วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

Generalist vs Specialist อย่างไหนดีกว่ากัน ?

             คำถามนี้เป็นเรื่องที่คิดใครคิดมัน เชื่อใครเชื่อมัน ต่างคนก็ต่างมุมมองที่หาข้อสรุปได้ยากนะครับ

            คนที่เป็น Generalist ก็ชอบที่จะสนใจศึกษาเรียนรู้และหาประสบการณ์ในงานจากภาพกว้าง จะมีความรู้ความสามารถหลายเรื่องหลายด้าน แต่ก็ไม่ได้ลงลึกในด้านใดด้านหนึ่ง

            ข้อดีก็คือมีความยืดหยุ่นสูงพร้อมปรับตัวไปสู่งานที่หลากหลายรูปแบบ, เป็นคนที่มองงานแบบภาพรวมได้ดี, มีมุมมองหลายมุมจากประสบการณ์ที่ทำงานมาหลายด้าน

            คนที่เป็น Generalist จึงเหมาะกับการเป็นผู้บริหาร

            แต่ก็ใช่ว่า Generalist จะไม่มีข้อเสีย

            ซึ่งมักจะถูกคนมองว่า Generalist เป็นคนที่ดูเหมือนรอบรู้งานหลายด้านแต่ไม่ได้เป็นคนรู้ลึกรู้จริงสักด้าน, เก่งแบบเป็ดแต่ไม่มีจุดแข็งสักอย่าง, การตัดสินใจแก้ปัญหาต้องรอคนที่รู้ลึกรู้จริงมาช่วยก็เลยไม่ค่อยกล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง

            ส่วนคนที่เป็น Specialist เป็นคนที่ Focus ในเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญชำนาญจนกระทั่งมีความรู้และทักษะในงานแบบลงลึกในรายละเอียด คนรอบข้างจะให้การยอมรับในความเป็นเอตทัคคะที่รู้ลึกรู้จริงในงานที่ทำอยู่

            ข้อดีของ Specialist คือความรู้ลึกรู้จริงที่หาตัวจับยาก, เป็นคนที่ตลาดต้องการ, เมื่อมีปัญหาในงานที่ตัวเองชำนาญก็สามารถมองเห็นตัวปัญหาและสาเหตุแล้วจะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้จบแบบปิดจ็อบ

            ส่วนข้อเสียของ Specialist ก็คือถ้ายึดติด Comfort Zone และมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไปก็จะไม่ Update กับองค์ความรู้ที่เปลี่ยนแปลงไป, คิดว่าสิ่งที่ตัวเองรู้จะต้องถูกต้องและคงอยู่อย่างนั้นตลอดไปจึงไม่ค่อยจะยอมรับความเปลี่ยนแปลง, การเปิดใจรับฟังคนอื่นไม่มากเท่าที่ควร

            จากที่ผมฝอยมาข้างต้นก็เลยยากที่จะฟังธงว่าอะไรจะดีกว่ากัน ผมว่าเรื่องนี้จะเป็นลางเนื้อลางยาคือชอบใครชอบมันแล้วแต่จริตของแต่ละคนแหละครับ

            เพราะบางคนก็มีลักษณะนิสัยที่ชอบเป็น Generalist ในขณะที่บางคนก็ชอบที่จะรู้ลึกรู้จริงแบบ Specialist

            ใครอยากเป็นคนลักษณะไหนก็เดินไปในทางที่เลือกได้ตามอัธยาศัยเลยครับ