วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

Competency ของกรรมการสัมภาษณ์มีอะไรบ้าง ?


            ด่านสุดท้ายของการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงานคงหนีไม่พ้นการสัมภาษณ์ใช่ไหมครับ ? ซึ่งคณะกรรมการสัมภาษณ์ก็มักจะประกอบด้วยผู้บริหารที่องค์กรกำหนดขึ้นเช่น จากฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้จัดการฝ่าย (ที่จะเป็น) หัวหน้างานโดยตรงของผู้สมัครงาน (หากผ่านการสัมภาษณ์) หรือ อาจจะเพิ่มกรรมการสัมภาษณ์จากฝ่ายที่เป็นกลาง (เพื่อให้ความเห็นในแง่มุมของคนกลาง) เพื่อร่วมกันพิจารณาหาผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดจากผู้สมัครงานหลาย ๆ คนที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายคือการสัมภาษณ์

            หากองค์กร (โดยคณะกรรมการสัมภาษณ์) สามารถคัดเลือกผู้สมัครงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ว่างอยู่นั้นได้ตรง ผู้สมัครงานมีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ก็นับว่าเป็น โชคดี ขององค์กรนั้น ๆ

แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้ามก็คงเป็น โชคร้าย ขององค์กรนั้นด้วยเช่นกัน ??

            ผมหวังว่าองค์กรของท่านคงไม่ฝากอนาคตขององค์กรไว้กับ โชคดี หรือ โชคร้าย แบบนี้นะครับ 

            เพราะอะไร ?

            ก็เพราะเรื่องทั้งหมดที่ผมพูดมานี้ เราไม่ควรจะฝากไว้กับ โชค (ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม) น่ะสิครับ  แต่เราควรจะฝากไว้กับ Competency หรือคุณลักษณะ หรือสมรรถนะที่ดีและเหมาะสมในการสัมภาษณ์สำหรับผู้ที่จะเป็นกรรมการสัมภาษณ์งานต่างหาก !

            ลองอ่านตามผมมาสิครับ แล้วท่านจะพบว่าคุณลักษณะที่เหมาะสมของกรรมการสัมภาษณ์ควรจะมีอะไรบ้าง

กรรมการสัมภาษณ์งานประกอบด้วยใครบ้าง ?

            ผมอยากจะขอถามว่าในองค์กรของท่านมีเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้ง (ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ) กรรมการสัมภาษณ์กันอย่างไร ?

            ส่วนมาก (ที่ผมพบ) ก็จะแต่งตั้งให้ตัวแทนจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นกรรมการร่วมคนหนึ่ง (โดยหน้าที่ ที่ ต้องเกี่ยวข้องกับคน) อยู่แล้ว

            และต่อมาก็มักจะเป็นหัวหน้างาน (หรือผู้บริหาร) ในหน่วยงานที่ต้องการจะรับคนเข้ามาทดแทนในตำแหน่งงานที่ว่างอยู่นั้น เป็นกรรมการสัมภาษณ์  ซึ่งเหตุผลก็คือต้องการให้คนที่เป็นหัวหน้างานได้มีโอกาสในการคัดเลือก ได้เห็นหน้าเห็นตา พูดคุยกับว่าที่ลูกน้องเสียก่อน

            ในบางที่ก็อาจจะแต่งตั้งกรรมการสัมภาษณ์จากหน่วยงานที่เป็นกลางอีกสัก 1-2 หน่วยงานเข้ามาเป็นคนกลางช่วยในการพิจารณาเพื่อช่วยกันมอง (ผู้สมัคร) ในหลาย ๆ มุม

            แต่หลายครั้งกรรมการจากฝ่ายเป็นกลางมักไม่ค่อยอยากจะเข้ามาสัมภาษณ์เท่าไหร่นักเพราะมักจะบอกว่า งานยุ่ง หรือ คิดว่าไม่เกียวข้องกับตัวเอง

