วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

การตักเตือนและลงโทษผิดซ้ำคำเตือนต้องเป็นเรื่องเดิม

            บริษัทแห่งหนึ่งมีปัญหาอย่างนี้

ครั้งที่ 1 พนักงานขาดงานไป 1 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

ครั้งที่ 2 ถัดจากครั้งแรกมาไม่กี่วันพนักงานคนเดิมก็มาทำงานสาย

ครั้งที่ 3 หลังจากครั้งที่ 2 ก็มีพฤติกรรมเหมือนครั้งที่ 1 ซ้ำอีก

คำถามคือหัวหน้าควรทำยังไงดี ?

ก็ตอบได้อย่างนี้ครับ

1.      ความผิดคนละกรณีให้ทำหนังสือตักเตือนคนละใบ ไม่ควรเอาไปไว้รวมกัน จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าความผิดครั้งที่ 1 และ 3 เป็นเรื่องเดียวกันโดยครั้งที่ 3 เป็นผลต่อเนื่องมาจากครั้งที่

         ส่วนความผิดครั้งที่ 2 จะมีลักษณะความผิดแตกต่างจากครั้งที่ 1 และ 3

2.      เมื่อแยกแยะประเภทความผิดได้อย่างนี้แล้วจึงต้องแยกใบเตือนทั้ง 3 กรณี ดังนี้

2.1   เมื่อพนักงานทำความผิดครั้งที่ 1 หัวหน้าก็ออกหนังสือตักเตือนโดยระบุเหตุผลว่าพนักงานละทิ้งหน้าที่ไป 1 วัน (ขาดงาน) โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และห้ามไม่ให้พนักงานทำความผิดอย่างนี้ซ้ำอีก 

ถ้าพนักงานทำความผิดอย่างนี้ซ้ำอีกบริษัทจะมีบทลงโทษยังไงก็ระบุลงไปในหนังสือตักเตือนฉบับนี้ เช่น ถ้าขาดงานแบบนี้อีกจะไม่ได้รับโบนัส ฯลฯ

2.2 ถ้าพนักงานยังขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรซ้ำอีก บริษัทก็ไม่จ่ายโบนัสให้ตามที่เตือนไปก่อนหน้านี้ และออกหนังสือตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายโดยระบุว่าเป็นหนังสือตักเตือนครั้งสุดท้ายที่ห้ามไม่ให้พนักงานละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเช่นนี้อีก ถ้าพนักงานยังฝ่าฝืนทำผิดแบบนี้ซ้ำอีก บริษัทจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น

2.3   ถ้าหากพนักงานทำความผิดแบบเดียวกันนี้ (ขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร) ซ้ำอีก บริษัทก็สามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยครับ เพราะเป็นความผิดซ้ำคำเตือนซึ่งบริษัทได้ออกหนังสือตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายเอาไว้แล้ว

2.4   ส่วนความผิดครั้งที่ 2 บริษัทต้องออกหนังสือตักเตือนอีกใบหนึ่งที่ไม่นำไปรวมกับครั้งที่ 1 เพราะความผิดครั้งที่ 2 เป็นความผิดเรื่องมาสายจะเป็นความผิดคนละเรื่องกับขาดงาน

2.5  บางบริษัทไปจับเอาความผิด 3 เรื่องนี้มารวมกันคือ ออกนังสือเตือนเมื่อพนักงานขาดงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรในครั้งที่ 1 แล้วพอพนักงานมาสายครั้งที่ 2 ก็ไม่จ่ายโบนัส และออกหนังสือเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าถ้าทำความผิดจนถูกออกหนังสือตักเตือนอีกครั้งจะถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น

            2.6 พอพนักงานขาดงานครั้งต่อมาบริษัทก็เลยเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยตามที่เคยออกหนังสือตักเตือนไว้เป็นครั้งสุดท้ายตามข้อ 2.5 

ตรงนี้แหละครับที่บริษัทจะต้องแยกแยะความผิดที่แตกต่างกันหรือความผิดคนละกระทงจะนำมาตักเตือนและลงโทษแบบต่อเนื่องเมดเล่ย์ให้เป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้ ต้องแยกการตักเตือนและลงโทษ 

เช่น ถ้าขาดงานก็ตักเตือนและลงโทษเรื่องขาดงาน ส่วนถ้ามาสายก็ต้องตักเตือนและลงโทษในเรื่องมาสาย จะจับทุกเรื่องมารวมกันแบบแกงโฮะไม่ได้ ขืนจับมาเหมารวมกันแบบนี้ก็ต้องระวังดราม่าต้องตามไปแก้ปัญหากันต่อในอนาคตนะครับ

………………………