วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ที่ทำงานปัจจุบันให้ 15,000 ที่ใหม่ให้ 25,000 เมื่อยื่นใบลาออกหัวหน้าที่ปัจจุบันเรียกคุยและบอกว่าจะปรับให้เท่ากับที่ใหม่..จะทำที่เดิมต่อไป หรือไปที่ใหม่ดี ทำงานที่นี่มา 8 ปีแล้ว ตอนเริ่มงานได้ 8,500 บาท ?

ตอบ

เริ่มต้นทำงานได้ 8,500 บาท ทำงานมา 8 ปี ผมคิดให้คุณได้ขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยปีละ 5 เปอร์เซ็นต์  ปัจจุบันก็จะมีเงินเดือนประมาณ 12,500 บาท

แต่ถ้าได้ขึ้นเงินเดือนปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันก็จะมีเงินเดือนประมาณ 18,200 บาท

แต่ปัจจุบันคุณรับอยู่ 15,000 บาท จากข้อมูลที่คุณบอกมาผมก็คาดว่าคุณคงมีผลการปฏิบัติงานดีกว่าระดับปานกลางเล็กน้อย

ถามว่าทำไมผมถึงทราบ..ก็เพราะอัตราขึ้นเงินเดือนประจำปีโดยเฉลี่ยจากผลการสำรวจของค่ายต่าง ๆ จะอยู่ที่ปีละประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์มาหลายปีแล้วครับ ซึ่งถ้าใครผลงานดีก็จะได้ขึ้นเงินเดือนมากกว่าค่าเฉลี่ยถ้าใครได้ขึ้นเงินเดือนน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ก็แสดงว่าผลงานน่าจะต่ำกว่ามาตรฐาน

ซึ่งถ้าคุณมีผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานคุณก็น่าจะได้รับเงินเดือนอยู่ประมาณ 12,500 บาท คือได้รับประมาณค่าเฉลี่ยของตลาดไงครับ แต่นี่คุณได้รับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเล็กน้อยก็เลยคาดว่าคุณคงมีผลการปฏิบัติงานที่สูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อย

คราวนี้เมื่อคุณไปสมัครงาน แล้วที่ใหม่เขาเสนอให้คุณ 25,000 บาท ก็เท่ากับคุณจะได้ปรับเงินเดือนขึ้นมาประมาณ 67 เปอร์เซ็นต์ แถมเมื่อมายื่นใบลาออกหัวหน้าก็บอกว่าจะปรับให้เท่าที่ใหม่ (คือ 25,000 บาท) คุณก็เลยลังเล ?!?

ข้อสังเกตของผมก็คือ

1.      ด้วยผลการทำงานของคุณที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับปัจจุบันก็ยังถือว่าสมเหตุสมผล บริษัทไม่ได้เอาเปรียบในเรื่องการกดเงินเดือนคุณมากจนเกินไปนัก

2.      ที่ใหม่ให้สูงกว่าที่ได้รับปัจจุบันประมาณ 67 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องปกติซึ่งเขาก็ต้องให้เงินเดือนสูงกว่าเดิม เพราะถ้าไม่งั้นจะดึงคนมาทำงานได้ยังไงล่ะ แต่แน่นอนว่าที่ใหม่ก็ต้องคาดหวังว่าคุณจะต้องทำงานให้เขาได้อย่างที่เขาต้องการ เช่น อาจจะมี KPIs (Key Performance Indicators) กำหนดว่าคุณจะต้องทำอะไรเมื่อไหร่ เป้าหมายเป็นอย่างไร เป็นต้น

3.      ที่ปัจจุบันอาจจะขาดหลักในการบริหารค่าตอบแทนให้สัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงานทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ กล่าวคือถ้าคุณมีผลงานดี มีศักยภาพ ก็ควรจะ “ให้” ก่อนที่พนักงานจะไป นั่นคือควรมีการปรับเงินเดือน (ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลการปฏิบัติงาน) หรือปรับเงินเดือนกรณีพิเศษตามผลงานหรือการเลื่อนตำแหน่งและปรับเงินเดือนให้อย่างเหมาะสม แต่นี่กลับมา “ให้” หลังจากที่พนักงานมายื่นใบลาออกซึ่งก็ทำให้พนักงานคิดได้ว่า แล้วที่ผ่านมาคุณกดเงินเดือนฉันไว้ทำไม ก็ทำให้เสียความรู้สึกไม่น้อย นี่เป็นตัวอย่างของการวิธีบริหารจัดการในเรื่องค่าตอบแทนอย่างไม่เหมาะสม ที่เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้องค์กรต้องเสียคนดีมีฝีมือไปเสียก่อนแล้วค่อยมาคิดหาวิธีป้องกันเข้าทำนองวัวหายล้อมคอก