            ดังนั้นโดยทั่วไปมักจะมีกรรมการสัมภาษณ์คือตัวแทนจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล กับตัวแทนของหน่วยงานนั้น ๆ (ที่ได้รับมอบหมาย) ให้เข้ามาเป็นกรรมการสัมภาษณ์เสียเป็นส่วนใหญ่

ปัญหาในการตัดสินใจเพื่อคัดเลือกผู้สมัครงาน

เมื่อกรรมการสัมภาษณ์ประกอบด้วยตัวแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคล กับตัวแทนฝ่ายที่มีตำแหน่งงานว่างจึงเป็นที่มาของหัวข้อนี้แหละครับ

            ตัวแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั้น โดยทั่วไปเป็นอาชีพของเขาในการสัมภาษณ์ผู้สมัครงานอยู่แล้ว ประกอบกับการที่ได้สัมภาษณ์ผู้สมัครงานในลักษณะงานต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ และจะต้องผ่านการอบรมในหลักสูตรเทคนิคการสัมภาษณ์ ตลอดจนต้องมีการ Update ความรู้และวิธีการสัมภาษณ์แบบใหม่ ๆ เพื่อการตั้งคำถามที่จะทำให้สามารถแยกแยะ Competency ระหว่างผู้สมัครงานแต่ละคนอยู่แล้ว (ถ้าหากฝ่ายทรัพยากรบุคคลขององค์กรท่านไม่เคยติดตามเทคนิคการสัมภาษณ์งานยุคใหม่ ๆ แล้วล่ะก็ องค์กรของท่านจะมีปัญหาสารพัดในเรื่องของคนตามมาอีกมากมาย) จึงแน่ใจในระดับหนึ่งว่าเขาจะสามารถอ่านผู้สมัครงานได้ในระดับหนึ่ง

            ตัวแทนฝ่ายที่มีตำแหน่งงานว่าง (ที่ผมขอเรียกว่า Line Manager นะครับ) โดยทั่วไปตัวแทนในฝั่งของ Line Manager นี้มักจะเป็นกรรมการสัมภาษณ์ด้วยความจำเป็น (บังคับ) เพราะจะได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกว่าที่ลูกน้องของตัวเองในอนาคตนี่ครับ

            แต่ปัญหาของกรรมการสัมภาษณ์ที่เป็น Line Manager ก็คือ

1.                          ส่วนมาก (ที่ผมพบมา) ไม่เคยได้รับการอบรมในเรื่องของเทคนิคหรือวิธีการสัมภาษณ์งานมาก่อน

2.                          ไม่เคยอ่านประวัติการทำงานของผู้สมัครงาน (Resume) หรือใบสมัครงานที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลส่งให้ดูก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ (เหตุผลที่ผมมักจะได้รับคืองานยุ่งจนไม่มีเวลาอ่าน)

3.                          จากเหตุผลตามข้อ 2 จึงไม่เคยมีการเตรียมคำถามที่จะใช้ถามผู้สมัครงาน  ที่เรียกกันว่า Structured Interview ดังนั้นคำถามทั้งหมดจะเป็นถามโดยตั้งคำถามเฉพาะหน้าในห้องสัมภาษณ์เดี๋ยวนั้นเองซึ่งเขามักจะเรียกกันว่า Unstructured Interview

4.                          จากผลของข้อ 3 จึงทำให้คำถามของผู้สมัครงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ มีหลากหลายอยู่ที่อารมณ์หรือความสนใจของกรรมการสัมภาษณ์งานที่เป็น Line Manager ผลจึงทำให้ผู้สมัครงานได้รับคำถามที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ว่า Line Manager จะถามผู้สมัครงานรายไหนด้วยคำถามใด

5.                          จากข้อ 4 เมื่อการสัมภาษณ์ผู้สมัครงานครบหมดทุกคน แล้ว Line Manager จะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตรงกับตำแหน่งงานมากที่สุด จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ??

