ก่อนจะคุยกันเรื่องนี้คงต้องมาตกลงเรื่องคำนิยามของ “หัวหน้า” กันเสียก่อนนะครับ
คำว่า “หัวหน้า”
ของผมตั้งแต่นี้เป็นต้นไปหมายถึงคนที่มีลูกน้อง
ไม่ว่าบริษัทจะตั้งชื่อตำแหน่งหัวหน้าว่าอะไรก็ตาม
เช่น Leader,
Supervisor, หัวหน้างาน, ผู้ช่วยผู้จัดการ, ผู้จัดการ, ผู้อำนวยการ,
GM, VP ไปจนถึงกรรมการผู้จัดการก็ใช้คำว่า “หัวหน้า” นะครับ
บริษัทหลายแห่งมักจะตั้งคนขึ้นมาเป็นหัวหน้าเพราะมีอายุงานเยอะ
อายุตัวมาก มีผลงานดีมีความรู้และทักษะเรื่องงานดี
บางครั้งก็ไปเลื่อนเอาคนที่เงินเดือนใกล้ตันให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าเพราะจะได้แก้ปัญหาเงินเดือนตันก็เคยเจอ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะพบเห็นได้บ่อย
ๆ คือหลายบริษัทเลือกคนขึ้นมาเป็นหัวหน้าโดยไม่ได้ดูว่าคน ๆ นั้นมี Leadership มากหรือน้อยแค่ไหน, มี People Skill หรือไม่,
มีทัศนคติต่องาน, ต่อเพื่อนร่วมงาน, ต่อองค์กร, ต่อการใช้ชีวิตเป็นยังไง
ทั้ง
ๆ ที่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญและมีผลกับความสำเร็จของทีมงานและองค์กร
แต่กลับถูกมองข้าม
!!??
ลองกลับมาคิดดูนะครับว่าปัญหาที่เกิดในองค์กรนั้นส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไร
?
หัวหน้าที่ลูกน้องไม่ศรัทธา
ไม่ยอมรับ ไม่เชื่อถือ คือหัวหน้าที่ไม่รู้งาน ขาดความรู้ทักษะในงาน
ลูกน้องไปถามอะไรที่เกี่ยวกับงาน หรือไปขอความคิดเห็นหัวหน้าเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาในงานแล้วหัวหน้าตอบไม่ได้น่ะ
มีเรื่องแบบนี้มากน้อยแค่ไหน
เมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาของหัวหน้าแบบนี้
หัวหน้าที่มีวาจาเป็นอาวุธ
มีดาวพุธเป็นวินาศ จุดเดือดต่ำ ฟิวส์ขาดง่าย อารมณ์ร้าย โวยวายเสียงดัง
ไม่เคยรับฟังลูกน้อง ทำดีไม่เคยจำ แต่ทำพลาดพี่ไม่ลืม ฯลฯ
หรือหัวหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่พอถึงช่วงขึ้นเงินเดือนและจ่ายโบนัส
ก็เอาเรื่องเหล่านี้ไปนั่งเม้าท์มอยกับลูกน้องทำนองนี้
“น้อง..พี่ว่าบริษัทเราขึ้นเงินเดือนให้น้อยจังเลยนะ
ดูสิตั้งหลายปีก็ขึ้นเงินเดือนให้แค่เนี่ยะ โบนัสก็จ่ายแค่ 2 เดือนเอง
บริษัทที่เพื่อนของพี่ทำงานอยู่เขาจ่ายกันมากกว่านี้อีก อย่างน้อย ๆ ก็ 3-4
เดือน สวัสดิการบริษัทเราก็ไม่ดีสู้คนอื่นยังไม่ได้เลย ฯลฯ”
เรียกว่างานหลักไม่ทำ
งานประจำคือด่าบริษัท นินทาฝ่ายบริหาร แต่ที่น่าแปลกคือบริษัทไป Promote คนที่มีทัศนคติแบบนี้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าซะงั้น !!
แล้วควรทำไงดี ?
เรื่องนี้ผมเชื่อว่าถ้าคนที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนั้น
ๆ กลับมาคิดทบทวนวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้กับทาง HR (ที่เป็นมืออาชีพ)
แล้วตั้งใจจะแก้ปัญหานี้จริง ๆ ก็จะทำได้แม้จะใช้เวลาในการแก้ไขบ้าง
แต่ถ้าไม่เริ่มคิดแก้ไขก็จะต้องเกิดปัญหาแบบวนลูปแบบนี้ไปเรื่อย
ๆ แหละครับ
และหวังว่าคงไม่มีคำตอบว่าวิธีแก้ปัญหานี้คือส่งหัวหน้าที่มีปัญหา
People
Skill หรือมีทัศนคติไม่ดีไปเข้าอบรมเพียงแค่นี้แล้วคิด (เอาเอง)
ว่าปัญหานี้จะจบนะครับ
เพราะถ้าแก้ปัญหาได้แค่นี้ก็คงจะจบแบบสูญเปล่าทั้งเวลาและงบประมาณที่ส่งหัวหน้าเหล่านี้ไปเข้าอบรมแหละครับ