วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

อยู่ในช่วงทดลองงานทำไม HR หักลาป่วยลากิจไม่เท่ากัน ?

             เห็นกระทู้นี้ในเว็บดังก็เลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้ได้ข้อคิดสำหรับคนทำงาน HR รวมทั้งคนที่เป็นหัวหน้าผู้บริหารครับ

            เรื่องก็มีอยู่ว่ามีคนเข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งยังอยู่ในช่วงทดลองงานเงินเดือน 22,000 บาท เดือนแรกลาป่วย 1 วันก็เลยถูกบริษัทหักเงิน 433 บาท เดือนที่สามลากิจ 1 วันถูกหักเงิน 733 บาท

            ผมว่าพนักงานรายนี้แกคงสงสัยแหละครับว่าทำไมลาไป 1 วันเท่ากันแต่หักเงินไม่เท่ากัน

            แกก็เลยมาโพสตั้งกระทู้ถามในเว็บไซด์ว่าบริษัท (ซึ่งก็คือ HR นั่นแหละ) เอาเกณฑ์อะไรมาคิดในการหักเงินดังกล่าว เพราะคงไม่กล้าไปถาม HR แหละ

          มีใครตอบคำถามนี้ได้นะครับว่า HR บริษัทนี้เอาเกณฑ์อะไรมาคิด ทำไมลาไป 1 วันเท่ากันแต่ทำไมถึงหักค่าลากิจมากกว่าลาป่วย ?

            ปัญหานี้เกิดจาก HR บริษัทนี้ใช้ “หลักกู” ไม่ได้ใช้ “หลักเกณฑ์” ในการคิดครับ

            ปัญหาทำนองนี้ทำให้ผมได้แต่คิดรำพึงอยู่ในใจว่า เออหนอ..บ่อยครั้งที่เราจะชอบพูดกันว่า HR ยุคใหม่จะต้องเป็น Strategic Partner หรือบางแห่งก็เรียกว่า HRBP (Human Resource Business Partner) สำหรับองค์กรที่ฝ่ายบริหารเห็นความสำคัญของ HR และเปิดโอกาสให้มีงานด้าน HRBP

            แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีผู้บริหารของบริษัทอีกไม่น้อยที่ยังไม่เห็นความสำคัญของงาน HR แถมยังมี Mindset แบบเก่า ๆ ว่างาน HR ก็คืองาน Admin ทั่วไปนั่นแหละ เอาใครก็ได้มาทำ เพราฉะนั้นเรื่อง HRBP ไม่เคยมีอยู่ในหัวของฝ่ายบริหารประเภทนี้แหงแก๋

            และถ้าฝ่ายบริหารมี Mindset เก่า ๆ อย่างนี้มันก็ย่อมเป็นไปตามกฎปฏิจจสมุปบาท คือผลที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุนำมาอยู่เสมอแหละครับ

            เพราะพอฝ่ายบริหารเอาใครก็ได้มาทำงาน HR (มักเอาคนเก่า ๆ แก่ ๆ ที่ไม่รู้จะให้ลงหน่วยงานไหนดีก็เลยเอามาลงที่ฝ่าย HR) คนพวกนี้ก็จะทำงานไปแบบ Routine วัน ๆ คิดแบบง่าย ๆ ว่างาน HR ก็เหมือนเจ้าพ่อเจ้าแม่ในบริษัท ฉันจะดุด่าว่ากล่าวใครหรือฉันจะทำอะไรก็ได้พนักงานต้องเชื่อฟังอย่ามาหือ

แล้วก็กลายร่างเป็น HR มาเฟียในบริษัทในที่สุด !!

ไม่เคยคิดที่จะใฝ่เรียนรู้ว่างาน HR มีอะไรบ้างเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็น HR มืออาชีพ

            แล้วก็ใช้ “หลักกู” แทน “หลักเกณฑ์” ที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาแบบด้นสดไปเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะผิดมากกว่าถูก

            แก้ปัญหานี้เพื่อสร้างปัญหาใหม่เกิดปัญหาแรงงานสัมพันธ์แย่ ๆ ในบริษัท แล้วบ่อยครั้งก็จะเกิดลุกลามเป็นปัญหาการไปร้องเรียนแรงงานเขต หรือลูกจ้างไปฟ้องศาลแรงงานว่าบริษัททำผิดกฎหมายแรงงาน

            ปัญหาที่ผมยกมาข้างต้นนี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเรื่องหนึ่งในสารพัดเรื่องที่ผมมักได้พบได้ยินได้ฟังมาตลอดเวลาที่ทำงานด้าน HR ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

          “ใครก็ได้ที่มาทำงาน HR” พวกนี้แหละครับเป็นที่มาของคำว่า “ใคร ๆ ก็เกลียด HR” แล้วก็ทำให้คนที่รักงาน HR พยายามพัฒนาตัวเองให้เป็น HR มืออาชีพต้องพลอยถูกมองแบบลบ ๆ ตามไปด้วย

            ก็เลยได้แต่คิดดัง ๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นข้อคิดสำหรับคนที่เป็น HR ตัวจริงเสียงจริงทุกท่านเพื่อพัฒนาตัวเองไม่ให้เป็นปัญหาอย่างที่ยกมาข้างต้นครับ

            ท้ายนี้ผมคงไม่ตอบคำถามข้างต้นนะครับ ว่าหลักการที่ถูกต้องเมื่อพนักงานทดลองงานลาป่วยหรือลากิจ HR ควรทำยังไงถึงจะถูกต้องไม่ผิดกฎหมายแรงงาน เพราะเชื่อว่าเคสนี้ท่านที่เป็น HR มืออาชีพจะมีคำตอบและให้คำแนะนำเพิ่มเติมที่ถูกต้องได้กันอยู่แล้วนะครับ