ท่านเห็นไหมครับว่าจากปัญหาในข้อ 1 จะมีผลกระทบโยงใยมาจนถึงข้อ 5 ซึ่งในหลายองค์กรที่ผมเคยทำงานมา (ไม่ต่ำกว่า 20 ปี) นั้น เป็นแบบนี้จริง ๆ ครับ !!

ผลเสียจากการใช้ความรู้สึกในการคัดเลือกคนเข้าทำงาน

            จากปัญหาข้างต้นท่านทราบไหมครับว่าแล้วกรรมการสัมภาษณ์เขาใช้อะไรตัดสินใจผู้สมัครงาน ??

            ความรู้สึก เป็นคำตอบสุดท้ายครับ ! 

            หากองค์กรของท่านยังใช้ ความรู้สึก ในการตัดสินใจคัดเลือกคนเข้าทำงานแล้วล่ะก็ อันตรายกับองค์กรของท่านในหลาย ๆ เรื่องนะครับ เช่น

            1. องค์กรของท่านอาจจะได้คนที่มีทัศนคติไม่ดีเข้ามาร่วมงาน โดยอาจจะยังไม่แสดงให้เห็นในทันที    แต่เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งคน ๆ นี้อาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับองค์กรในเรื่องต่าง ๆ ตามมาในภายหลังอย่างคาดไม่ถึง

            2. คนที่เข้ามาทำงานมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ เรียกว่าผู้สมัครงานไม่มี Competency ที่ตรงกับงานก็ได้ครับ  ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายที่หลาย ๆ องค์กรมองข้าม  ท่านลองดูต้นทุนการลาออกของพนักงานข้างล่างนี้ดูสิครับ

ตัวอย่างต้นทุนการลาออกของพนักงานทางตรง (หน่วย : บาท)

-          ค่าโฆษณารับสมัครงาน                                       ..............

-          ค่า Headhunter                                                  …………

-          ค่าแนะนำผู้สมัครงานภายใน                                …………

-          ค่าพิมพ์ใบสมัครงาน                                           …………

-          ค่าย้ายสถานที่ทำงาน                                          …………

-          ค่าใช้จ่ายสำนักงานทำหรับการจ้าง                        …………

-          เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน                     …………

-          ค่าเข้าร่วมงาน Job Fair                                      …………

รวมต้นทุนทางตรง                                           …………

ต้นทุนทางตรง หาร จำนวนผู้สมัครงานที่จ้างเข้ามา………...



ต้นทุนการลาออกของพนักงานทางอ้อม (หน่วย : บาท)

-          เวลาในการสรรหาคัดเลือก (คิดเป็นเงิน)                 ………….

-          เวลาของกรรมการสัมภาษณ์ (คิดเป็นเงิน)              ………….

-          ค่าใช้จ่ายในการปฐมนิเทศและฝึกอบรมเบื้องต้น      ………….

รวมต้นทุนทางอ้อม                                             ………….

ต้นทุนทางอ้อม หาร จำนวนผู้สมัครงานที่จ้างเข้ามา………...

รวมต้นทุนลาออกของพนักงานทางตรง+ทางอ้อม   ………….

      ท่านลองเรียกตัวเลขนี้มาจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล แล้วลองคำนวณดูสิครับ แล้วท่านจะพบว่าหลายองค์กรมีการสูญเสียค่าใช้จ่ายที่ฝากไว้กับ ความรู้สึก ของกรรมการสัมภาษณ์เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยนะครับ !

      เมื่อท่านเห็นอย่างนี้แล้วท่านคงเริ่มเห็นความสำคัญของการกำหนด Competency ของผู้ที่จะเป็นกรรมการสัมภาษณ์แล้วใช่ไหมครับ ?

