วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

บริษัทได้อะไรจากการที่หัวหน้าส่งลูกน้องไปอบรมกลับมาแล้วให้ทำรายงาน ?

            เรื่องหนึ่งที่ยังพบเห็นได้เสมอคือเมื่อหัวหน้าส่งลูกน้องไปเข้าอบรมก็มักจะสั่งให้ลูกน้องทำรายงานมาส่งด้วย

            คำถามคือ

1.                  หัวหน้าเคยกำหนดเป้าหมายหรือคาดหวังอะไรบ้างที่ให้ลูกน้องทำรายงานส่ง

2.                  ถ้าลูกน้องไปเข้าอบรมหลักสูตรเดียวกัน 3 คน ต้องทำรายงานส่งทั้ง 3 คนเลยหรือไม่

3.                  หัวหน้าเคยอ่านรายงานของลูกน้อง (ทุกคน) บ้างหรือไม่ อ่านแล้วได้อะไร หรือจะเอารายงานนั้นไปทำอะไรต่อ

4.                  ถ้าอ่านเสร็จแล้วเอารายงานเหล่านั้นไปเก็บไว้ที่ไหน เก็บไว้นานแค่ไหน เคยเอาออกมาใช้ประโยชน์อะไรอีกบ้างหรือเปล่า หรืออ่านเสร็จแล้วในที่สุดก็ทิ้งไป

5.                  หัวหน้า (หรือลูกน้อง) นำรายงานนี้ไปใช้ประโยชน์อะไรให้เป็นรูปธรรมต่อไปบ้างหรือเปล่า

6.                  หัวหน้าจะคิดว่าลูกน้องที่ทำรายงานส่งแล้วนั้น แปลว่าเขามีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ไปอบรมแล้วเป็นอย่างดีแล้วจริงหรือ

7.                  ค่าใช้จ่ายในการทำรายงานต่อฉบับเท่าไหร่ ตั้งแต่ค่ากระดาษ, ค่าหมึกพิมพ์, ค่าถ่ายเอกสาร, ทำปก ฯลฯ ยังไม่รวมค่าเสียเวลาของลูกน้องแต่ละคนที่จะต้องมานั่งทำรายงานตั้งแต่ต้นจนจบ (ถ้าไปอบรมเรื่องเดียวกันก็อาจจะมีการลอกรายงานกันส่งหัวหน้า) เมื่อรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการทำรายงานของทุกคนทั้งบริษัทต่อปี บริษัทเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่คุ้มกันหรือไม่

นี่คือตัวอย่างคำถามที่อยากฝากไว้ให้คิดสำหรับหัวหน้าที่ให้ลูกน้องไปเข้าอบรมแล้วทำรายงานส่งเหมือนกับคุณครูที่สั่งให้นักเรียนเขียนรายงานส่งเพื่อเอาคะแนน 

แต่....วิธีการที่เหมาะกับวัยเรียน จะยังคงเหมาะที่จะเอามาใช้กับคนทำงานหรือไม่ ?

เพราะชีวิตการเป็นนักเรียนนักศึกษากับชีวิตการทำงานมันแตกต่างกัน บริบทของการเรียนกับการทำงานก็ต่างกัน

            จะดีกว่าไหมถ้าแทนที่หัวหน้าจะไปบอกให้ลูกน้องส่งรายงานหลังจากการอบรมแล้วเปลี่ยนมาเป็น....

1.      หัวหน้ากำหนดเป้าหมายให้แน่นอนเสียก่อนว่าต้องการจะส่งลูกน้องไปอบรมหลักสูตรนั้น ๆ เพื่ออะไร มีความจำเป็นมาก-น้อยแค่ไหน

2.      พูดคุยกับลูกน้องบอกให้เขารู้ว่าจะส่งไปเข้าอบรมหลักสูตรอะไร เป้าหมายที่ส่งไปอบรมคืออะไร และหัวหน้าคาดหวังว่าเมื่อลูกน้องไปเข้าอบรมเรียนรู้เรื่องนี้แล้ว อยากจะให้ลูกน้องนำความรู้ที่ได้กลับมาทำงานอะไรบ้างตามที่หัวหน้าจะมอบหมายให้ทำ (ซึ่งต้องมีผลสำเร็จที่เห็นเป็นรูปธรรม) โดยกำหนดระยะเวลาในการติดตามผลให้ชัดเจน

3.      เมื่อลูกน้องไปอบรมกลับมา หัวหน้าก็ต้องคอยติดตามผลการทำงานจากลูกน้องว่าสามารถเอาสิ่งที่เรียนรู้จากการอบรมมาทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรมตามที่คุยกันไว้ก่อนไปเข้าอบรมหรือเปล่า ถ้าหากลูกน้องทำไม่ได้ ยังมีปัญหาในการทำงานตรงจุดไหน หัวหน้ายังคงต้องเป็นคนสอนงานและให้คำปรึกษาแนะนำกับลูกน้องเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน

4.      บางหลักสูตรอาจจะเป็นการส่งไปอบรมเพื่อแก้ไขพฤติกรรมการทำงานบางอย่างที่ไม่สามารถจะมอบหมายให้ลูกน้องนำความรู้จากการอบรมกลับมาทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม หัวหน้าก็ควรจะต้องบอกกับลูกน้องก่อนส่งไปอบรมว่าที่ส่งให้ไปเข้าอบรมหลักสูตรนั้น ๆ เพราะต้องการเห็นลูกน้องปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมใดให้ดีขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวลูกน้องในอนาคต และติดตามผลหลังจากลูกน้องผ่านการอบรมว่าสามารถจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ พร้อมทั้งคอย Feedback และให้คำแนะนำกับลูกน้อง

ถ้าลูกน้องสามารถแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้ก็คิดหาวิธีที่จะพัฒนาลูกน้องคนนี้ในด้านอื่น ๆ ต่อไป

แต่ถ้าลูกน้องไม่สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมให้ดีขึ้นอย่างที่หัวหน้าต้องการ หัวหน้าก็ควรจะต้อง Feedback และคิดหาวิธีแก้ปัญหาลูกน้องคนนี้ในวิธีอื่นที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่วิธีที่ส่งไปอบรมซ้ำในเรื่องเดิม หรือให้ลูกน้องไปอบรมแล้วกลับมาเขียนรายงานส่ง

หวังว่าเรื่องนี้จะให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่เป็นหัวหน้าในการพัฒนาลูกน้องให้คุ้มค่ากับงบประมาณของบริษัทที่ส่งลูกน้องไปเข้าอบรมนะครับ