วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

HR ต้องกล้าพูดความจริงกับฝ่ายบริหาร

            จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมในหลาย ๆ แห่ง เวลาให้คำแนะนำในเรื่องของ HR ซึ่งบ่อยครั้งจะได้ยิน MD บอกว่า “ทำไมผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน” หรือ “ทำไม HR คนเดิมไม่บอก”

เมื่อมาถามผมอย่างนี้ผมก็ตอบไม่ได้หรอกครับว่าทำไม HR คนเก่าไปบอกเรื่องที่เป็นความเสี่ยงทางด้านคนซึ่งอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตให้ MD รู้

            แต่สำหรับผม ๆ จะบอกให้รู้อยู่เสมอแม้ว่าหลาย ๆ ครั้งนาย (MD) อาจจะไม่ถูกใจ หรือหงุดหงิดเมื่อถูกคำพูดทัดทานหรือ “กระตุก” แกเอาไว้จนบางครั้งผมเคยถูก MD ท่านหนึ่งเคยพูดกับผมว่า “คุณชอบพูดให้ผมผวาอยู่เรื่อย”

            ส่วนมากเรื่องที่ MD มักจะไม่รู้ก็คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “กฎหมายแรงงาน” ซึ่งจะมีผลต่อแรงงานสัมพันธ์ในบริษัทยังไงล่ะครับ

            เช่น....

            ถ้าหากท่านเป็นผู้จัดการฝ่าย HR เพิ่งเข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งแล้วพบว่า

1.      บริษัทแห่งนั้นยังคงมีการเรียกเงินค้ำประกันการเข้าทำงานสำหรับพนักงานใหม่ทุกตำแหน่งงาน แถมเรียกเป็นเงินสดแล้วเอาเข้าบัญชีของบริษัทอีกต่างหาก บางแห่งพนักงานลาออกโดยไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหาย บริษัทก็ไม่คืนเงินค้ำประกันเสียอีก

2.      บริษัทแห่งนั้นมีการจ่ายโอทีเหมาจ่าย โดยทำสัญญาไว้แล้วให้พนักงานเซ็นว่ายินดีรับโอทีเหมาจ่ายรายเดือน ๆ ละ.................บาท โดยจะเข้าบัญชีเงินเดือนพนักงานทุกเดือนแล้วจะไม่ติดใจจะรับโอทีตามเวลาที่ทำจริงเหมือนที่เคยทำมา

3.      บริษัททำสัญญาจ้างพนักงานชั่วคราว (บางแห่งจะเรียกพนักงานรายวัน หรือ Temp มาจากคำว่า Temporary) โดยทำสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งลักษณะงานที่พนักงานชั่วคราวนี้ทำก็เหมือนกับพนักงานประจำ แล้วใช้วิธีต่อสัญญากันตามเงื่อนไขหลักก็คือ “อยู่ในดุลพินิจของบริษัท หากบริษัทพิจารณาว่าผลงานไม่ดีก็จะไม่ต่อสัญญาและสามารถบอกเลิกจ้างได้โดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน ฯลฯ”

4.      จ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด

5.      ฯลฯ

ท่านจะทำยังไงครับ....ควรจะทำเฉย ๆ ไว้ หรือจะเดินไปบอก MD ว่าเรื่องเหล่านี้น่าจะ

เกิดปัญหากับองค์กรในอนาคต ?

ถือว่าเรามาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กันนะครับ....

ถ้าผมพบเรื่องตามตัวอย่างข้างต้นนี้ ผมจะต้องหาโอกาสคุยกับ MD แล้วล่ะครับ และหลายครั้งผม

ก็จะพบกับคำถามจาก MD อย่างที่บอกไปข้างต้นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งผมก็ตอบไม่ได้ว่า

ทำไมผู้จัดการฝ่าย HR หรือคนที่ทำงาน HR คนเดิมไปบอกให้แกรู้ ?

            ก็อาจจะเป็นเพราะ....

