เห็นคำถามนี้แล้วก็นึกขำและคิดย้อนกลับไปสมัยทำงานประจำที่ผมก็เคยถามลูกน้องแบบเดียวกันนี้
แต่ก็ไม่เคยมีลูกน้องย้อนถามผมกลับมาว่า
“แล้วพี่จะรู้ไปทำไม” ซักทีนะครับ :-)
ในทางกลับกันเมื่อผมบอกลูกน้องว่าจะลาพักร้อน
ลูกน้องบางคนก็ยังถามผมว่าจะไปเที่ยวไหน ผมก็บอกลูกน้องไป ก็ไม่เคยโกรธหรือเคืองลูกน้องว่าแกมีสิทธิอะไรมาถามฉันที่เป็นหัวหน้าเลยสักครั้ง
แถมลูกน้องบางคนก็ฝากผมซื้อของมาให้อีกต่างหาก !
เมื่อผมกลับมาจากพักร้อนแล้วยังต้องหิ้วขนมขบเคี้ยวกลับมาฝากซึ่งกันและกัน
ในทำนองเดียวกันเมื่อลูกน้องผมกลับจากพักร้อนก็มักจะหิ้วของกินมาแบ่งกันกินในหน่วยงาน
ก็เลยอยากจะมาสรุปว่าถ้าหน่วยงานไหนเกิดสัมพันธภาพไม่ดีระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง
เรื่องเล็ก ๆ ก็มักจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และคำถามแบบนี้จะกลายเป็นคำถามแบบเป็นทางการและเป็นประเด็นดราม่าได้ทันที
แต่ถ้าหน่วยงานไหนหัวหน้ากับลูกน้องมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันคำถามแบบนี้ก็จะเป็นเรื่องพูดคุยแบบพี่
ๆ น้อง ๆ คุยกันแบบขำ ๆ หยอกล้อกันไป
ถ้าจะพูดกันแบบเป็นทางการสำหรับหน่วยงานที่หัวหน้ากับลูกน้องรู้สึกไม่กินเส้นกันอยู่แล้วแล้ว
ถามว่าหัวหน้าควรถามลูกน้องไหมว่า “จะลาพักร้อนไปไหน ?”
คำตอบคือ
“ไม่ควรถามครับ”
เพราะการลาพักร้อนเป็นเรื่องส่วนตัวของลูกน้องที่ต้องการใช้สิทธิตามมาตรา
30 ของกฎหมายแรงงาน เมื่อลูกน้องยื่นใบลาพักร้อนตามระเบียบ
(เช่นต้องยื่นล่วงหน้า 3 วัน)
หัวหน้าก็ต้องดูว่าจะอนุมัติให้ลาได้หรือไม่ก็เท่านั้น
เพราะถ้าไปถามแล้วลูกน้องไม่ตอบ หรือตอบมาว่าพี่จะรู้ไปทำไมหัวหน้าก็จะหน้าแตกเสียเปล่า
ๆ
เพราะเขาจะพักร้อนแล้วไปไหนมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาถ้าไม่สนิทกับลูกน้องพอก็อย่าไปถามให้ลูกน้องเอาไปเม้าท์ลับหลังเลยครับ
แต่ถ้าลูกน้องลากิจล่ะ
หัวหน้าถามได้ไหม ?
ก็ตอบได้ว่าการลากิจจะมีลักษณะที่แตกต่างจากการลาพักร้อนครับ
เพราะการลาพักร้อน (หรือจะเรียกให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงานคือ
“วันหยุดพักผ่อนประจำปี”) เป็นสิทธิของลูกน้องที่ตามม.30 แล้วหัวหน้าต้องจัดให้เขาหยุดล่วงหน้า
หรือจะตกลงกันให้ลูกน้องเป็นคนยื่นขอพักร้อนตามสิทธิของเขาก็ย่อมได้
ซึ่งจะต่างจากวันลา (เช่นลาป่วย, ลากิจ ฯลฯ) ที่ไม่ต้องไปจัดให้เขาหยุดล่วงหน้า
ถ้าเขายื่นใบลาพักร้อนตามระเบียบแล้วเขาจะไปเที่ยวไหน
ไปทำอะไรไม่จำเป็นต้องบอกหัวหน้า
และหัวหน้าที่ไม่สนิทชิดเชื้อกันลูกน้องก็ไม่ควรไปละลาบละล้วงถามเขา
แต่กรณีการลากิจนั้น
บริษัทมักจะต้องระบุในข้อบังคับการทำงานให้ชัดเจนว่าพนักงานที่จะขอลากิจนั้นต้องยื่นใบลากิจล่วงหน้า
(กี่วันก็ว่ากันไป)
และต้องเป็นการไปทำกิจธุระส่วนตัวที่จำเป็นต้องไปทำด้วยตนเองไม่สามารถมอบหมายให้ใครไปทำแทนได้
เช่น การลาไปบวช (นอกพรรษา, หรือบวชทดแทนคุณบิดามารดา, หรือบวชหน้าไฟ)
การลาไปแต่งงาน, การลาไปรับปริญญา ฯลฯ
อันนี้หัวหน้ามีสิทธิถามลูกน้องได้ว่า
“ลากิจไปไหน”
ซึ่งลูกน้องต้องตอบตามความเป็นจริงเพราะหัวหน้าจะได้พิจารณาได้ว่าเห็นสมควรอนุมัติหรือไม่
แถมสมมุติว่าถ้าลูกน้องโกหกว่าลากิจเพื่อไปโอนซื้อขายที่ดิน
แต่ความเป็นจริงลูกน้องกลับไปเที่ยวลั๊นลาชายทะเลต่างจังหวัดแถมโพสรูป Check in ลงวันเวลาสถานที่เที่ยวชัดเจน และไม่มีหลักฐานใด ๆ ในการไปโอนที่ดินจริงตามที่แจ้งลากิจเอาไว้ก่อนหน้านี้
หัวหน้าก็มีสิทธิยกเลิกการลากิจและออกหนังสือตักเตือนลูกน้องด้วยเหตุผลคือแจ้งลากิจเป็นเท็จถือเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
และไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (No work no pay) ได้อีกต่างหาก
แรงงานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง
ระหว่างฝ่ายบริหารกับพนักงานเท่านั้นแหละครับที่จะทำให้เรื่องเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาดราม่าต่อไปหรือไม่