เห็นมีการตั้งคำถามนี้อยู่ในเพจ ๆ หนึ่งน่าสนใจดี ผมก็เลยขอนำเอามาแชร์ไอเดียกันน่าจะทำให้เกิดข้อคิดเตือนใจสำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพื่อปรับปรุงโปรแกรมทำนองนี้ครับ
ในความเห็นของผม
ๆ มีความเห็นอย่างนี้ครับ
1.
Leadership ไม่ใช่แค่การส่งคนไปอบรม แล้วก็บอกว่าคน
ๆ นั้นผ่านหลักสูตรนั้น ๆ แล้ว (บางหลักสูตรมีการสอบข้อเขียนหรือปฏิบัติด้วย)
ได้คะแนนสูง ได้รับวุฒิบัตรแล้ว ก็แปลว่ามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำทีมงานได้แล้ว
ถ้าใครยังไม่ผ่านหลักสูตรนั้น ๆ ก็ถือว่ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะ Promote ได้
แต่ Leadership จะเกิดจาก
1.1
ตัวของคน ๆ
นั้นเองว่าจะมีทุนเดิมอยู่มากน้อยแค่ไหน และจะสร้างและพัฒนา Leadership ในตัวเองให้เพิ่มขึ้นได้อีกหรือไม่
1.2
เกิดจากประสบการณ์ของคน ๆ
นั้นที่จะหล่อหลอมและทำให้มี Leadership เพิ่มขึ้นได้มาก-น้อยเท่าใด
2.
หัวหน้าของคน ๆ นั้น
2.1
เป็นต้นแบบที่ดีของการเป็นผู้นำหรือไม่
ศิษย์จะเก่งก็ต้องมีครูที่ดี
ถ้าหัวหน้าไม่ใช่ต้นแบบที่ดีจะทำให้ลูกน้องพัฒนาภาวะผู้นำให้เพิ่มขึ้นได้ยาก
2.2
มีศักยภาพที่จะ Coach/ให้คำปรึกษาแนะนำ/สอนงาน/เป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกน้องตลอดจนสามารถวางแผนให้ลูกน้องได้พัฒนา
Leadership ในตัวเองได้หรือไม่
เพราะหัวหน้าหลายคนเก่งเฉพาะตัวแต่สอนคนไม่เป็น ให้คำปรึกษาไม่เป็น
อย่างนี้ก็จะทำให้เกิดปัญหาในการสร้าง Successor ครับ
2.3
หัวหน้ามีความพร้อมและให้ความร่วมมือในการสร้าง
Leader
ขึ้นมาแทนตัวเองหรือไม่ ถ้าหัวหน้าไม่พร้อมหรือไม่ให้ความร่วมมือ
หรือเป็นหัวหน้าที่มีทัศนคติไม่ดี อีคิวต่ำ
ขี้อิจฉาริษยาเห็นคนอื่นเก่งกว่าตัวเองไม่ได้ ฯลฯ
อย่างนี้ก็คงจะทำให้การพัฒนา
Leader
มีปัญหาตามไปด้วยแหละครับ
นี่แหละครับคือคำตอบว่าทำไมโปรแกรมการพัฒนาผู้นำในปัจจุบันถึงไม่สามารถเตรียมผู้จัดการในอนาคตได้ในจุดที่ผมเห็นว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการพัฒนา
Leader
ครับ