1.      หลายครั้งคนที่ทำงาน HR “กลัว” MD หรือฝ่ายบริหารมากจนเกินไป จนทำให้ไม่กล้าที่พูดในสิ่งที่ถูกต้องออกมาให้ฝ่ายบริหารทราบ เพราะกลัวว่าพูดไปแล้วจะทำให้นายไม่ปลื้ม หรือพูดไปแล้วทำให้นายอารมณ์เสีย หรือจะมีผลต่องานหรือความก้าวหน้าในงาน ฯลฯ ก็เลย “นิ่งเสียตำลึงทอง”

2.      คิดไปเองว่านายรู้แล้ว ก็เป็นตั้ง MD นี่นา เรื่องแค่นี้ก็น่าจะรู้ ดังนั้นเมื่อรู้แล้วยังทำกันมาได้ตั้งนาน เราก็ทำตามที่เขาทำกันมาต่อ ๆ ไปแหละ (ว่าแล้วก็ฮัมเพลง ไม่เป็นไรอย่าคิดมาก....ของปาล์มมี่ต่อไป)

3.      HR ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องต่าง ๆ ตามตัวอย่าง (ที่เป็นเรื่องจริง) ข้างต้นเป็นเรื่องที่ผิดและไม่ถูกต้อง ซึ่งต้องยอมรับนะครับว่าคนที่ทำงาน HR ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องแม่นกฎหมายแรงงานกันทุกคน แต่สำหรับผมแล้วผมถือว่าเรื่องของกฎหมายแรงงานเป็นเรื่องที่คนทำงาน HR ไม่ว่าจะด้าน HRM หรือ HRD ก็ตาม ควรจะต้องมีความรู้ไว้ด้วยแม้ว่าจะเป็นแค่ขั้นพื้นฐานก็ยังดีกว่าไม่รู้เลย

หลายครั้งที่ผมบอก MD ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อบริษัทไม่ว่าจะถูกพนักงานไปร้องเรียนแรงงานเขตพื้นที่ หรือไปฟ้องศาลแรงงานก็ตาม และก็จะบอกวิธีการลดความเสี่ยงเหล่านี้ลง ซึ่งก็อยู่ที่ MD ว่าจะตัดสินใจอย่างไร (ก็หน้าที่การตัดสินใจเรื่องเหล่านี้เป็นของ MD นี่ครับ)

            และผมมักจะพบว่า MD ไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อนว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแรงงานเนื่องจากไม่มีใครกล้าบอก !?

            ซึ่งบางท่านก็แก้ไขและทำให้ถูกต้องได้ในที่สุด แต่บางท่านก็ยังยอมที่จะรับความเสี่ยงประเภทที่ว่า “ถ้าพนักงานไม่ฟ้องก็ยังไม่เกิดเรื่อง” ต่อไปก็มี

            แต่ข้อคิดก็คือ “ความเป็นมืออาชีพ” อยู่ที่ว่าคนที่ทำงาน HR “กล้า” ที่จะพูดความจริงหรือส่งสัญญาณเตือนในเรื่องเหล่านี้ให้ MD หรือฝ่ายบริหารทราบในเรื่องที่ถูกต้อง (แม้ว่าอาจจะไม่ถูกใจ) เพื่อแก้ไขให้ถูกต้องหรือไม่ล่ะครับ

            ผมถือคติว่า ถ้าไม่พูดไม่บอกให้รู้แล้ววันหน้าเกิดปัญหาขึ้นมา ผมก็จะถูกตำหนิต่อว่าได้ว่า “คุณเป็น HR มาได้ยังไง ทำไมถึงไม่เตือนไม่บอกผม.....ฯลฯ”

            แต่ถ้าส่งสัญญาณเตือนหรือบอกให้รู้ไว้ก่อน แล้วถ้าวันข้างหน้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา MD จะรู้เองแหละครับว่าเรื่องเหล่านี้ HR เคยบอกไว้แล้วแต่เราไม่ฟังเขาเองแหละ ก็จะทำให้เขาเกิดความเชื่อถือในตัว HR ว่ามีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นจริงไหมครับ

 ........................................................