วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2568

เรื่องชวนคิดเกี่ยวกับการปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิหลังการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 1 มค.68

             ก่อนหน้านี้ผมวิเคราะห์เปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดว่าจังหวัดไหนมีเปอร์เซ็นต์การปรับมาก-น้อยเท่าไหร่โดยจัด 5 อันดับแรกไปแล้วนั้น (ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ตามไปอ่านได้ใน Blog ของผมนะครับ) อันนั้นถือเป็น EP 1 ก็แล้วกัน

            สำหรับตอนนี้นับเป็น EP 2 ครับ

            แน่นอนว่าเมื่อมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งใด คนที่รับผิดชอบงานด้าน Com & Ben (Compensation & Benefits) ก็จะต้องคิดต่อโดยอัตโนมัติว่า

“บริษัทของเราจำเป็นจะต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิด้วยหรือไม่?”

            แน่นอนว่าถ้าเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมีน้อย ผลกระทบที่จะทำให้เกิดความจำเป็นต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิต่าง ๆ ตั้งแต่ปวช.ขึ้นไปก็จะมีน้อย ซึ่งบางครั้งก็ไม่ต้องมีการปรับใด ๆ

            แต่ถ้าเมื่อไหร่มีเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูง ก็จะทำให้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิตามไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อปี 2555-56 ที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจากวันละ 215 บาทเป็น 300 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์) ก็จะมีผลกระทบทำให้บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิเพิ่มขึ้นตาม ทำให้อัตราเริ่มต้นปริญญาตรี (สายสังคมศาสตร์) ในเวลานั้นเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 บาท จากเดิมที่จ้างอยู่ที่ประมาณ 11,000 บาท

            ในขณะที่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อ 1 มค.67 มีค่าเฉลี่ยการปรับขึ้นประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังไม่จำเป็นต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิเพื่อหนีผลกระทบ

            เนื่องจากเรามักใช้อัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีเป็น Benchmark ใน EP นี้ผมก็เลยขอยกตัวอย่างเฉพาะการปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีสายสังคมศาสตร์เป็นหลักนะครับ

          แล้วการปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่มีผล 1 มค.68 ล่ะ มีผลกระทบกับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิหรือไม่?

            ดูตารางข้างล่างนี้ครับ

            จากตารางนี้มีอะไรน่าสนใจอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผมขอนำเอาเฉพาะจังหวัดที่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดคือสุราษฎร์ธานี (เฉพาะอ.เกาะสมุย) และค่าจ้างขั้นต่ำมากรองลงมาเป็นอันดับ 2 และ 3  คือจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยองมาเปรียบเทียบกับกรุงเทพและปริมณฑลที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราที่ต่ำกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ตามตารางด้านล่าง

            ผมมีข้อสังเกตคือ

1.      สมมุติว่าบริษัทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ปรับเงินเดือนเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีเพื่อหนีผลกระทบค่าจ้างขั้นต่ำในเปอร์เซ็นต์เท่ากับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้คือ 15.94% จะทำให้อัตราเริ่มต้นตามวุฒิของเกาะสมุยเท่ากับ 19,130 บาท

2.      โดยวิธีเดียวกับข้อ 1 บริษัทในจังหวัดฉะเชิงเทราจะปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีเป็น 18,857 บาท และบริษัทในจังหวัดชลบุรี/ระยองจะปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีเป็น 18,283 บาทตามลำดับ

3.      ในขณะที่บริษัทในกทม.และปริมณฑลมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเท่ากับ 2.48% ถ้าจะปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรี ก็จะมีอัตราเริ่มต้นตามวุฒิปริญญาตรีเป็น 16,909 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกาะสมุย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองเพราะมีเปอร์เซ็นต์การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่น้อยกว่า

4.      ข้อมูลอัตราเริ่มต้นตามวุฒิต่าง ๆ (เป็นค่าเฉลี่ยเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียวนะครับ) ในขณะนี้คือปวช.=12,500 บาท ปวส.=14,000 บาท ปริญญาตรี (สายสังคมศาสตร์)=16,500 บาท ปริญญาตรี (สายวิศวกรรมศาสตร์)=22,000 บาท ในขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดที่ปรับขึ้นเป็นวันละ 400 บาทจะตกเดือนละ 12,000 บาท

5.      จากข้อมูลอัตราเริ่มต้นตามวุฒิในข้อ 4 จะเห็นได้ว่าค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาทจะไล่บี้อัตราเริ่มต้นตามวุฒิปวช.เข้ามามากและมี Gap เพียง 500 บาท คำถามคือถ้าบริษัทในจังหวัดที่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทจะยังไม่ต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิได้หรือไม่

ก็ตอบว่าได้ครับตราบใดที่บริษัทยังจ่ายให้สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ

แต่ถ้าคู่แข่งในท้องถิ่นเขาปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิเพิ่มขึ้นแล้วบริษัทของเราไม่ได้ปรับ น้อง ๆ ที่จบใหม่เขาอยากจะมาทำงานกับบริษัทเราหรือไม่ อันนี้ก็ต้องคิดกันให้ดี ๆ

6.      ถ้ามองในด้านการกระจายแรงงานหากมีการปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิในจังหวัดที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเพื่อหนีผลกระทบ ก็อาจจะเป็นการกระจายแรงงานออกจากกทม.และปริมณฑลไปทำงานในจังหวัดที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่าก็เป็นไปได้นะครับ ถ้าบริษัทในจังหวัดที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาทวางกลยุทธ์ด้านค่าจ้างเงินเดือนให้ดีก็จะเป็นโอกาสดึงคนที่มีการศึกษาทั้งคนจบใหม่และมีประสบการณ์ทำงานที่มีคุณภาพจากส่วนกลางออกไปภูมิภาคได้ครับ

ใครมีไอเดียอะไรที่น่าสนใจจะเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์กับส่วนรวมก็แชร์มาได้เลยนะครับ