ปัญหายอดนิยมในการบริหารค่าจ้างเงินเดือนเรื่องหนึ่งที่ผมมักจะเจอในบางบริษัทคือ เวลาถึงรอบการขึ้นเงินเดือนประจำปีฝ่ายบริหารมักจะมีนโยบายว่าผู้บริหารจะได้รับการขึ้นเงินเดือนในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าพนักงาน โดยให้เหตุผลว่าผู้บริหารเงินเดือนสูงกว่าผู้ใต้บังคับบัญชา
แถมยังมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งจากผู้บริหารที่กำหนดนโยบายนี้ว่าผู้บริหารที่เงินเดือนสูงแล้วน่ะมีเงินเดือนเยอะพอแก่การครองชีพแล้ว
ก็เลยต้องเอางบประมาณมาให้กับพนักงานที่เงินเดือนน้อยกว่าเพื่อช่วยเหลือให้เขามีเงินเดือนที่พอกินพอใช้มากกว่านี้
พูดง่าย ๆ ว่าเป็นผู้บริหารมีฐานเงินเดือนเยอะกว่าลูกน้องก็เลยต้องเสียสละโดยได้รับการขึ้นเงินเดือนในเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าลูกน้อง
ยกตัวอย่างเช่น
บริษัทแห่งหนึ่งบอร์ดอนุมัติงบประมาณขึ้นเงินเดือนประจำปี 5 เปอร์เซ็นต์
เวลาคิดงบประมาณขึ้นเงินเดือนก็จะกำหนดเปอร์เซ็นต์ให้สอดคล้องกับผลการปฏิบัติงานคือถ้าใครได้รับการประเมินผลงานในเกรด
C ก็จะได้รับการขึ้นเงินเดือน 5% ของฐานเงินเดือน
บริษัทแห่งนี้ก็เลยกำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้ว่าถ้าผู้บริหารที่มีเงินเดือนตั้งแต่
50,000
บาทขึ้นไป ถ้าได้รับการประเมินผลงานในเกรด C จะได้รับการขึ้นเงินเดือน
4%
ในขณะที่ผู้บริหารหรือพนักงานที่เงินเดือนต่ำกว่า
50,000
บาทลงมา ถ้าได้รับการประเมินผลในเกรด C จะได้รับการขึ้นเงินเดือน
5%
และใช้แนวคิดเดียวกันนี้กับผลการประเมินในเกรดอื่น
ๆ ด้วยนะครับ
เช่น
ถ้าผู้บริหารที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นได้แล้วได้รับการประเมินผลงานเกรด
B ก็จะได้รับการขึ้นเงินเดือน 6% ถ้าได้รับการประเมินผลเกรด
A จะได้รับการขึ้นเงินเดือน 9%
แต่ถ้าเป็นผู้บริหารหรือพนักงานที่เงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาทลงไปก็จะได้รับการขึ้นเงินเดือนที่มากกว่าคือถ้าได้เกรด B=7% เกรด A=10%
คำถามคือนโยบายแบบนี้เหมาะสมหรือไม่?
ผมก็ให้ความเห็นส่วนตัวไปว่านโยบายอย่างนี้ขัดกับหลักความเสมอภาคและเป็นธรรมในการบริหารค่าจ้างเงินเดือนครับ
เพราะถ้าฝ่ายบริหารมีนโยบายดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้บริหารเงินเดือนมากกว่าลูกน้องก็เลยจำเป็นต้องขึ้นเงินเดือนให้เป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าลูกน้องนั้น
คำถามคือเป็นความผิดของผู้บริหารที่เงินเดือนสูงหรือครับ
ถึงได้ต้องขึ้นเงินเดือนในเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าลูกน้อง??
แล้วอย่างนี้ต่อไปใครอยากจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหาร?
และใครอยากจะทำงานให้ได้รับเงินเดือนสูงมากขึ้น
เพราะถ้าเงินเดือนถึงจุดที่บริษัทกำหนดก็จะถูกทำโทษให้ได้รับการขึ้นเงินเดือนในเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงซะงั้น
แถมผู้บริหารที่มีศักยภาพ
มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดีมีฝีมือที่รับนโยบายนี้ไม่ได้แล้วลาออกไปล่ะ บริษัทก็ต้องไปหาคนมาทำแทนซึ่งแน่ละต้องมีค่าใช้จ่ายในการหาคนใหม่มาแทนคนเก่าที่ลาออกไป
แถมคนในก็จะไม่อยาก
Promote
หรือไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรให้มากขึ้นเพราะกลัวว่าถ้าเงินเดือนเกินที่กำหนดก็จะได้รับการขึ้นเงินเดือนลดลง
ก็เลยร้องเพลงสบายกว่ากันเยอะเลยอยู่เฉย
ๆ ดีกว่า
แต่ถ้าบริษัทจะหาคนนอกเข้ามาแทน
แล้ววันหนึ่งคนนอกคนนี้เขารู้ว่าเงินเดือนเขาเกินที่บริษัทกำหนดไว้ เขาก็เลยได้รับการขึ้นเงินเดือนในเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงเมื่อเทียบกับลูกน้อง
เขายังอยากจะทำงานอยู่ต่อไปไหมครับ
แล้วก็จะเกิดปัญหาเดิมวนเวียนแบบวนลูปแบบนี้ต่อไปหรือไม่
ฝากให้คิดนะครับ
แต่ถ้าคิดแล้วยังยืนยันจะเดินหน้านโยบายนี้ต่อไปก็เอาที่สบายใจเลยครับ