วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566

คำถามเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ

            หลังจากที่วิเคราะห์ผลกระทบการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 450 บาท (ถ้ามีการปรับจริง) ว่าบริษัทจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อเตรียมรับผลกระทบไปแล้ว

            และจะพบว่าในช่วงหาเสียงเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองก็จะหาเสียงเรื่องการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ

            ซึ่งแน่นอนว่าทุกพรรคการเมืองจะเสนอตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำในเปอร์เซ็นต์สูงมากกว่าการปรับโดยไตรภาคี เช่น ในปี 2555-56 ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 40% ปี 2566 (ถ้ามีการปรับจริง) จะเพิ่มขึ้นประมาณ 27.5%

            ในขณะที่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำโดยไตรภาคีจะมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 5%

            ซึ่งการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้งจะมีผลกระทบตามมาหลายเรื่องอย่างที่เราท่านเห็นกันอยู่ ผลกระทบจะมากหรือน้อยก็จะแปรตามเปอร์เซ็นต์ของการปรับแต่ละครั้ง

            ผมก็เลยมีคำถามเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และหลักการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่เห็นมายาวนานหลายสิบปีอย่างนี้ครับ

1. การพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำควรเป็นหน้าที่ของใคร

            - ไตรภาคี หรือ

            - พรรคการเมือง

2. จะทราบได้อย่างไรว่าตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำที่คำนวณมาโดยพรรคการเมืองเหมาะสมแล้วเมื่อเทียบกับไตรภาคี

3. ถ้าตอบว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่คำนวณมาโดยพรรคการเมืองเหมาะสมแล้ว แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไตรภาคี

คำนวณต่ำกว่าความเป็นจริงมาโดยตลอดหรือ

และถ้าเป็นอย่างนั้นยังจำเป็นต้องมีไตรภาคีอยู่หรือไม่ หรือเราควรจะปฏิรูปวิธีการคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่แบบไหน ยังไง โดยใคร ถึงจะทำให้สมเหตุสมผลกว่าที่เป็นมาในอดีต

4. การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะช่วยยกระดับชีวิตแรงงาน Unskilled ได้ในระยะยาวจริงหรือ มีทางเลือกอื่นที่จะช่วยยกระดับชีวิตแรงงาน Unskilled ที่ดีกว่าการโฟกัสไปที่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นหลักหรือไม่

5. แรงงาน Unskilled ของไทยหรือต่างด้าวได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมากกว่ากัน และเป็นสัดส่วนระหว่างแรงงานไทยและต่างด้าวเท่าไหร่ และจะมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำมากน้อยเพียงใด

6. ทำยังไงที่จะพัฒนาแรงงานแบบ Unskilled Labor มาเป็น Skilled Labor ที่ตลาดต้องการแล้วจ่ายค่าจ้างตามทักษะวิชาชีพซึ่งจะเป็นการยกระดับฝีมือแรงงานและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นตามทักษะวิชาชีพอย่างสมเหตุสมผล

            ก็คงจะได้แต่ตั้งคำถามเอาไว้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออยากให้มีการทบทวนในเรื่องนี้ว่าควรจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปหรือควรจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหนถึงจะไม่เกิดความลักลั่นกันมากจนเกินไป

เผื่อว่าจะได้เอาไว้กลับมาดูในอีกหลาย ๆ ปีข้างหน้าว่าเราจะยังวนเวียนอยู่ในวัฏจักรแบบนี้หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

            คงต้องรอคำตอบจากเวลาที่ผ่านไปครับ