ยังมีคำถามนี้เข้ามาก็เลยขอตอบตามนี้นะครับ
ตอบได้ว่า..ไม่จำเป็น
เพราะการอยู่ใน Job Grade เดียวกันคือเรื่องของความสำคัญของ
“ตำแหน่งงาน” ที่มีค่างานเท่ากัน
แต่..การประเมินผลงานเป็นเรื่องของ
“ตัวบุคคล” ที่ทำงานในลักษณะงานและความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน
ผู้บังคับบัญชาก็คนละคนกัน KPIs (ถ้ามี)
ก็ไม่เหมือนกัน แถมอยู่คนละฝ่ายคนละหน่วยงานกัน
งบประมาณขึ้นเงินเดือนประจำปีที่แต่ละฝ่ายได้รับก็ไม่เท่ากัน
ยิ่งถ้าบริษัทไหนใช้ระบบการจัดสรรงบประมาณขึ้นเงินเดือนประจำปีไปให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานพิจารณาด้วยแล้ว
แม้ว่าพนักงานจะได้รับการประเมินผลงานเกรดเดียวกันก็ไม่จำเป็นจะต้องได้ขึ้นเงินเดือนเท่ากันเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่อง
Performance รวมถึงความรู้และทักษะในงานของตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับเรื่องค่างาน
(Job Value) ซึ่งเป็นเรื่องความสำคัญของ “ตำแหน่งงาน”
ยกตัวอย่างเช่น..
พนักงานจัดซื้อกับพนักงานบัญชี
สมมุติว่าเมื่อประเมินค่างานแล้วทั้งสองตำแหน่งนี้อยู่ใน Job
Grade เดียวกัน
นายวิเชียรเป็นพนักงานจัดซื้อ
ส่วนนายวิทยาเป็นพนักงานบัญชี
ทั้งสองคนนี้ถูกหัวหน้าประเมินผลการปฏิบัติงานได้เกรด C เหมือนกัน
ทั้งวิเชียรและวิทยาก็อาจจะได้รับการขึ้นเงินเดือนประจำปีในเปอร์เซ็นต์ที่ไม่เท่ากันก็ได้
เช่น นายวิเชียรพนักงานจัดซื้ออาจจะได้รับการขึ้นเงินเดือน 6 เปอร์เซ็นต์
ส่วนนายวิทยาพนักงานบัญชีอาจจะได้รับการขึ้นเงินเดือน
5 เปอร์เซ็นต์
เนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่พิจารณาผลการปฏิบัติงานของพนักงานทั้งสองคนนี้ก็อยู่กันคนละหน่วยงาน,
งบประมาณขึ้นเงินเดือนของฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายบัญชีก็ไม่เท่ากัน,
ลักษณะงานของวิเชียรและวิทยาก็แตกต่างกัน, เกณฑ์การประเมินผลหรือ
KPIs ของทั้งสองคนก็ไม่เหมืือนกัน, จำนวนพนักงานในแต่ละฝ่ายที่จะได้รับการพิจารณางบประมาณให้อยู่ในงบฯก็ไม่เท่ากัน,
เปอร์เซ็นต์ของการขึ้นเงินเดือนที่สัมพันธ์กับเกรดก็ต่างกัน ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลทำให้เปอร์เซ็นต์การขึ้นเงินเดือนประจำปีของตัวบุคคลอาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้แม้ว่าจะได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในเกรดเดียวกันก็ตามครับ
.....................................