คำถามมีอยู่ว่า....
“พนักงานทดลองงานทำงานไม่ดีจะเรียกมาแจ้งผล
ขอลดเงินเดือนลงและให้เวลาต่อทดลองงานออกไปดีหรือไม่” หรือ
“พนักงานประจำผลงานไม่ดีจะเชิญมาคุยเพื่อขอลดเงินเดือนลง
และจะมอบหมายงานให้เขามี Value ในงานที่เพิ่มขึ้น
ถ้าพนักงานยินยอมจะทำได้ไหม” หรือ
“ถ้าพนักงานคงไม่ยินยอมลดเงินเดือน
บริษัทจะขอลดเงินอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น ค่าน้ำมันได้หรือไม่”
ผมเลยอยากจะมาทำความเข้าใจในหลักของ
“ค่าจ้าง” ให้ตรงกันเสียก่อนคือ....
การลด “ค่าจ้าง”
นั้นทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมายแรงงานครับ
แต่ถ้าพนักงานยินยอมที่จะลดค่าจ้างโดยการทำสัญญายินดีลดค่าจ้างของตัวเองลงแล้วเซ็นชื่อก็อาจทำได้
แต่..ถามใจของตัวเราเองดูสิครับว่าถ้าใครมาบอกให้เราลดค่าจ้างลงน่ะเรารู้สึกยังไง
และเราอยากให้บริษัทลดค่าจ้างของเราหรือไม่?
ผมใช้คำว่า
“ค่าจ้าง” เพราะกฎหมายแรงงานไม่มีคำว่าเงินเดือน
ถ้าจะถามว่าค่าจ้างมีความหมายว่ายังไงก็ตอบได้ (ตามมาตรา 5 ไปหาอ่านในกฎหมายแรงงานนะครับ)
แบบเร็ว ๆ
ว่าคือเงินที่นายจ้างจ่ายให้กับลูกจ้างเพื่อเป็นค่าตอบแทนการทำงานตามสัญญาในเวลาทำงานปกติ
ดังนั้น
จึงต้องมาตีความว่า “เงิน” ประเภทต่าง ๆ
ที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงานนั้นเงินตัวไหนบ้างที่เป็นค่าจ้างหรือเงินตัวไหนที่ไม่เป็นค่าจ้าง
เช่น....
เงินเดือนเป็นค่าจ้างแหงแก๋
เพราะเป็นค่าตอบแทนการทำงานที่ลูกจ้างได้รับจากนายจ้าง คือฉันทำงานให้เธอ ๆ
ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน(คือเงินเดือน)ให้ฉัน
ค่าวิชาชีพก็เป็นค่าจ้างเพราะเป็นค่าตอบแทนการทำงานที่ลูกจ้างต้องใช้วิชาชีพนั้น
ๆ ในการทำงานนายจ้างก็เลยต้องจ่ายค่าวิชาชีพให้
ค่าตำแหน่ง,
ค่าภาษาก็เป็นค่าจ้างเพราะเป็นค่าตอบแทนการทำงานที่ลูกจ้างทำงานในตำแหน่งนั้น
หรือทำงานโดยต้องใช้ภาษานั้น ๆ ในการทำงาน
ฯลฯ
จากที่ผมยกตัวอย่างมาข้างต้นนี้จึงต้องมาตีความกันว่าเงินอะไรบ้างที่เป็นค่าจ้าง
อะไรที่ไม่เป็นค่าจ้างเพื่อจะได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้อง
คราวนี้เรากลับมาสู่คำถามข้างต้นคือ
“การลดค่าจ้างทำได้หรือไม่?”
ก่อนตอบอยากจะตั้งคำถามกลับไปยังผู้ถามว่า....
“การลดค่าจ้างควรทำหรือไม่?” และ
“ลดค่าจ้างไปแล้วบริษัทจะได้อะไร?”
