วันอังคารที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561

การบริหารคนแบบเจี่ยป้า..บ่อสื่อ

            มีคนถามคำถามหนึ่งผมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วซึ่งผมก็คิดไว้ว่าจะเอามาเขียนเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกท่านได้อ่านกันเพื่อให้เป็นข้อคิดเตือนใจในการบริหารคน

            แต่ด้วยความที่ยุ่ง ๆ อยู่เมื่อตอนปลายปีก็เลยลืมเขียนไป เพิ่งจะมานึกออกตอนนี้ก็เลยรีบเขียนเสียก่อนกลัวจะลืม     

            เรื่องก็มีอยู่ว่า....

            มีพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง (ผู้ถามอยู่ฝ่ายบัญชี) ถามมาว่าบริษัทประกาศให้วันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็น “วันหยุดพักร้อนพิเศษ” ซึ่งประกาศนี้ออกมาโดยฝ่ายบุคคล

            พนักงานก็หยุดไปตามประกาศดังกล่าว หลังจากนั้นประมาณต้นเดือนธันวาคมบริษัทก็มีประกาศเพิ่มเติมออกมาอีกว่า บริษัทจะนำวันหยุดพักร้อนพิเศษที่พนักงานหยุดไปมาหักออกจากสิทธิวันลาพักร้อนของพนักงานคนละ 1 วัน?!

            ตัวอย่างเช่น ถ้าพนักงานมีสิทธิวันลาพักร้อนเหลืออยู่ 3 วันก็จะถูกหักออกไป 1 วันเหลือ 2 วัน

            แต่ถ้าพนักงานใช้สิทธิลาพักร้อนหมดไปแล้วบริษัทจะไปหักสิทธิในปีหน้าออก 1 วัน

            ก็เลยถามผมมาว่าบริษัทสามารถทำแบบที่ว่ามานี้ได้หรือไม่?

          ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของไอเดียบรรเจิดในทางลบแบบที่คนจีนเรียกว่า “เจี่ยป้า..บ่อสื่อ” เป็นผู้บริหารหรือเป็น HR กันแน่?

            ผมมีความคิดเห็นกรณีนี้อย่างนี้ครับ

1.      วันลาพักร้อนที่เราพูดกันจนติดปากน่ะไม่ใช่วันลาเหมือนลาป่วย, ลากิจ, ลาทำหมัน, ลาคลอด อะไรพวกนั้นนะครับ แต่ที่ถูกต้องมันคือ “วันหยุดพักผ่อนประจำปี” ซึ่งนายจ้างจะต้องเป็นผู้จัดให้ลูกจ้างได้หยุด (หรือนายจ้างและลูกจ้างตกลงร่วมกัน) ตามกฎหมายแรงงานเมื่อลูกจ้างทำงานครบ 1 ปีจะมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน

2.      โดยข้อเท็จจริงแล้วทุกคนต่างก็รู้ดีว่าวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ไม่ใช่วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามข้อ 1 แม้ว่าบริษัทจะประกาศว่าเป็นวันหยุดพักร้อนพิเศษก็ตาม ซึ่งถ้าจะให้ถูกต้องแล้วบริษัทควรประกาศเป็น “วันหยุดกรณีพิเศษ” จะถูกต้องกว่า

            การที่บริษัทจับเอาวันดังกล่าวมาปะปนกับวันหยุดพักผ่อนประจำปี (แบบโมเมเอาเอง) จึงไม่ถูกต้อง ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม HR ไม่โต้แย้งและอธิบายให้ฝ่ายบริหารเข้าใจเรื่องนี้ก่อนที่จะมีประกาศออกมา หรือ HR รู้แต่ไม่กล้าอธิบายให้นายฟังเพราะกลัวนายจะโกรธก็เลยทำไปตามสั่ง

          ดังนั้นในกรณีนี้หากบริษัทจะยังนำวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่ประกาศไว้ว่าเป็นวันหยุดพักร้อนพิเศษแล้วจะนำไปหักออกจากสิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปีของพนักงานนั้นทำได้ไหม?

          ก็ตอบว่า “ไม่ควรทำ” เพราะการบริหารคนแบบจุกจิกคิดเล็กคิดน้อยกึ่งๆ ศรีธนญชัยกับพนักงานแบบนี้จะไม่ได้ทำให้พนักงานรู้สึกดีขึ้นกับฝ่ายบริหารและบริษัทเลยนะครับ สู้เอาเวลาที่คิดเรื่องแบบนี้ไปคิดทำอะไรที่ดีกว่านี้จะดีไหม

            หลักสำคัญเรื่องหนึ่งในการบริหารคนที่จะต้องมีคือ “ใจเขา-ใจเรา” อย่าลืมคำ ๆ นี้นะครับ

            จากบทเรียนเรื่องนี้ก็เลยอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังไว้เป็นอุทธาหรณ์ว่าในการบริหารคนนั้น ถ้าจะมาคิดเล็กคิดน้อยแบบเสียน้อยเสียยาก..เสียมากเสียง่ายอย่างนี้ก็รังแต่จะทำให้พนักงานเสียความรู้สึกกับฝ่ายบริหารและกับบริษัทมากขึ้นอีกต่างหากและไม่ได้อะไรที่เป็นผลดีเลยสักอย่าง

            ถามว่ากับการให้พนักงานได้หยุดในวันสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ (รวมถึงคนไทยทุกแห่งในโลก) เพียงวันเดียวจะทำให้บริษัทขาดทุน ขาดรายได้ไปสักกี่บาทจนถึงกับจะต้องนำไปหักกับวันหยุดพักผ่อนประจำปีของพนักงาน แล้วนโยบายแบบนี้จะทำให้บริษัทมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง?

            สู้เอาเวลาไปคิดทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทและพนักงานที่มากกว่านี้จะดีไหมเอ่ย

            ปิดท้ายด้วยคำรำพึงเบา ๆ ว่า....

            “เจี่ยป้า..บ่อสื่อ” จริง..จิ๊งงงงง 555


……………………………………