4.      หัวหน้าของคุณมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร, สัมพันธภาพระหว่างคุณกับหัวหน้ายังอยู่ในวิสัยที่จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่, คุณจะมีโอกาสได้เรียนรู้งาน หรือหัวหน้างานของคุณเป็นคนเก่งที่จะถ่ายทอดสอนงานให้คุณมีความรู้ความสามารถในงานเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่, ตัวคุณเองมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง, พร้อมที่จะสร้างสังคมใหม่คือหาเพื่อนร่วมงานใหม่, พร้อมปรับตัวกับสถานที่ทำงานใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน และงานใหม่มีความท้าทาย หรือมีอะไรให้คุณได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น หรือมีงานอะไรอย่างที่อยากจะทำมากน้อยแค่ไหน, มีโอกาสจะเติบโตก้าวหน้าในที่ใหม่มากน้อยแค่ไหน (เสียดายว่าคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาว่าตำแหน่งที่ใหม่สูงขึ้นกว่าเดิมหรือไม่) เป็นต้น

ผมอยากให้นั่งนิ่ง ๆ แล้วลองสำรวจตัวเองดูให้ดี ๆ ถ้าคุณยังเห็นว่าถ้าอยู่กับบริษัทในปัจจุบันแล้วคุณยังมีโอกาสก้าวหน้า, หัวหน้ายังสนับสนุน, ได้เรียนรู้งานเพิ่มขึ้น, บริษัทยังมีโอกาสเติบโตต่อไปได้ ก็ตัดสินใจอยู่ที่เดิม

แต่ถ้าสัมพันธภาพของคุณกับหัวหน้าไม่ดี, ขาดโอกาสก้าวหน้า, ทำงานไปเขาก็ไม่เห็นผลงาน, ที่ปรับเงินเดือนให้เพิ่มก็เพราะยังหาคนมาทำแทนคุณไม่ได้ อย่างนี้ก็ตัดสินใจไปที่ใหม่เถอะครับ

มีคำพูดหนึ่งที่น่าคิดคือ “เราไม่ควรทำสงครามในสมรภูมิที่เราไม่มีโอกาสชนะ” ดังนั้น คุณก็ต้องมาประเมินตัวเองดูว่าคุณยังมีโอกาสจะชนะในสนามปัจจุบันหรือไม่ ถ้ายังมีโอกาสชนะก็อยู่ต่อ

แต่ถ้าคุณประเมินแล้วว่าไม่มีโอกาสชนะ และตัวของคุณเองมีความสามารถ (Competency) ที่พร้อมจะชนะได้ในสนามอื่นก็ลงแข่งที่สนามใหม่ดีกว่าครับ

             เพราะคำตอบสุดท้ายจะอยู่ที่ตัวของคุณเอง ถ้าคุณเป็นคนมีฝีมือ มีศักยภาพ มีขีดความสามารถแล้วไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็มีคนต้องการคุณอยู่ดี ตราบใดที่คุณยังมีการพัฒนาตัวเอง สร้างผลงานดี ๆ ออกมาแล้ว คนรอบข้างย่อมจะมองเห็นได้เสมอ และคุณก็จะเป็นที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นที่บริษัทเดิม หรือบริษัทใหม่ต่อไปในอนาคตก็ตาม

ที่สำคัญคืออย่ามองแค่การตัดสินใจเพียงครั้งนี้นะครับ เพราะต่อไปเรื่องทำนองนี้ก็คงจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งคุณก็จะต้องมาตัดสินใจอีกว่าจะอยู่ที่เก่าหรือไปที่ใหม่ดี ?

            การตัดสินใจย่อมมีโอกาสถูกต้องและผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องจำความผิดพลาดไว้เพื่อระวังป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำสอง

            ขอให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องในครั้งนี้นะครับ

…………………………………..