วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564

การบริหารคนจะเปลี่ยนไปแบบไหนในยุค Next Normal

             คำที่มากับ Covid 19 คือคำว่า Next Normal หรือจะเรียกว่าวิถีใหม่ก็ได้นะครับ หมายถึงเมื่อเกิดไวรัสระบาดในครั้งนี้แล้วก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในทุกภาคส่วนไปจากเดิมมากมายหลายอย่าง

            ถ้าจะถามว่าแล้วในการบริหารคนล่ะจะมีการปรับเปลี่ยนวิถีใหม่ในองค์กรเป็นยังไงในมุมมองผม ก็ตอบได้ว่าผมมีความเห็นอย่างนี้ครับ

1.      องค์กรควรมุ่งเน้นผลงาน (Output) แทนที่จะมา Focus กับการลงเวลามาทำงาน โดย HR จะต้องสำรวจทบทวนดูว่าตำแหน่งและหน่วยงานใดที่จะ Work from home ได้บ้าง, ตำแหน่งไหนที่ยังจำเป็นต้องมาทำงานที่บริษัท ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นงานที่จะต้องมาใช้เครื่องไม้เครื่องมือในที่ทำงานเช่นในโรงงาน พร้อมทั้งกำหนดวิธีการวัดผลงานตามลักษณะงานให้ชัดเจน

2.      หา Software ที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการทำงาน องค์กรควรจะต้องลดหรือยกเลิกการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบกระดาษแล้วเปลี่ยนเป็นการใช้ Software เข้ามาช่วยลดเวลาการทำงาน Routine ลง เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงาน ควรใช้ Software เข้ามาช่วยให้หัวหน้าประเมินลูกน้องได้ทุกแห่ง เช่น เป็นแอพลิเคชั่นการประเมินผลงานผ่านมือถือ หรือประเมินในโน้ตบุ๊กที่บ้านก็ได้หรือการจัดหา Software สำหรับการ Work from home หรือ Software ที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างพนักงานในการประสานงาน รวมถึงมีการวางมาตรการในการสื่อสารสั่งการของแต่ละหน่วยงานว่าใครจะเป็น Contact person เมื่อมีเกิดเหตุเร่งด่วนฉุกเฉิน

3.      ต้องค้นหาว่าตำแหน่งใดเป็น Key Position และพนักงานคนไหนบ้างที่เป็น Key Person พร้อมทั้งต้องทำผังทดแทน (Succession Plan) ในกรณีที่พนักงานที่เป็น Key Person ติดเชื้อหรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้ใครจะเป็นคนทำงานแทนได้ พร้อมทั้งต้องมีแผนการพัฒนาพนักงาน Individual Development Plan-IDP) ที่ถูกวางตัวให้เป็นทายาท (Successor) รวมถึงมีการติดตามผลการพัฒนาให้ชัดเจน

4.      ต้องทบทวนผังองค์กรและอัตรากำลังใหม่ โดยพิจารณาว่าหน่วยงานไหนควรจะมีอัตรากำลังเท่าเดิม หน่วยงานไหนจะลดอัตรากำลังลงได้ งานใดที่สามารถ Outsource ได้ ซึ่งจะรวมไปถึงการวิเคราะห์งาน (Job Analysis) ในตำแหน่งต่าง ๆ ใหม่อีกครั้งหนึ่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

5.      องค์กรต้องทำ Layout สถานที่ทำงานใหม่ให้สอดคล้องกับยุควิถีใหม่ เพื่อป้องกันหรือลดการติดเชื้อ

6.      วางกฎเกณฑ์การติดต่อประสานงานและการทำงานในองค์กรทั้งในและต่างประเทศ โดยการวางแนวปฏิบัติให้ชัดเจนว่าจะมีกฎเกณฑ์อย่างไรบ้างดังนี้

6.1   กรณีพนักงานจะต้องเดินทางไปติดต่องานต่างประเทศแล้วกลับมาประเทศไทย

6.2   กรณีพนักงาน Expat Staff จากต่างประเทศจะต้องมาติดต่องานในประเทศไทย

6.3   กรณีบุคคลภายนอกเข้ามาติดต่องานในหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องมีจุดพักรอตรงไหน หรือมีการสกรีนบุคคลภายนอกแบบไหนยังไง

7.      การดูแล Facility ส่วนกลางให้ปลอดเชื้อและมีความสะอาดเพิ่มขึ้น เช่น ห้องอาหาร Canteen) , ห้องออกกำลังกาย (Fitness), ห้องประชุม, จุดรับแขก, สภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน ฯลฯ

8.      ปรับปรุงกระบวนการสรรหาว่าจ้าง ในเรื่องนี้บางองค์กรอาจจะมีระบบรองรับอยู่แล้ว แต่สำหรับองค์กรที่ยังไม่มีก็คงจะต้องเริ่มคิดวางระบบเกี่ยวกับการสรรหาว่าจ้างดังต่อไปนี้

8.1   การรับสมัครโดยกรอกใบสมัครผ่านหน้าเว็บไซด์ของบริษัท

8.2   การทดสอบความสามารถเบื้องต้นของผู้สมัครผ่านหน้าเว็บไซด์ของบริษัท

8.3   การให้ผู้สมัครงานส่งคลิปแนะนำตัวเองและประวัติการทำงานมาทางเว็บไซด์ของบริษัท

8.4   การสัมภาษณ์ทางออนไลน์

8.5   เริ่มคิดวิธีการจ้างงานแบบ Gig หรือ Outsource งานประจำบางส่วนออกไป

9.      ปรับรูปแบบการจัดการฝึกอบรมให้เหมาะสม เช่น บางหลักสูตรอาจจะใช้การฝึกอบรมแบบออนไลน์ (ซึ่งมักจะเหมาะกับการสอนแบบบรรยายทางเดียว) แต่ถ้าเป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่จะต้องลงมือปฏิบัติหรือมี Workshop ก็ต้องจัดให้มีพนักงานเข้าอบรมไม่มากนัก มีการนั่งห่างกันในระยะที่เหมาะสม สวมหน้ากากอนามัยในระหว่างการอบรม ทำความสะอาดสถานที่ฝึกอบรมเพื่อลดการแพร่เชื้อโรค ฯลฯ

จากที่ผมบอกมาข้างต้นนี้ก็คงจะเป็นโจทย์สำคัญสำหรับ HR ที่จะต้องเป็น Change Agent สำคัญที่จะเสนอแนะให้ไอเดียกับฝ่ายบริหารในการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ Next Normal หรือวิถีใหม่ขององค์กร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ท่านเกิดไอเดียในการนำไปปรับใช้ในงานกันบ้างแล้วนะครับ

                     ...........................