เรื่องไวรัส Covid-19 นี่ทำเอาปั่นป่วนวุ่นวายกันไปทั่วเลยนะครับ
ตอนนี้ความวุ่นก็เข้ามาสู่คนทำงาน HR ด้วยแหละ
มีคำถามจากกลุ่มไลน์มาว่า “บริษัทจะสั่งให้พนักงานที่กลับมาเมืองไทยหลังจากเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงหยุดงานไป
14
วันโดยให้ถือเป็นวันหยุดโดยไม่ได้รับเงินเดือน (Leave
without pay) ได้หรือไม่?”
เหตุผลของทางบริษัทคือไม่อยากให้พนักงานที่ไปประเทศกลุ่มเสี่ยงมาแพร่เชื้อในที่ทำงาน
(ถ้ามีเชื้อไวรัสติดกลับมาเป็นเพื่อนด้วยจริง) เพราะจะเกิดความเสียหายกับบริษัท
เหตุผลของพนักงานที่มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ติดเชื้ออะไรมาสักหน่อย
ที่อาจจะคิดแบบอาจุมม่ะที่เกาหลีว่าฉันไม่เป็นอะไรทำไมต้องมาให้ฉันหยุดงานแถมยังไม่ได้เงินเดือนอีก
บริษัทมาทำงี้ได้ไง
และถ้าบริษัทจะสั่งให้พนักงานหยุดดูอาการ
14 วันโดยไม่ได้รับเงินเดือนแต่พนักงานไม่เห็นด้วยล่ะ
ในที่สุดเรื่องนี้คงต้องไปให้ศาลแรงงานท่านต้องตัดสินอีกและอาจจะต้องสู้กันถึงฎีกาว่าตกลงบริษัทจะทำอย่างนี้ได้หรือไม่
เป็นธรรมกับพนักงานหรือไม่ ฯลฯ
ซึ่งแน่นอนว่าคงต้องใช้เวลากันพอสมควรกว่าจะมีคำตัดสินออกมา
เพื่อไม่ให้เรื่องราวดราม่ากันเยอะแยะผมเสนออย่างนี้ดีไหมครับ
1.
บริษัทควรมีประกาศออกมาเลยว่าห้ามไม่ให้พนักงานเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง
(มีประเทศอะไรบ้างก็ระบุไปในประกาศ)
ตั้งแต่วันที่.........ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงโดยในประกาศก็บอกเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน
และบอกเอาไว้เลยว่าถ้าพนักงานฝ่าฝืนคำสั่งนี้เมื่อกลับมาเมืองไทยบริษัทมีสิทธิสั่งให้พนักงานหยุดงานเพื่อดูอาการกี่วันก็ว่าไป
และระหว่างหยุดงานเพื่อดูอาการบริษัทจะไม่จ่ายเงินเดือน
แล้วเวียนประกาศแจ้งให้พนักงานทุกคนรับทราบคำสั่งนี้
2.
สำหรับพนักงานที่เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงก่อนประกาศนี้จะออกมา
เมื่อกลับมาเมืองไทยบริษัทก็ควรสั่งให้อยู่บ้านดูอาการ 14 วัน
(ตามข่าวที่บอกว่าระยะเวลาฟักตัวของโรคนะครับแต่บางข่าวก็บอกว่าขยายไปถึง 27
วันก็มี ตรงนี้ก็ต้องดูเอาว่าจะใช้ตัวเลขไหนน่าจะปลอดภัยที่สุด)
แต่ก็ควรจะให้หยุดโดยให้เงินเดือนตามปกติ เพราะพนักงานที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยงคงไม่ได้มีเยอะแยะมากมายหลายสิบคน
ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากจะเอาเชื้อโรคกลับมาเป็นของฝากให้เป็นพิษเป็นภัยกับตัวเองและครอบครัวคนที่เรารัก
หรือเอามาฝากเพื่อนฝูงในที่ทำงานหรอก การให้เขาหยุดโดยไม่ให้เงินเดือนมันก็ดูจะหนักไปสักหน่อย
ก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยจนกลายเป็นการบริหารแบบเจี่ยะป้าบ่อสื่อเลยนะครับ
บริษัทคงไม่ได้มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำจากการไม่จ่ายเงินเดือนพนักงาน 14
วันหรอก
3.
แต่ถ้าพนักงานคนไหนที่ทราบคำสั่งของบริษัทตามข้อ
1 แล้วยังฝ่าฝืน อันนี้สิครับ ผมถือว่าเป็นการเตือนหรือบอกกล่าวกันล่วงหน้าแล้วยังมีเจตนาฝ่าฝืน
อย่างนี้ก็ทำได้ตามคำสั่งที่บอกไว้ได้เลยครับ
ในมุมมองของผมเรื่องต่าง
ๆ เหล่านี้จะจบลงได้ด้วยดีถ้าเราพูดคุยกันด้วยภาษาของพี่ของน้องของเพื่อนร่วมงานด้วยเหตุด้วยผลแบบใจเขา-ใจเรา
และมีการสื่อสารที่ดีมีการบอกกล่าวกันเสียก่อนว่าอะไรที่พนักงานควรทำหรือไม่ควรทำเพราะอะไร
ถ้าฝ่าฝืนบริษัทจำเป็นต้องรักษาส่วนรวมเอาไว้อย่างไร
ไม่ควรทำอะไรแบบปุบปับไม่บอกกล่าวกันก่อนแล้วก็ไปในแนวสายเหยี่ยวทันทีทันใด
ซึ่งมักจะทำให้เกิดแรงต้านเกิดปัญหาตามมาให้แก้กันอีก
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมที่ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยหรือจะ
take
action กันยังไงต่อไปก็เป็นสิทธิของท่านและคงแล้วแต่วิธีคิดของผู้บริหารแต่ละบริษัทแล้วแหละ
แต่ผมก็เชื่อว่าถ้าทำอย่างที่ผมแนะนำมาข้างต้นก็จะไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาลไปเพิ่มคดีความให้ศาลท่านในเรื่องที่น่าจะทำความเข้าใจกันได้ด้วยดีระหว่างบริษัทและพนักงานนะครับ
....................................