เห็นข่าวการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเริ่มโชยมาผมก็เลยขอนำเสนอข้อมูลที่รวบรวมมาพร้อมทั้งคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปีนี้ (ถ้ามี) เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับ HR และฝ่ายบริหารในองค์กรต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับมือในเรื่องนี้กันนะครับ
บอกกันก่อนว่าการคาดการณ์แนวโน้มค่าจ้างขั้นต่ำในบทความนี้
ผมคาดการณ์จากสถิติการปรับค่าจ้างขั้นต่ำย้อนหลัง 14 ปี จากปี 2550
ถึง 2564
(เราปรับค่าจ้างขั้นต่ำครั้งล่าสุดคือ 1 มค.63) เกี่ยวกับความน่าจะเป็นในการปรับครั้งต่อไป ไม่ได้คาดการณ์จากปัจจัยในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามตำรา
เช่น อัตราเงินเฟ้อ, ค่าครองชีพ, ราคาสินค้า ฯลฯ เพื่อดูความเป็นไปได้ในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำและผลกระทบสำหรับครั้งต่อไป
เนื่องจากค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบันมี
10 อัตราแบ่งตามจังหวัดต่าง ๆ ผมก็เลยขอใช้อัตราในกทม.และปริมลฑลที่วันละ 331
บาท และคิดเป็นต่อเดือนคือใช้ 30 คูณคือเดือนละ
9,930 บาท แล้ววิเคราะห์แบบจำลองการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราต่าง
ๆ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ว่าจะมีผลกระทบกับอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิยังไงบ้างโดยสรุปดังนี้
1.
จากสถิติการปรับค่าจ้างขั้นต่ำย้อนหลัง 14 ปี
(ตามภาพสถิติค่าจ้างขั้นต่ำ-อัตราเงินเฟ้อ-%ขึ้นเงินเดือนประจำปี
2550-2563) จะเห็นว่าถ้าเราไม่รวมการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2555-56
ที่ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 40% เราจะมีค่าเฉลี่ยการปรับค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ประมาณปีละ
3% แต่เมื่อรวมการปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 2555-56 เข้าไปแล้วเราจะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยปีละประมาณ 8-9%
1.
ปัจจุบันอัตราเริ่มต้นตามวุฒิของปวช.(11,000 บาท) ในปัจจุบันจะห่างจากค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบัน (วันละ 331 บาท เดือนละ 9,930 บาท) อยู่ประมาณ 11% (ตามภาพวิเคราะห์แบบจำลองการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราต่าง ๆ และผลกระทบ)
1.
ถ้าหากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเริ่มมีผลกระทบต่ออัตราเริ่มต้นตามวุฒิ
บริษัทก็จะต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิใหม่ไล่ลำดับไปทั้งหมดคือปรับปวช., ปวส., ปริญญาตรี,
ปริญญาโท, ปริญญาเอก (ถ้ามี)
2.
กรณีมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น 3% จะเป็นวันละ
341บาท (เดือนละ 10,228 บาท) จะทำให้ความห่างระหว่างคุณวุฒิปวช.กับค่าจ้างขึ้นต่ำลดลงจากเดิมที่
11% เหลือ 7.5%
ดังนั้นถ้ามีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในอัตรานี้บริษัทอาจจะยังไม่ต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิเพื่อหนีค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ก็ได้
แต่ต้องระวังไว้ว่าถ้าคู่แข่งปรับอัตราเริ่มต้นตามวุฒิ (ทุกคุณวุฒิ)
หนีค่าจ้างขั้นต่ำใหม่แล้วบริษัทเราไม่ปรับ เราก็อาจจะไม่ได้คนจบใหม่ตามที่ต้องการ
3.
การปรับค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่ 5% ขึ้นไปจะมีผลทำให้บริษัทควรจะต้องปรับอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิทั้งหมด
เนื่องจากความห่างระหว่างอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิปวช.กับค่าจ้างขั้นต่ำจะห่างกันเพียง
5.5% (เทียบจากปัจจุบันที่อัตราเริ่มต้นตามวุฒิปวช.ห่างจากค่าจ้างขั้นต่ำ
10.8%)
4. การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ
10% ขึ้นไปจะมีผลกระทบกับการปรับอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
(ตามภาพ) ซึ่งต้องถามขีดความสามารถในการจ่ายของฝ่ายนายจ้างว่าจะรับไหวแค่ไหน
5. นอกจากการปรับอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิต่าง
ๆ สำหรับคนจบใหม่แล้ว องค์กรยังต้องมีการปรับเงินเดือนคนเก่าที่เข้ามาด้วยอัตราเริ่มต้นตามคุณวุฒิเดิมแล้วถูกคนจบใหม่
(หรือลูกจ้างที่เข้ามาด้วยค่าจ้างขั้นต่ำใหม่) มีเงินเดือนไล่หลังเข้ามา
จะทำให้องค์กรมีต้นทุนในการปรับคนเก่าเพื่อหนีคนใหม่เพิ่มขึ้น
ซึ่งต้นทุนตัวนี้ยังไม่รวม Staff Cost อื่น ๆ ที่คำนวณจากฐานเงินเดือน
เช่น ค่าโอที, เงินสมทบประกันสังคม, เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, ค่าชดเชย
(กรณีถูกเลิกจ้าง) เป็นต้น
6. การปรับค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่
10% ขึ้นไปจะมีผลกระทบรุนแรงกับบริษัทต่าง ๆ มากขึ้นไปเรื่อย ๆ
ตามเปอร์เซ็นต์การปรับที่เพิ่มขึ้น (ตามภาพวิเคราะห์แบบจำลองการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราต่าง
ๆ และผลกระทบ)
7. ถ้าปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น
40% (เท่ากับเมื่อปี 2555-56) จะทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่วันละ
463 บาท (เพิ่มขึ้นวันละ 132 บาท)
และจะทำให้อัตราเริ่มต้นตามวุฒิปวช.= 15,400 บาท ปวส.=
17,500 บาท ปริญญาตรี = 22,400 บาท ปริญญาโท =
28,000 บาท (จริง ๆ
แล้วจะมีวิธีปรับปลีกย่อยหลายแบบแต่ในที่นี้ผมขอคิดแบบเร็ว ๆ คือใช้ 40% คูณเข้าไปในทุกคุณวุฒิก็แล้วกันนะครับ)
8.
ถ้าปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นเป็นวันละ 492 บาท
(ปรับเพิ่มขึ้น 48.64%) จะทำให้อัตราเริ่มต้นตามวุฒิปวช.=16,346
บาท ปวส.= 18,575 บาท ปริญญาตรี =
23,776 บาท ปริญญาโท = 29,720 บาท
ถ้ามองฝั่งลูกจ้างก็คงแฮปปี้ดีใจแหละครับ แต่ถ้ามองจากฝั่งนายจ้างล่ะจะเป็นยังไง
จากที่วิเคราะห์มาทั้งหมดนี้ผมคาดว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำในรอบนี้น่าจะอยู่ในช่วง
3-5
เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อ 1
มค.60 คือ 3% เมื่อ 1
เมย.61 ประมาณ 4-5% และครั้งล่าสุดคือ
1 มค.63 ประมาณ 2%
ดังนั้นตัวเลข 492 ผมเชื่อว่ายังห่างไกลกับอัตราที่จะประกาศจริงไปเยอะเลยครับ