มีคำถามมาจากคนที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง HR Manager ว่า
“MD สั่งให้ HR ทำแผนกลยุทธ์ด้านคนมานำเสนอว่าในปีหน้า
HR จะมีแผนอะไรบ้าง
เลยถามผมมาว่าผมมีหลักสูตรอะไรบ้างที่จะสอนให้เขามีความรู้เกี่ยวกับ HR เพื่อจะได้ทำแผนได้ตามที่ MD สั่งมา”
อ้อ..คนที่ถามผมมานี่ก็ไม่เคยทำงานด้าน
HR มาก่อนเลยนะครับ แต่ MD ก็เพิ่งจะแต่งตั้งให้เขามาเป็น
HR Manager
ผมก็เลยตอบเขาไปตามประสาของผมคือ
1.
หลักสูตรที่สอนให้ความรู้ในงาน HR น่ะมีอยู่ครับ
และมีทั่วไปตั้งแต่การสอนแบบเข้าคอร์สฝึกอบรมในหน้าที่งานของ HR ต่าง ๆ เช่นการสรรหาคัดเลือก, การสัมภาษณ์, การวางแผนกำลังคน, การบริหารค่าจ้างเงินเดือน, การประเมินผลการปฏิบัติงาน, การพัฒนาพนักงาน, แรงงานสัมพันธ์ ฯลฯ มีไปจนถึงหลักสูตรระดับปริญญาเอกด้าน HR ที่จัดโดยบริษัท, สถาบันต่าง ๆ ซึ่งคนที่ไม่มีพื้นความรู้ด้าน
HR มาก่อนก็สามารถไปลงเรียนรู้ได้แค่เสิร์จเข้าไปหาดูในกูเกิ้ลเท่านั้น
2.
ระยะเวลาที่เรียนรู้ก็ต่างกันไปตามแต่วัตถุประสงค์ของคนเรียนว่าอยากจะเรียนรู้เรื่องอะไร,
มีเวลาแค่ไหน, มีงบประมาณเท่าไหร่,
ต้องการใบประกาศนียบัตร วุฒิบัตร ใบปริญญาระดับไหน
จึงมีระยะเวลาการเรียนรู้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึงหลายปี
3.
แต่การเรียนรู้จากการฝึกอบรมหรือเรียนให้ห้องเรียนนั้นยังไม่ได้ทำให้เกิด
“ทักษะ” จริง ทักษะความเข้าใจที่แท้จริงต้องมาจากการ “ปฏิบัติ” ลงมือทำด้วยตัวเอง
โดยการนำ “ความรู้” ที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในงานที่ลงมือทำจริง
เหมือนการหัดขับรถนั่นแหละครับ
ต่อให้เรียนรู้วิธีการขับรถจากหนังสือจากห้องเรียนมามากแค่ไหน
ถ้าไม่ได้ลงนั่งหลังพวงมาลัยแล้วสตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งออกไปก็จะไม่มีวันที่จะขับรถเป็นได้จริงหรอก
และเมื่อขับรถไปเรื่อย ๆ ก็จะมีทักษะการขับรถเพิ่มขึ้นจากการลงมือปฏิบัติจริงเพิ่มขึ้นไปเรื่อย
ๆ
4.
แม้ว่าจะได้เรียนรู้และลงมือทำงาน HR จริงจนมีความเก่งความเชี่ยวชาญในงาน
HR แล้วก็ตาม แต่ถ้า MD สั่งให้ทำแผนกลยุทธ์ด้านคนนำเสนอมา
ผมก็คงจะต้องถาม MD กลับไปก่อนว่า
“อยากจะขอทราบแผนกลยุทธ์ของบริษัทเสียก่อนว่าบริษัทมีแผนกกลยุทธ์ในปีหน้าเป็นยังไง
HR จะได้มีข้อมูลกลับไปทำแผนงานด้านคนให้สอดคล้องกับแผนงานของบริษัท”
5.
เพราะถ้า
MD
ยังไม่บอกว่าแผนงานของบริษัทในปีหน้าคืออะไรแล้วให้ HR ไปทำแผนของตัวเองมาเสนอ ก็เปรียบเสมือนกับครูมาบอกให้นักเรียนทำรายงานเนื้อหาทั้งหมดที่เรียนมาส่งโดยที่ครูยังไม่ได้สอนอะไรเลย
!!