Competency ของกรรมการสัมภาษณ์

            ก่อนที่จะพูดถึง Competency ของคนที่จะเป็นกรรมการสัมภาษณ์นั้น สิ่งแรกที่องค์กรควรจะต้องทำคือการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการสัมภาษณ์อย่างถูกต้องกับกรรมการสัมภาษณ์เสียก่อน เช่น

1.      การส่งกรรมการสัมภาษณ์เข้าอบรมเทคนิคและวิธีการสัมภาษณ์ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ทราบถึงบทบาท หน้าที่ ความสำคัญ และวิธีการสัมภาษณ์ผู้สมัครงานในยุคใหม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

2.      ควรมีการจัดทำคู่มือการสัมภาษณ์งาน หรือจัดหาหนังสือที่เกี่ยวกับเทคนิคการสัมภาษณ์งาน ที่ปัจจุบันก็มีหลาย ๆ เล่มที่เขียนมาน่าสนใจ และให้ความรู้ในเรื่องเหล่านี้กับผู้ที่จะต้องเป็นกรรมการสัมภาษณ์  เพื่อให้กรรมการสัมภาษณ์ได้อ่านทำคความเข้าใจ เพื่อพัฒนาวิธีการสัมภาษณ์เพื่อให้สามารถเลือกคนที่เหมาะสมกับงานของตนเองที่สุด  ซึ่งผมเชื่อว่าไม่ว่าหัวหน้าคนไหนก็ต้องอยากได้ลูกน้องดี ๆ มาทำงานด้วยจริงไหมครับ  ดังนั้นฝ่ายทรัพยากรบุคคลจึงต้องจูงใจ Line Manager ให้อ่านหนังสือด้วยการสร้างแรงจูงใจ (กรณีที่เขาไม่อยากเข้าอบรมตามข้อ 1) แบบนี้แหละครับ

3.      องค์กรจะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนและให้ความสำคัญในเรื่องการสรรหาคัดเลือกพนักงานที่มี คุณสมบัติ (Competency) เหมาะตรงกับงาน  และมีการทำสถิติในเรื่องการลาออกของพนักงานของแต่ละหน่วยงาน  โดยพิจารณาถึงพนักงานที่เข้ามาใหม่อายุงานไม่เกิน 1 ปี ว่าในหน่วยงานใดมีพนักงานเข้าใหม่ดังกล่าวลาออกในช่วงเวลาใดบ้าง คิดเป็นต้นทุนที่องค์กรสูญเสียไปเท่าใด  เพื่อติดตามผลของการคัดเลือก และปรับปรุงวิธีการคัดเลือกบุคลากรต่อไป

สำหรับ Competency สำหรับผู้ที่จะเป็นกรรมการสัมภาษณ์ที่ควรจะต้องมีคือ

1.      ความรู้ในธุรกิจขององค์กร

2.      ความรู้ในวัฒนธรรมขององค์กร

3.      ความใฝ่รู้

4.      มนุษยสัมพันธ์ และการอ่านบุคลิกภาพของคน

5.      ทักษะในการฟัง และการตั้งคำถาม

6.      ทักษะการสื่อสารด้วยวาจา

7.      การควบคุมอารมณ์และบุคลิกภาพ

8.      ความละเอียดรอบคอบ

9.      การตัดสินใจ

ทั้งเก้าข้อข้างต้นจึงเป็น Competency ที่กรรมการสัมภาษณ์งานควรจะต้องมีเพื่อการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติ หรือมีสมรรถนะ(Competency) ที่เหมาะตรงกับตำแหน่งงานที่ต้องการ  เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นกับองค์กรในภายภาคหน้า (ดังที่ผมได้กล่าวไปแล้วข้างต้น)

            และที่สำคัญที่สุด องค์กรของท่านยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนสูญเปล่า (ที่ท่านคาดไม่ถึง) ดังที่ผมได้นำเสนอท่านไปแล้วอีกด้วย

            ดังนั้น....

            หากคนที่เป็นกรรมการสัมภาษณ์ยังไม่มี Competency ที่เหมาะสมแล้ว

            ท่านจะหวังให้ผู้สมัครงานที่ถูกคัดเลือกเข้ามา มี Competency เหมาะสมกับตำแหน่งงาน และองค์กรได้อย่างไรล่ะครับ ?



……………………………………………