค์กรมักจะนำรอบในการ
Promote
ไปไว้ในเวลาเดียวกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี
แล้วก็ปรับเงินเดือนให้กับพนักงานที่ได้รับการ Promote รวมไปกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี
พอนำเงินของทั้ง
2 เรื่องมารวมกันก็มักจะเกิดปัญหาว่า....
จะบอกพนักงานที่ได้รับการ
Promote
ให้ชัดเจนได้ยังไงว่าเขาได้รับการปรับเงินเดือนเพราะ Promote
เท่าไหร่
และเป็นเงินที่ได้จากการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลงานของเขาเท่าไหร่ ?
หลายแห่งก็จะแจ้งทั้งสองยอดแบบถัว
ๆ ปน ๆ กันไปเป็นยอดรวมแล้วให้พนักงานไปนั่งทางในเดาใจฝ่ายบริหารกันเอาเอง ว่าตัวเองได้ปรับเงินเดือนเพราะ
Promote
เท่าไหร่และได้รับการขึ้นเงินเดือนตามผลงานเท่าไหร่
แล้วผู้บริหารก็มีหนังสือแสดงความยินดีที่บริษัท
Promote
ให้ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น พนักงานก็จะรับทราบแบบงง ๆ แบบสำนวนจีนที่ว่า
“หัวเราะมิได้..ร่ำไห้มิออก”
ผมยกตัวอย่างให้เห็นตามภาพอย่างงี้ดีไหมครับ
นาย
A ได้รับการ Promote จากผู้ช่วยผู้จัดการแผนกไปเป็นผู้จัดการแผนก
สมมุติปัจจุบันนาย A เงินเดือน 30,000 บาท
ตามหลักเกณฑ์ของบริษัทคือจะปรับเงินเดือนให้พนักงานที่ได้รับการ Promote
10% ดังนั้นนาย A จะได้รับการปรับเงินเดือน =
30,000*10%=3,000 บาท
แต่เนื่องจากรอบการ
Promote
ไปตรงกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี ซึ่งโดยปกติค่าเฉลี่ยการขึ้นเงินเดือนประจำปีของบริษัทต่าง
ๆ (จากผลการสำรวจค่าตอบแทนในตลาด) จะอยู่ที่ประมาณ 5%
หมายถึงถ้าใครได้รับการประเมินผลงานในเกรด
C ก็จะได้รับการขึ้นเงินเดือนประมาณ 5% ถ้าได้เกรด B
ก็ได้ประมาณ 8% ถ้าได้เกรด A ก็ประมาณ 10% ถ้าผลงานแย่กว่าค่าเฉลี่ยคือเกรด D
ก็อาจจะได้ประมาณ 3% และถ้าผลงานแย่สุดคือ E
ก็ไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือน
แต่นาย
A ได้รับการ Promote ก็ควรจะต้องมีผลงานเป็นที่ยอมรับของหัวหน้าและฝ่ายบริหารดังนั้นสมมุติว่านาย
A ก็ได้รับการประเมินผลงานในเกรด B ก็ควรจะได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปี
8% ใช่ไหมครับ
ตรงนี้ก็จะเกิดวิธีการปรับเงินเดือนเมื่อ
Promote
และขึ้นเงินเดือนประจำปี 2 แบบคือ
1.
ปรับเงินเดือนเมื่อ Promote และขึ้นเงินเดือนประจำปีแบบแยกยอด
1.1
วิธีที่ 1 : บริษัทขึ้นเงินเดือนประจำปีให้นาย
A ไปก่อนแล้วถึงจะปรับเงินเดือนเนื่องจากการ Promote ให้ก็จะเป็นแบบนี้ 30,000*8%=2,400 บาท
ฐานเงินเดือนใหม่ = 32,400 บาท แล้วปรับเงินเดือนเมื่อ Promote
ให้นาย A อีก 10% คือ 32,400*10%=3,240
บาท เงินเดือนใหม่ = 35,640 บาท (ตามภาพด้านล่าง)
1.2 วิธีที่ 2 : บริษัทใช้ฐานเงินเดือนปัจจุบันแล้วปรับขึ้นไปรวม 18% คือ 30,000*18%=5,400 บาท เงินเดือนใหม่ = 35,400 บาท
ถ้าใช้วิธีที่ 2 นาย
A จะเสียประโยชน์ไป 240 บาท
ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่บริษัทจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนว่าจะใช้หลักในการปรับเงินเดือนทั้ง
2 ประเภทนี้โดยใช้ฐานเงินเดือนไหนจะได้อธิบายให้พนักงานทราบได้โดยไม่ต้องมีดราม่าตามมานะครับ
แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีที่
1 หรือ 2 ผมก็ยังถือว่าบริษัทยังใช้ “หลักเกณฑ์” หรือมีกติกาที่อธิบายให้พนักงานเข้าใจได้
2.
