คำว่า “อจินไตย” หมายถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสว่าคนทั่วไปไม่ควรคิดให้ปวดหัวเพราะคิดไปก็เหมือนพายเรือในอ่างไม่มีประโยชน์ คิดไปก็ทำให้สับสนวนเวียนทำให้ไปไม่ถึงนิพพานมีอยู่ 4 เรื่องคือ
พุทธวิสัย
คือการเป็นพระพุทธเจ้าเป็นได้ยังไง ทำยังไงถึงได้เป็นพระพุทธเจ้า ฯลฯ
ฌานวิสัย
คือคนที่ได้ฌาณมีอิทธิฤทธิ์นั้นเขาทำได้ยังไง ฯลฯ
เรื่องของโลก
เช่นโลกเกิดมาได้ยังไง โลกจะแตกเมื่อไหร ฯลฯ
วิบากกรรม
เช่นคิดว่าทำไมคน ๆ นี้ทำกรรมในอดีตชาติมายังไงถึงได้มารับกรรมแบบนี้ในชาตินี้ ฯลฯ
เอาล่ะครับผมขอแตะเรื่องอจินไตยทางพุทธศาสนาไว้แค่นี้เพื่อไม่ให้เยอะเกินไป
ก็เลยจะขอเข้าเรื่องอจินไตยในการบริหารคนเลยดีกว่า
อจินไตยในการบริหารคนที่ผมจะพูดนี้จะเกี่ยวข้องกับข้างต้นคือเป็นเรื่องของโลกและวิบากกรรมแหละครับ
การที่คนเรามาทำงานร่วมกันมาพบเจอกันในโลกใบนี้ได้ก็คงจะต้องเคยทำบุญหรือทำกรรมร่วมกันมาบ้างแหละ
ไม่งั้นทำไมเราถึงไม่ไปเจอกับคนอื่น ๆ อีกหลายพันล้านคนบนโลก แต่ต้องมาเจอกับหัวหน้า,
ลูกน้อง, เพื่อนร่วมงานในปัจจุบันนี้ด้วยล่ะ
ท่านเปรียบไว้ว่าคนเราตั้งแต่สองคนขึ้นไปเมื่อมาทำงานด้วยกัน
ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็เสมือนการสวมกำไลไว้ในข้อมือข้างเดียวกัน
ก็ย่อมจะมีการกระทบกระทั่งกันได้เป็นธรรมดา
คราวนี้พอมาเจอกันต้องมาทำงานร่วมกันแล้วก็จะมีปัญหามากบ้างน้อยบ้าง
ปัญหาใหญ่บ้างเล็กบ้าง ซึ่งปัญหาในเรื่องของคน
นี่แหละที่ทำให้คนหลายคนมาคิดวนเวียนซ้ำซากแบบหาคำตอบไม่ได้ว่า
“ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้ด้วย” หรือ “ทำไมต้องเป็นฉันด้วย” ฯลฯ
ความคิดทำนองนี้แหละครับที่ผมเห็นว่าเป็นอจินไตยคิดไปก็ปวดหัวเสียเวลาเปล่า
สู้เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นจะดีกว่า
อจินไตยในการบริหารคนที่ผมว่าคิดไปก็หาบทสรุปได้ยากก็เช่น....
1.
ทำไมเราไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเสียที
เมื่อไหร่หัวหน้าถึงเสนอให้เราได้เลื่อนตำแหน่ง
2.
ทำไมหัวหน้าขึ้นเงินเดือนให้เราน้อยกว่าเพื่อนเราทั้ง
ๆ ที่เพื่อนก็ไม่เห็นจะทำงานได้ดีกว่าเราเลย
3.
ทำไมปีนี้เราถึงได้โบนัสน้อยกว่าปีที่แล้วทั้ง
ๆ ที่ผลงานเราก็ไม่ได้แย่ลงสักหน่อย
4.
เมื่อไหร่หัวหน้าของเราจะปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีขึ้นกว่านี้
หัวร้อนน้อยกว่านี้ ใจเย็นกว่านี้บ้าง รับฟังเราบ้าง
5.
เมื่อไหร่หัวหน้าคนนี้ (ที่เราไม่ชอบ)
จะถูกย้ายหรือลาออกไปเสียที
6.
ทำไมหัวหน้าถึงไม่ชอบขี้หน้าเรา
7.
เราเคยทำกรรมอะไรหนอไว้ถึงได้มาเจอหัวหน้า (ที่ไม่ดีกับเรา)
อย่างนี้ ขนาดเราหายใจก็ยังผิดเลย
8.
ทำไมคนประจบสอพลอถึงเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
แต่คนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานกลับไม่ก้าวหน้า
9.
งานในที่ใหม่จะดีกว่างานที่เราทำอยู่ที่นี่ไหม
10.
หัวหน้าในที่ทำงานใหม่จะดีกว่าหัวหน้าของเราในปัจจุบันไหม
11.
ถ้าเราไปเริ่มงานที่ใหม่แล้วไม่ผ่านทดลองงานแล้วชีวิตการทำงานของเราจะเป็นยังไง
12.
ระบบการประเมินผลงานแบบไหนที่ดีที่สุด
เรื่องข้างต้นนี่แหละครับที่ผมว่าคิดไปก็เท่านั้น
หาคำตอบได้ลำบากบางเรื่องก็อาจจะต้องรอให้เกิดปัญหานั้นขึ้นมาเสียก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ไข
เพราะหลายครั้งที่สิ่งที่เราคิดกังวลไว้ก่อนมันไม่เกิดขึ้นเลย ทำให้เราเปลืองสมองคิดและเครียดไปเองในสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริงตามที่เราคิด
ทั้งหมดนี้แหละครับคือตัวอย่างอจินไตยในการทำงานในมุมมองของผม แทนที่จะเสียเวลาคิดแบบพายเรือในอ่างทำนองนี้ก็ควรเอาเวลาไปคิดอะไรให้เป็นประโยชน์กับตัวเองจะดีกว่าครับ