ผมยกตัวอย่างง่าย ๆ
ให้ผู้ถามคิดตามว่าบริษัทก็เปรียบเสมือนกับเรือลำหนึ่ง MD เปรียบเสมือนกัปตันเรือ
HR ก็เปรียบเสมือนลูกเรือคนหนึ่งในเรือที่มีหน้าที่คอยสนับสนุนคนอื่น
ๆ ในเรือไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย, ฝ่ายผลิต, ฝ่ายการตลาด, ฝ่ายจัดซื้อ,
ฝ่ายธุรการ, ฝ่ายควบคุมคุณภาพ,
ฝ่ายซ่อมบำรุง, ฝ่ายบริการลูกค้า ฯลฯ
และแต่ละฝ่ายที่ผมบอกมาก็จะต้องมีหน้าที่ของตัวเองเช่นเดียวกับ HR ในขณะที่ฝ่ายอื่น ๆ ก็เปรียบเสมือนลูกเรือในเรือลำนี้ที่มี MD เป็นกัปตันเรือ
6.
ถ้ากัปตันเรือ (MD) ไม่บอกกับลูกเรือว่าเรือลำนี้จะมุ่งหน้าไปทิศไหน
จุดหมายปลายทางคือที่ใด ห่างไปจากเรือลำนี้กี่ไมล์ทะเล
จะไปที่จุดหมายปลายทางเพื่อภารกิจใด ฯลฯ
แม้ลูกเรือแต่ละคนจะเก่งในหน้าที่ของตัวเองแค่ไหนก็ตาม
พอกัปตันเรือสั่งให้ลูกเรือแต่ละคนไปทำแผนงานของตัวเองมานำเสนอ
ลูกเรือแต่ละคนก็จะคิดถึงแต่หน้าที่ในงานที่ตัวเองถนัด
แต่ลูกเรือทุกคนก็ไม่ได้รู้ทิศทาง,
จุดหมายปลายทางที่เรือจะมุ่งไป
ก็จะทำให้แผนงานของลูกเรือมีหวังจะไม่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของเรือลำนี้ และมีโอกาสจะเกิดความขัดแย้งในการทำงานระหว่างลูกเรือแต่ละคนไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น
กัปตันต้องการจะให้เรือลำนี้มุ่งหน้าทิศเหนือแต่ไม่บอกให้ลูกเรือรู้
ลูกเรือบางคนก็อาจจะพายไปทางทิศตะวันออก บางคนก็พายไปทางทิศใต้
แถมพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลังฝีมือที่มีลูกเรือก็จะทะเลาะกันเพราะแต่ละคนไม่เห็นเป้าหมายหลักร่วมกันเนื่องจากกัปตันไม่ได้บอกใคร
จากที่บอกมานี่แหละครับคือปัญหาของหลายบริษัทในวันนี้ที่ไม่เคยมีการประชุม
Business
Plan ร่วมกันเลย
แต่ละหน่วยงานต่างก็ทำงานของตัวเองกันไปตามความเข้าใจของตัวเองซึ่งหลายครั้งการทำงานก็ขัดแย้งกันเอง
และขัดแย้งกับทิศทางที่บริษัทต้องการจะมุ่งไป
ดังนั้นผมจึงแนะนำให้ HR Manager มือใหม่คนนี้กลับไปถาม MD เสียก่อนว่าตัว MD เองมีแผนกลยุทธ์ของบริษัทแล้วหรือยัง ถ้ามีแล้วได้แจ้งให้บรรดาฝ่ายต่าง ๆ
ได้ทราบแล้วหรือยัง หรือจะมาประชุมร่วมกันเพื่อทำแผนของบริษัทร่วมกันก่อนก็ได้
เมื่อทุกหน่วยงานรู้แล้วว่าแผนหลักของบริษัทเป็นยังไงแล้วค่อยกลับไปทำแผนงานของตัวเองกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อให้แต่ละฝ่ายรู้และเข้าใจตรงกันว่าแผนของฝ่ายอื่นสอดคล้องหรือขัดแย้งกับแผนงานของฝ่ายเราหรือไม่
ก็ได้แต่แนะนำในเบื้องต้นไปอย่างนี้แต่ไม่ทราบว่าผู้ถามจะไปคุยกับ
MD ได้สำเร็จหรือไม่ก็เลยอยากจะเอาเรื่องนี้มาเป็นข้อคิดสำหรับคนที่กำลังเจอโจทย์เดียวกับผู้ถามรายนี้เผื่อจะมีประโยชน์และมีไอเดียไปคุยกับฝ่ายบริหารต่อไปครับ
……………………………….