ปรับเงินเดือนเมื่อ Promote และขึ้นเงินเดือนประจำปีแบบรวมยอด
บริษัทที่เห็นว่าถ้าจะปรับเงินเดือนให้ตามข้อ
1 จะทำให้มีเปอร์เซ็นต์การปรับที่มากเกินไปตั้ง 18% ก็จะใช้
“หลักกู” คือคิดเปอร์เซ็นต์ปรับแบบเหมา ๆ รวม ๆ ขึ้นมา เช่น ปรับให้สัก 15%
ก็แล้วกันโดยรวมทั้งการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote เข้ากับการขึ้นเงินเดือนประจำปี
ดังนั้นนาย
A ก็จะได้รับการปรับเงินเดือนแบบเหมา ๆ ถัว ๆ กันไปคือ 30,000*15%=4,500
บาท เงินเดือนใหม่ = 34,500 บาท เวลาแจ้งให้นาย A ทราบก็จะบอกว่านาย A ได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปีรวมการปรับเงินเดือนเพราะได้รับการ Promote คือ 15%
คุ้น ๆ กับวิธีปรับแบบนี้ไหมครับ ?
ยังมีอีกหลายบริษัทที่ทำแบบนี้คือนำการปรับเงินเดือนเมื่อ
Promote
เข้าไปรวมกับการขึ้นเงินเดือนประจำปีแล้วก็แจ้งพนักงานให้รู้แต่ยอดรวมโดยไม่บอกว่าพนักงานได้รับการปรับเงินเดือนเนื่องจาก
Promote เท่าไหร่ และได้รับจากผลงานประจำปีเท่าไหร่
ปรับแบบนี้ผมว่าผู้บริหารกำลังคิดเล็กคิดน้อยแบบ
“เสียน้อยเสียยาก-เสียมากเสียง่าย” แล้วล่ะครับ !!
แทนที่พนักงานที่ได้รับการ
Promote
จะดีใจกลับทำให้เขารู้สึกติดลบกับผู้บริหารอีกต่างหาก
อย่าลืมว่าเมื่อบริษัท
Promote
ใครก็แสดงว่าคน ๆ นั้นได้รับการยอมรับแล้วว่ามีผลงานดี มีศักยภาพมี
ความรับผิดชอบงานที่มากขึ้นและเติบโตกับบริษัทต่อไปได้
ซึ่งบริษัทก็ควรจะต้องปรับเงินเดือนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานอย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ
การปรับเงินเดือนแบบแฝงยอดแบบนี้จะทำให้พนักงานที่ได้รับการ
Promote
รู้สึกดีได้ยังไงล่ะครับ
ถ้าจะถามไอเดียผมว่าควรแก้ปัญหานี้ยังไง
?
ก็ตอบได้ว่า
1.
ถ้าคิดว่าการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote+การขึ้นเงินเดือนประจำปีมีเปอร์เซ็นต์สูงเกินไป บริษัทก็ควรแยกรอบในการ Promote
ออกจากรอบที่ขึ้นเงินเดือนประจำปี เช่น รอบในการ Promote
เป็นเดือนกรกฎาคม
ส่วนรอบการขึ้นเงินเดือนประจำปีคือเดือนมกราคมของทุกปี หรือ
2.
ถ้าบริษัทจะยังต้องการให้มีการ Promote และขึ้นเงินเดือนประจำปีไว้ในรอบเดียวกันก็ควรจะแยกยอดให้ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา
ตามตัวอย่างในข้อ 1 ข้างต้นว่าพนักงานได้รับการปรับเงินเดือนเมื่อ
Promote กี่เปอร์เซ็นต์ตามหลักเกณฑ์
และได้รับการปรับเงินเดือนตาม Performance กี่เปอร์เซ็นต์
จะได้แจ้งให้พนักงานทราบได้ชัดเจนไม่คลุมเครือให้พนักงานไปนั่งคิดเอาเอง
และไม่ทำให้พนักงานที่ได้รับการ Promote ต้องมาเสียความรู้สึกหรือต้องมาลาออกไปเพราะไม่พอใจในเรื่องจุกจิกแบบนี้
ฝากไว้เพื่อเป็นข้อคิดในการปรับปรุงเรื่องนี้สำหรับคนที่เกี่ยวข้องนะครับ
จะให้แบบให้เป็นบุญคุณเพื่อซื้อใจ
หรือจะให้แบบเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายก็ไปตัดสินใจกันเอาเองครับ