วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ความสำคัญในการนำ AI มาใช้ในงาน HR

            ผมเคยมีหน้าที่รับผิดชอบการส่งพนักงานไปทำงานต่างประเทศเมื่อครั้งที่ผมเป็น Compensation & Benefits Manager ที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ประเทศไทยในช่วงปี 2534-38 ในยุคนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ตไม่มีกูเกิ้ลใบ้เหมือนยุคนี้นะครับ โทรศัพท์มือถือยังเป็นแบบ 2G แต่ส่ง SMS ได้

เมื่อเข้ามารับผิดชอบงานดังกล่าวก็ต้องมาขวนขวายเรียนรู้จากข้อมูลในแฟ้มกระดาษในตู้เหล็กสี่ลิ้นชักที่ครบบ้างขาดบ้าง ไม่มีใครมาสอนงานมาบอกอะไรเพราะ Manager คนเก่าเขาลาออกแล้วหายไปเลยไม่มีการส่งมอบงานใด ๆ ในช่วงเวลานั้นผมรู้สึกว่าต้องเสียเวลาไปพอสมควรกว่าจะรู้ว่าต้องทำอะไรยังไง

แต่ถ้าเป็นยุค AI อย่างในปัจจุบัน ถ้าผมต้องมารับผิดชอบงานที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ผมมีตัวช่วยในเบื้องต้น และสามารถลงลึกไปในรายละเอียดได้แล้วและจะใช้เวลาน้อยลงในการทำงานเหล่านี้

ข้างล่างนี้คือคำตอบเบื้องต้นจาก AI ครับ

การส่งพนักงานไปประจำต่างประเทศ (Expatriate Assignment) เป็นเรื่องที่ต้องมีการเตรียมการรอบด้าน ทั้งในด้านกฎหมาย การเงิน วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม HR ควรเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานในด้านต่อไปนี้:

1.      ด้านเอกสารและกฎหมาย

 • วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (Work Permit): จัดเตรียมและประสานงานการขอวีซ่าให้ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศปลายทาง
 • สัญญาการจ้างงานต่างประเทศ (International Assignment Agreement): ระบุระยะเวลา ผลประโยชน์ ความรับผิดชอบ เงื่อนไขการกลับประเทศ ฯลฯ
 • ภาษีและกฎหมายแรงงาน: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีเงินได้ทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง รวมถึงข้อบังคับของกฎหมายแรงงานท้องถิ่น

2.      ด้านผลตอบแทนและสวัสดิการ
 • ค่าครองชีพและเบี้ยเลี้ยง: ปรับค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับค่าครองชีพในประเทศปลายทาง เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าขนย้าย
 • สวัสดิการเพิ่มเติม: เช่น ค่ารักษาพยาบาลระดับสากล ประกันสุขภาพ ประกันภัยการเดินทาง
 • การดูแลครอบครัว (ถ้ามี): ค่าเล่าเรียนบุตร การสนับสนุนคู่สมรส การจัดหาที่พักที่เหมาะสม
3. ด้านการเตรียมความพร้อมด้านวัฒนธรรมและการทำงาน

 • อบรมด้านวัฒนธรรม (Cross-cultural Training): เพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น ลดปัญหาความไม่เข้าใจกัน
 • ภาษา: สนับสนุนการเรียนภาษาท้องถิ่นหรือต่างประเทศที่ใช้ในการทำงาน
 • การปรับตัว: ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาหรือโค้ชเพื่อช่วยในการปรับตัวช่วงเริ่มต้น
4. ด้านการบริหารจัดการและติดตามผล
 • การประเมินผลการทำงาน: กำหนดเป้าหมายและวิธีประเมินผลชัดเจนระหว่างปฏิบัติงานในต่างประเทศ
 • การสื่อสารกับสำนักงานใหญ่: วางระบบรายงานผลการทำงาน และความเชื่อมโยงกับทีมที่สำนักงานใหญ่
 • แผนการกลับประเทศ (Repatriation Plan): เตรียมตำแหน่งหรือหน้าที่เมื่อพนักงานกลับมาประเทศเดิม เพื่อรักษาขวัญกำลังใจ
5. ด้านโลจิสติกส์และชีวิตความเป็นอยู่
 • การหาที่พัก: สนับสนุนการหาที่พักที่ปลอดภัยและเหมาะสม
 • การขนย้ายทรัพย์สิน: สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการขนของไปและกลับ
 • การให้ข้อมูลท้องถิ่น: เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล ร้านอาหาร ฯลฯ
หากองค์กรมีแผนส่งพนักงานหลายคนไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ควรพิจารณาจัดทำ Expat Policy หรือ คู่มือการปฏิบัติงานสำหรับพนักงานต่างประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีแนวทางที่ชัดเจน

Credit : ChatGPT

นี่คือคำตอบว่าทำไมคนทำงาน HR ในยุคใหม่ต้องปรับตัวและเรียนรู้ How to นำ AI มาใช้ในงานให้มากขึ้นและลดงาน Routine ที่เป็นงาน Admin ที่ไม่ทำให้เกิดคุณค่าให้มากที่สุด

ถ้า HR ในยุคใหม่ยังเอนจอยกับ Comfort Zone แล้วทำงาน Routine ต่อไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็จะถูกแทนที่ด้วยคนทำงาน HR รุ่นใหม่ที่สามารถใช้ AI ในการทำงานได้ดีกว่าคนที่ใช้ AI ไม่เป็นครับ