วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สาเหตุที่ทำให้ไม่ก้าวหน้าในงาน

             เวลามีคนมาทักเราว่า “แหม..นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วเธอยังเหมือนเดิมเลยนะ” ผมว่าหลายคนที่ถูกทักอย่างงี้คงจะรู้สึกดีจริงไหมครับ เพราะส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงรูปร่างหน้าตาที่ยังดูอ่อนเยาว์ หรือยังมีนิสัยดีเสมอต้นเสมอปลาย

            แต่ถ้าคำทักทายข้างต้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่การงานล่ะ..มีใครอยากอยู่ในตำแหน่งเดิมไปเรื่อย ๆ โดยไม่ก้าวหน้าบ้างไหม

หรือพูดง่าย ๆ ว่าวันเวลาที่ผ่านไปก็ไม่อาจทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเปลี่ยนแปลงไปได้เลย คือเคยเข้ามาทำงานเมื่อสิบปีก่อนในตำแหน่งไหน เดี๋ยวนี้ก็ยังคงเป็นขวัญใจน้อง ๆ รุ่นใหม่ในตำแหน่งนั้นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือมีความเป็นอมตะในตำแหน่งเดิม

            จากตรงนี้ผมก็เลยมาลองคิดต่อไปจากประสบการณ์ของผมว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนทำงานยังคงอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงตามนี้ครับ....

1.      ทำงานเท่าเงินเดือน : คนพวกนี้มักจะมีคำพูดติดปากว่า “บริษัทให้เงินเดือนเท่านี้ก็ทำแค่นี้แหละจะเอาอะไรกันมากมาย....” เรียกว่าจ่ายแค่ไหนก็ทำให้แค่นั้น จ่าย 100 ก็ทำให้ 100 ก็พอแล้ว (เผลอ ๆ จะทำน้อยกว่า 100 อีกต่างหาก) จะเอาอะไรกันนักกันหนาคือมักจะทำตัวเป็นคล้ายแมวน้ำหรือปลาโลมาที่จะกระโดดลอดห่วงก็ต่อเมื่อครูฝึกป้อนปลาให้กินเท่านั้น

2.      ทำงานแค่หน้าตัก มักจะยึดแค่ JD เป็นสรณะ : คือตามหัวข้อเลยครับ ทำงานตาม JD ถ้ามีนอกเหนือจากนั้นก็จะเกี่ยงงานโดยอ้างเหตุผลสารพัด งานอะไรที่ได้รับมอบหมายมาใหม่ก็ไม่อยากเรียนรู้ไม่อยากรับผิดชอบ

3.      ปฏิเสธความก้าวหน้า เมื่อมีโอกาสมาก็ไม่รับ : ไม่อยากรับผิดชอบอะไรให้มากกว่านี้ ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงทำแค่นี้ก็พอแล้ว

4.      ความถนัด/ความสามารถไม่ตรงกับงานที่ทำ : ไม่เคยสำรวจตัวเองเลยว่าตัวเองมีความถนัดหรือมีความสามารถอะไรบ้าง เปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาตัวเองแต่ก็หลายปีผ่านไปยังค้นไม่เจอซะที

5.      ไม่เคยวางแผนหรือมีเป้าหมายในชีวิต : ใช้ชีวิตอย่างไม่มีเป้าหมาย ขาดแรงบันดาลใจและเปะปะ ก่อนที่เรือเล็กจะออกจากฝั่งจะต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนเสียก่อนนะครับว่าเราจะไปที่ไหนใช้เวลาเท่าไหร่จะไปถึงจุดหมายได้ยังไงไม่งั้นก็เคว้งคว้างอยู่กลางทะเลนั่นแหละ

6.      อยู่ในองค์กรที่ไม่เคยมีการวาง Career Path : จะเรียกว่าโชคไม่ดีก็ได้เพราะไปทำงานอยู่ในบริษัทที่ไม่เคยคิดถึงความเติบโตก้าวหน้าของลูกจ้างพนักงานบ้างเลย, ผู้บริหารใช้งานพนักงานไปแบบวัน ๆ ให้ได้เงินมีรายได้เข้าเป้าของบริษัทก็พอแล้ว, ผู้บริหารจิตใจคับแคบกับพนักงาน

7.      ได้หัวหน้าไม่ดี : มีหัวหน้าที่ขี้อิจฉา บ้าอำนาจ ไม่เคยคิดพัฒนาลูกน้อง ไม่เคยสอนงานลูกน้อง ไม่เคยส่งเสริมความก้าวหน้าของลูกน้องให้ได้เลื่อนตำแหน่ง หัวหน้าจิตใจคับแคบ เอาเปรียบลูกน้อง เอาดีเข้าตัวเอาชั่วโยนลูกน้อง โลเลเปลี่ยนใจไปมา ไม่กล้าแก้ปัญหาไม่กล้าตัดสินใจ

8.      ประชาสัมพันธ์ตัวเองไม่เป็น :  ทำงานดีแต่ไม่เคยมีการประชาสัมพันธ์ให้โลกรู้บ้างเลยว่าเราทำอะไรไปบ้างที่เป็นผลงานที่ดี-เด่น-ดัง เป็น Signature มีลายเซ็นให้ทุกคนได้รู้ว่านี่คือผลงานของเรา หลายคนที่ทำงานดีมีความสามารถแต่ PR ตัวเองไม่เป็นก็จะกลายเป็นพนักงานเก่งและดีที่โลกลืม แล้วก็มองข้ามไป ไม่รู้จักใช้สื่อโซเชียลหรือสื่ออื่น ๆ ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองบ้างเลย

9.      มีทัศนคติที่ดูถูกตัวเอง : ชอบพูดหรือคิดกับตัวเองว่า....เรื่องนี้เราทำไม่ได้หรอกเพราะใคร ๆ เขายังทำไม่ได้เลยแล้วเราจะทำสำเร็จได้ยังไง, เรื่องนี้ยากไม่มีวันทำได้, คนเก่งกว่าเรายังมีอีกตั้งเยอะให้เขาทำไปก็แล้วกัน ฯลฯ มีปัญหาในทุกคำตอบแทนที่จะหาคำตอบในแต่ละคำถาม ฯลฯ ตรงนี้ผมอยากจะบอกว่า.... “ใครจะดูถูกเราก็ไม่แย่เท่าเราดูถูกตัวเอง” ครับ ต่อให้เก่งยังไงถ้ามีทัศนคติลบมากกว่าบวกคนเก่งเหล่านั้นก็ไปไหนไม่ได้ไกลหรอกครับ

          และขอตบท้ายว่า “ความก้าวหน้าและมั่นคงขึ้นอยู่กับตัวของเรา

ไม่ใช่หัวหน้าหรือองค์กร”

          จริงไหมครับ?

 

………………………………………..