วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เบี้ยขยันเป็นค่าจ้างหรือไม่ ?

          เบี้ยขยันถือเป็นค่าจ้างหรือไม่ ?

            ผมคงต้องขอยกเอาความหมายของ “ค่าจ้าง” ตามมาตรา 5 ของกฎหมายแรงงานมาเพื่อความเข้าใจกันในที่นี้อีกครั้งดังนี้

ค่าจ้าง  หมายความว่า เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายแก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างมิได้ทำงาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัตินี้

            จากนิยามค่าจ้างข้างต้น “เบี้ยขยัน” จะเป็นค่าจ้างหรือไม่ ก็ต้องมาดูในข้อเท็จจริงสิครับว่าเบี้ยขยันของบริษัทของท่านมีวิธีการจ่ายกันอยู่ยังไง

            เช่น ถ้าผู้บริหารเห็นว่าหมู่นี้พนักงานมาสาย เริ่มขี้เกียจ ทำงานไม่ค่อยจะเสร็จตามเป้าหมายก็เลยให้มีการจ่ายเบี้ยขยันให้กับพนักงาน

โดยมีเงื่อนไขของการจ่ายว่า บริษัทจะจ่ายเบี้ยขยันให้กับพนักงานที่ไม่เคยมาทำงานสาย ขาดงาน ลางาน เกินกี่วัน แต่ถ้าป่วย สาย ลา ขาดงาน ตั้งแต่กี่วันจะได้รับค่าเบี้ยขยันลดลงเหลือกี่บาท จนกระทั่งถ้าเกินกว่านี้ก็จะไม่ได้รับเบี้ยขยัน

หรือถ้าพนักงานทำงานได้ผลงานสูงกว่าเป้าหมาย 10 เปอร์เซ็นต์จะได้เบี้ยขยันเดือนละ 1,000 บาท ถ้าทำงานสูงกว่าเป้าหมายเกิน 20 เปอร์เซ็นต์จะได้เบี้ยขยันเพิ่มเป็นเดือนละ 2,000 บาท เป็นต้น

ซึ่งมีวัตถุประสงค์โดยสรุปก็เพื่อต้องการจูงใจให้พนักงานมาทำงานโดยไม่มาสายหรือขาดงานนั่นแหละครับ หรือจ่ายเพื่อให้เป็นแรงจูงใจตามผลงานที่พนักงานทำได้

            ถ้าหากบริษัทจ่ายเบี้ยขยันในลักษณะที่มีเงื่อนไขเพื่อสร้างแรงจูงใจแบบนี้แล้วเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาดังนี้

          “เบี้ยขยันที่นายจ้างนำมาจูงใจให้ลูกจ้างทำงานให้แก่นายจ้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยขยันต้องเป็นผู้ไม่ขาดงาน ไม่ลางาน ไม่มาทำงานสาย นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างต่างหากจากค่าจ้างปกติ เป็นเงินค่าตอบแทนความขยัน มิใช่ค่าจ้าง” (ฎ.9313-9976/2547)

            สรุปได้ว่าถ้ามีการจ่ายค่าเบี้ยขยันโดยมีเงื่อนไขระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนอย่างที่ผมบอกมาข้างต้นแล้ว เบี้ยขยันจะไม่ถือว่าเป็นค่าจ้าง

            ยังไงก็ตาม ผมมีข้อคิดไว้บางประการคือในบางบริษัทมีการจ่ายเบี้ยขยันแบบเท่ากันทุกเดือนโดยไม่ได้มีเงื่อนไขทำนองเดียวกับที่บอกไว้ข้างต้น เช่น บริษัทให้เบี้ยขยันแบบเหมาจ่ายเดือนละ  1,000 บาททุกคนโดยไม่ต้องมาดูว่าใครทำงานมีผลงานเป็นยังไง หรือไม่ต้องดูเรื่องการมาทำงานป่วย สาย ลา ขาดงานอะไร พูดง่าย ๆ ว่าจ่ายแบบไม่มีเงื่อนไขเท่ากันทุกคนเบี้ยขยันแบบนี้ก็จะกลายเป็น “ค่าจ้าง” นะครับ

ลองหันกลับมาดูนะครับว่าปัจจุบันบริษัทของท่านมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่ายเบี้ยขยันกันยังไงและปฏิบัติจริงเป็นยังไง ยังมีลักษณะเป็นค่าจ้างหรือไม่ใช่ค่าจ้างจะได้ลดปัญหาในอนาคตลงครับ

                                                     ....................................

ฟังพ็อดแคสต์คลิ๊ก

https://tamrongs.podbean.com/e/ep127%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%82%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99/