วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จะเรียกเก็บเงินค้ำประกันการทำงานได้หรือไม่ จะเก็บเงินค้ำประกันเข้าบัญชีบริษัทได้ไหมจะยึดเงินค้ำประกันการทำงานได้ไหม?


ถาม : บริษัทจะเรียกเก็บเงินค้ำประกันการทำงานจากพนักงานทดลองงานได้หรือไม่

ตอบ : บริษัทจะเรียกรับหลักประกันการทำงานได้เฉพาะตำแหน่งงานที่สภาพงานนั้นลูกจ้างจะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้างซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ (ตามม.10) 

           ตำแหน่งที่ไม่ได้มีลักษณะหรือสภาพงานเป็นไปตามที่ระบุไว้ในมาตรา 10 บริษัทจะไปเรียกเก็บหลักประกันการทำงานไม่ได้หรือแม้แต่เรียกให้นำตัวบุคคลมาค้ำประกันการทำงานก็ไม่ได้ด้วยครับ

ถาม : กรณีตำแหน่งที่บริษัทสามารถจะเรียกเงินค้ำประกันการทำงานได้ บริษัทจะนำเงินค้ำประกันมาเข้าบัญชีของบริษัทได้หรือไม่

ตอบ : ไม่ได้ครับ บริษัทจะต้องทำตามกฎกระทรวงลงวันที่ 3 มิย.2551 (ดูกฎกระทรวงเรื่อง “เงินค้ำประกันการทำงาน” โดย Search คำนี้ในกูเกิ้ลแล้วดาวน์โหลดมาอ่าน) พูดโดยสรุปง่าย ๆ คือเรียกได้ไม่เกิน 2 เท่าของค่าจ้างแล้วนำมาเปิดบัญชีธนาคารหรือสถาบันการเงินให้เป็นชื่อของลูกจ้างแล้วแจ้งให้ลูกจ้างทราบรายละเอียดภายใน 7 วันนับแต่วันที่รับเงินค้ำประกันมาจากลูกจ้าง เมื่อลูกจ้างพ้นสภาพพนักงานแล้วไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายบริษัทก็ต้องคืนสมุดบัญชีเงินฝากคืนให้กับลูกจ้าง

ถาม : ถ้าบริษัทฝ่าฝืนเรียกเก็บเงินค้ำประกันการทำงานในตำแหน่งที่กฎหมายห้ามเรียกเก็บ หรือไม่ทำตามกฎกระทรวงเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเรียกรับหลักประกันการทำงานล่ะ จะมีโทษยังไง

ตอบ : จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คนรับโทษคือคนที่เป็น “นายจ้าง” ซึ่งก็มักจะเป็นกรรมการผู้จัดการที่มีอำนาจทำการแทนบริษัทครับ

ถาม : ถ้าพนักงานไม่ผ่านทดลองงานเพราะมีผลการทำงานไม่ดี หรือเกเรไม่รับผิดชอบงานในระหว่างทดลองงาน บริษัทจะยึดเงินค้ำประกันการทำงานได้หรือไม่

ตอบ : ไม่ได้ครับ ถ้าพนักงานไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทเมื่อพนักงานพ้นสภาพก็ต้องคืนเงินค้ำประกันการทำงาน (ซึ่งก็คือสมุดบัญชีเงินฝาก) ให้กับพนักงาน

....................................