วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เมื่อหัวหน้ากลายเป็นจ่าเฉยจะเกิดอะไรขึ้น?

            ยังมีหัวหน้าอีกไม่น้อยที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจกับลูกน้องที่มีพฤติกรรมทำนองนี้....

-          มาสายอยู่เสมอ

-          ขาดงานบ่อย ๆ โดยอ้างว่าป่วย แต่ป่วยไม่จริง บางครั้งก็รู้ว่าลูกน้องลาป่วยเพราะเมื่อคืนไปกินเหล้าจนถึงตีสองตอนเช้าเลยแฮงค์มาทำงานไม่ไหว

-          ชอบฝ่าฝืนกฎระเบียบหลักเกณฑ์อยู่เรื่อย ๆ

-          รับเดินโพยหวยในบริษัท

-          มีพฤติกรรมส่อทุจริต เช่น ไปทำงานนอกบริษัทแต่เบิกค่าแท๊กซี่ในอัตราไม่สมเหตุสมผลทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ขึ้นแท๊กซี่

-          เล่นโซเชียลหรือขายของออนไลน์ในเวลางานทุกครั้งที่มีเวลาว่าง

-          ประมาทสะเพร่า งานผิดพลาดเป็นประจำ

-          ชอบลาพักร้อนในช่วงที่มีงานด่วนงานเร่งมีโหลดงานเยอะในขณะที่ทุกคนต้องช่วยกันทำงานหัวฟู แต่หัวหน้าก็ยังอนุญาตให้ลาพักร้อนไป

-          ขึ้นเงินเดือนให้คนไม่ทำงานกับคนทำงานดีเท่า ๆ กัน

-          ส่งเสริมหรือให้สิทธิพิเศษกับลูกน้องที่ประจบสอพลอแต่ไม่ค่อยจะทำงาน แล้วไปกดดันไล่บี้ลูกน้องที่ตั้งใจทำงานแต่ประจบไม่เป็น

-          ฯลฯ

ถามว่าถ้าหัวหน้ารู้อยู่แก่ใจว่าลูกน้องทำตัวมีปัญหาอย่างนี้แล้วก็ยังไม่ทำอะไรจะเกิดอะไรขึ้น?

จะมีลูกน้องบางส่วนที่เซ็งแล้วก็มองว่าหัวหน้าบ่อมิไก๊ไม่มีน้ำยาไม่กล้าทำอะไร บางส่วนก็จะเริ่มเอาอย่างเพื่อนที่ทำตัวไม่ดีบ้าง เพราะเห็นว่าทีเพื่อนยังทำได้ฉันก็ทำได้มั่งสิ หรือใช้ Me too Model หรือลูกน้องก็จะเริ่มสะสมอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้ทุกวัน

ฝรั่งจะมีคำ ๆ หนึ่งคือ Carrot & Sticks หมายถึงหัวหน้าจะต้องรู้จักการให้รางวัลและลงโทษลูกน้อง!

หรือแปลเป็นไทยว่าหัวหน้าควรจะต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ

หัวหน้าต้องรู้จักการให้รางวัลกับคนทำงานดีมีฝีมือ และลงโทษคนที่ทำงานไม่ดีหรือมีพฤติกรรมที่ก่อปัญหาในทีมงาน!

ต้องกล้าที่จะว่ากล่าวตักเตือนเมื่อลูกน้องมีพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมไปถึงต้องให้ลูกน้องออกไปจากองค์กรถ้าหากพฤติกรรมนั้นเป็นความผิดร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อตัวบุคคลหรือต่อองค์กร

ที่พูดมานี้ก็ไม่ได้ต้องการให้ท่านเป็นหัวหน้าใจร้ายที่คอยจ้องแต่จะเล่นงานลูกน้องนะครับ

เพราะคนที่เป็นหัวหน้าจะต้องมีตาที่มีแวว

สามารถมองออกและแยกแยะได้ว่าลูกน้องคนไหนมีพฤติกรรมปกติไม่ปกติ ลูกน้องคนไหนทำงานดีจริงหรือเอาแต่ประจบสอพลอไม่ทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอัน

ถ้าหัวหน้าไม่สามารถแยกแยะได้ หรือแยกแยะได้แต่ไม่กล้าแก้ปัญหาลูกน้องก็จะเสื่อมศรัทธาแล้วก็จะเอาเรื่องของหัวหน้าไปเม้าท์กันอย่างน้อยวันละ 3 รอบ เช้า-กลางวัน-เย็น

นี่ยังไม่รวมการเม้าท์กันในไลน์กลุ่มของลูกน้องอีกเป็นของแถมครับ 5555

ที่ร้ายไปกว่านั้นคือถ้าหัวหน้าของหัวหน้าคนนี้รู้แล้วเห็นแล้วก็ยังเพิกเฉยไม่เรียกหัวหน้าคนนี้มาคุยให้ Take action จัดการกับลูกน้องนอกแถว

ก็คงเป็นเวรกรรมของหน่วยงานนี้และบริษัทนี้แล้วล่ะครับ

รวมทั้งต้องมองไปถึงวุฒิภาวะและ Leadership ของผู้บริหารระดับสูงด้วยเหมือนกันที่ทำตัวเป็นจ่าเฉยแบบเดียวกับลูกน้องแล้วยังไม่คิดจะเข้าไปแก้ปัญหาปล่อยให้ปัญหานี้สะสมเป็นไฟสุมขอนไปเรื่อย ๆ

ผลก็คือคนดีมีฝีมือก็จะตีจากเพราะทนอยู่กับระบบจ่าเฉยไม่ได้

ถามว่าองค์กรจ่าเฉยแบบนี้จะอยู่ได้ไหม ก็ตอบได้ว่าคงอยู่ได้แบบเฉย ๆ ไปวัน ๆ ด้วยแรงเฉื่อยไปจนถึงจุดหนึ่งก็คงต้องล้มหายตายจากไปแบบเฉย ๆ ในที่สุดแหละครับ

 

…………………………..