วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

อจินไตยในการบริหารคน

             คำว่า “อจินไตย” หมายถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสว่าคนทั่วไปไม่ควรคิดให้ปวดหัวเพราะคิดไปก็เหมือนพายเรือในอ่างไม่มีประโยชน์ คิดไปก็ทำให้สับสนวนเวียนทำให้ไปไม่ถึงนิพพานมีอยู่ 4 เรื่องคือ

            พุทธวิสัย คือการเป็นพระพุทธเจ้าเป็นได้ยังไง ทำยังไงถึงได้เป็นพระพุทธเจ้า ฯลฯ

            ฌานวิสัย คือคนที่ได้ฌาณมีอิทธิฤทธิ์นั้นเขาทำได้ยังไง ฯลฯ

            เรื่องของโลก เช่นโลกเกิดมาได้ยังไง โลกจะแตกเมื่อไหร ฯลฯ

            วิบากกรรม เช่นคิดว่าทำไมคน ๆ นี้ทำกรรมในอดีตชาติมายังไงถึงได้มารับกรรมแบบนี้ในชาตินี้ ฯลฯ

            เอาล่ะครับผมขอแตะเรื่องอจินไตยทางพุทธศาสนาไว้แค่นี้เพื่อไม่ให้เยอะเกินไป ก็เลยจะขอเข้าเรื่องอจินไตยในการบริหารคนเลยดีกว่า

            อจินไตยในการบริหารคนที่ผมจะพูดนี้จะเกี่ยวข้องกับข้างต้นคือเป็นเรื่องของโลกและวิบากกรรมแหละครับ

การที่คนเรามาทำงานร่วมกันมาพบเจอกันในโลกใบนี้ได้ก็คงจะต้องเคยทำบุญหรือทำกรรมร่วมกันมาบ้างแหละ ไม่งั้นทำไมเราถึงไม่ไปเจอกับคนอื่น ๆ อีกหลายพันล้านคนบนโลก แต่ต้องมาเจอกับหัวหน้า, ลูกน้อง, เพื่อนร่วมงานในปัจจุบันนี้ด้วยล่ะ

ท่านเปรียบไว้ว่าคนเราตั้งแต่สองคนขึ้นไปเมื่อมาทำงานด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็เสมือนการสวมกำไลไว้ในข้อมือข้างเดียวกัน ก็ย่อมจะมีการกระทบกระทั่งกันได้เป็นธรรมดา

            คราวนี้พอมาเจอกันต้องมาทำงานร่วมกันแล้วก็จะมีปัญหามากบ้างน้อยบ้าง ปัญหาใหญ่บ้างเล็กบ้าง ซึ่งปัญหาในเรื่องของคน

นี่แหละที่ทำให้คนหลายคนมาคิดวนเวียนซ้ำซากแบบหาคำตอบไม่ได้ว่า “ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้ด้วย” หรือ “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย” ฯลฯ

            ความคิดทำนองนี้แหละครับที่ผมเห็นว่าเป็นอจินไตยคิดไปก็ปวดหัวเสียเวลาเปล่า สู้เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นจะดีกว่า

            อจินไตยในการบริหารคนที่ผมว่าคิดไปก็หาบทสรุปได้ยากก็เช่น....

1.      ทำไมเราไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเสียที เมื่อไหร่หัวหน้าถึงเสนอให้เราได้เลื่อนตำแหน่ง

2.      ทำไมหัวหน้าขึ้นเงินเดือนให้เราน้อยกว่าเพื่อนเราทั้ง ๆ ที่เพื่อนก็ไม่เห็นจะทำงานได้ดีกว่าเราเลย

3.      ทำไมปีนี้เราถึงได้โบนัสน้อยกว่าปีที่แล้วทั้ง ๆ ที่ผลงานเราก็ไม่ได้แย่ลงสักหน่อย

4.      เมื่อไหร่หัวหน้าของเราจะปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีขึ้นกว่านี้ หัวร้อนน้อยกว่านี้ ใจเย็นกว่านี้บ้าง รับฟังเราบ้าง

5.      เมื่อไหร่หัวหน้าคนนี้ (ที่เราไม่ชอบ) จะถูกย้ายหรือลาออกไปเสียที

6.      ทำไมหัวหน้าถึงไม่ชอบขี้หน้าเรา

7.      เราเคยทำกรรมอะไรหนอไว้ถึงได้มาเจอหัวหน้า (ที่ไม่ดีกับเรา) อย่างนี้ ขนาดเราหายใจก็ยังผิดเลย

8.      ทำไมคนประจบสอพลอถึงเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่คนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานกลับไม่ก้าวหน้า

9.      งานในที่ใหม่จะดีกว่างานที่เราทำอยู่ที่นี่ไหม

10.   หัวหน้าในที่ทำงานใหม่จะดีกว่าหัวหน้าของเราในปัจจุบันไหม

11.   ถ้าเราไปเริ่มงานที่ใหม่แล้วไม่ผ่านทดลองงานแล้วชีวิตการทำงานของเราจะเป็นยังไง

12.   ระบบการประเมินผลงานแบบไหนที่ดีที่สุด

            เรื่องข้างต้นนี่แหละครับที่ผมว่าคิดไปก็เท่านั้น หาคำตอบได้ลำบากบางเรื่องก็อาจจะต้องรอให้เกิดปัญหานั้นขึ้นมาเสียก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ไข เพราะหลายครั้งที่สิ่งที่เราคิดกังวลไว้ก่อนมันไม่เกิดขึ้นเลย ทำให้เราเปลืองสมองคิดและเครียดไปเองในสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริงตามที่เราคิด

            ทั้งหมดนี้แหละครับคือตัวอย่างอจินไตยในการทำงานในมุมมองของผม แทนที่จะเสียเวลาคิดแบบพายเรือในอ่างทำนองนี้ก็ควรเอาเวลาไปคิดอะไรให้เป็นประโยชน์กับตัวเองจะดีกว่าครับ