ถ้ายังคิดไม่ออกลองตอบคำถามเหล่านี้ดูก่อนไหมครับ
1. บริษัทจะลดค่าจ้างพนักงานเพื่อจะลงโทษที่เขาทำงานไม่ดีใช่หรือไม่,
บริษัทคาดหวังหรือมีเป้าหมายอะไรในการลดค่าจ้างพนักงานที่ทำงานไม่ดีตอบให้ชัด
ๆ ได้ไหมครับ
2. ถ้าลดค่าจ้างพนักงานลงเพราะทำงานไม่ดี
จะทำให้พนักงานทำงานดีขึ้นกว่าเดิมได้จริงหรือ
เช่นเมื่อลดเงินเดือนลงแล้วเขาจะทำงานดีขึ้นได้ตามเม็ดเงินที่ถูกลดลงไปหรือ
จะแน่ใจไหมครับว่าเขาจะทำงานดีขึ้น
ถ้าเขายังทำงานไม่ดีขึ้นล่ะบริษัทจะต้องลดเงินเดือนลงไปเรื่อย ๆ
จนกว่าเขาจะทำงานให้ดีขึ้นหรือเปล่าครับ
แล้วถ้าสมมุติว่าเขาทำงานดีขึ้นแล้วบริษัทจะปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นให้คืนกลับไปหรือไม่
3. แน่ใจไหมครับว่าพนักงานที่ถูกลดค่าจ้างลงจะไม่แอบ
“วางยา” บริษัทด้วยการสร้างความเสียหายแบบลับ ๆ โดยไม่ให้หัวหน้ารู้ เช่น
การนำข้อมูลที่สำคัญ ๆ ออกไปเผยแพร่ หรือการไปปล่อยข่าวลือต่าง ๆ
ให้เกิดความระส่ำระสายขึ้นในบริษัท ฯลฯ
4. เมื่อลดค่าจ้างพนักงานลงแล้วเขาจะยังคงมีความก้าวหน้า
(Career Path) ต่อไปกับบริษัทได้อยู่อีกหรือไม่? บริษัทจะไว้วางใจเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งเขาในอนาคตหรือไม่?
จากคำถามข้างต้นในมุมมองของผมการลดเงินเดือนหรือลดค่าจ้างพนักงานลงเพราะผลงานไม่ดีไม่ว่าจะเป็นพนักงานทดลองงานหรือพนักงานประจำก็ตามไม่ได้ทำให้เกิดผลดีอะไรขึ้นมาเลย!!
ถ้างั้นควรทำยังไงถ้าพนักงานทำงานไม่ดี?
1. มีการประเมินผลการปฏิบัติงานและแจ้งผลการปฏิบัติงาน
(Feedback) ให้พนักงานรับทราบแบบตรงไปตรงมา เช่น
ถ้าพนักงานทำงานไม่ดีมีปัญหาในการทำงานมากจนหัวหน้ารับไม่ไหวจริง ๆ
ก็ต้องกล้าประเมินผลงานให้ต่ำสุด เช่น D หรือ E
2. นำผลการประเมินไปใช้ร่วมกับการให้คุณให้โทษที่ชัดเจน
เช่น
เมื่อถูกประเมินผลการปฏิบัติงานต่ำสุดก็อาจจะได้ขึ้นเงินเดือนประจำปีในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากหรือไม่ได้ขึ้นเงินเดือน
หรือได้โบนัสน้อยกว่าค่าเฉลี่ยหรือไม่ให้โบนัสเลยเนื่องจากผลงานไม่เป็นที่ยอมรับของหัวหน้าและแจ้งผลให้เขาทราบ
ถ้าทำแบบนี้ตัวพนักงานก็อาจจะตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเองด้วยการลาออกไปโดยที่บริษัทไม่ต้องไปลดเงินเดือนลงให้มีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องศาลแรงงาน
เพราะการขึ้นเงินเดือนประจำปีและการจ่ายโบนัสโดยหลักการแล้วเป็นสิทธิของนายจ้างที่จะให้ใครมากน้อยแค่ไหนหรือไม่ให้เลยก็ย่อมได้
3. ถ้าในที่สุดแล้วบริษัทเห็นว่าพนักงานที่มีผลการทำงานไม่ดีเหล่านี้ไม่พัฒนาตัวเอง
ไม่ปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้น
หรือมีทัศนคติที่เป็นปัญหาที่ไม่สามารถจะทำงานร่วมกันไปได้แล้วจริง ๆ
ก็คงจะต้องเจรจากับพนักงานเพื่อหาทางจากกันด้วยดี
ซึ่งก็แล้วแต่เงื่อนไขข้อตกลงกันครับ
แต่พูดง่าย ๆ
ว่าหลักการข้อนี้คือ “เจ็บแต่จบ” ไม่ควรยืดเยื้อแบบเรื้อรังครับ
การขอลดค่าจ้างที่ผมเล่ามาข้างต้นนี้เนื่องจากพนักงานมีผลการปฏิบัติงานไม่ดีหรือมีปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำงาน
ไม่ใช่การขอความร่วมมือลดค่าจ้างในยามบริษัทมีวิกฤตินะครับ