จากประสบการณ์ที่ผมได้รู้จักคนที่เข้ามาทำงาน HR ก็พบว่าบางคนมาทำงานด้านนี้เพราะใจสั่งมาคืออยากจะมาทำงานด้านนี้จริง
ๆ ชอบการติดต่อกับผู้คน สนใจใฝ่เรียนรู้ในงาน HR
แต่บางคนก็มาทำงาน
HR เพราะไม่รู้จะทำงานอะไรดีหรือไม่ก็ปะเหมาะเคราะห์ดีบริษัทนี้เขารับเราเข้ามาทำงาน
HR เพราะขาดคนก็เลยทำไปก่อนถ้าได้งานใหม่ค่อยไปทำที่ใหม่
หรือบางคนก็อาจจะถูกผู้บริหารย้ายให้มาทำงาน HR โดยมีสาเหตุต่าง
ๆ กันไป เช่น มีความผิดและอยู่ระหว่างการสอบสวน, หมดไฟในหน่วยงานเดิมก็เลยย้ายมาทำงานที่ฝ่าย
HR เพราะคิดว่าผลกระทบน้อยที่สุด ฯลฯ
แต่ไม่ว่าใครจะมาทำงาน
HR ด้วยเหตุผลใดก็ตามแล้วมาเป็นมือใหม่ในงาน HR ผมก็อยากจะแชร์
10 เรื่องน่ารู้สำหรับ HR มือใหม่
(ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตามในฝ่าย HR) ดังนี้ครับ
1.
ต้องมีจรรยาบรรณรู้จักเก็บความลับ : งาน
HR เป็นงานที่ต้องเกี่ยวกับความลับในเรื่องต่าง ๆ
ของผู้คนในองค์กร เช่น ข้อมูลเงินเดือนของพนักงานทุกระดับ,
ข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน, ผลการขึ้นเงินเดือนประจำปี,
ความคิดเห็นของฝ่ายบริหารต่อพนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่เป็น Off
record ฯลฯ คนทำงาน HR จึงจะต้องมีจรรยาบรรณ
รู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด ถ้าใครชอบทำตัวเป็น Insider หรือคนประเภทฉันรู้โลกต้องรู้ชอบแฉแต่เช้ายันค่ำคงไม่เหมาะกับงาน
HR แล้วล่ะครับ
2.
มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง : คนทำงาน
HR ควรจะต้องยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรกับคนรอบข้าง เพราะงาน HR
ไม่ใช่งานที่เป็นเจ้านายของคนทั้งบริษัท HR ไม่มีอำนาจไปสั่งให้ใครทำอะไรได้เพราะไม่ได้เป็นหัวหน้าของคนทั้งบริษัท
แต่งานจะสำเร็จได้จะต้องไป “ขอความร่วมมือ” จากหน่วยงานต่าง ๆ ถ้า HR
ขาดมนุษยสัมพันธ์ท่านลองคิดดูว่าจะได้รับความร่วมมือหรือไม่
3.
มีทักษะการสื่อสารและประสานงาน : นอกจากจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีแล้วคนทำงาน
HR ควรจะต้องมีทักษะในการสื่อสารและประสานงานหาความร่วมมือจากพนักงานในแต่ละระดับในแต่ละหน่วยงาน
เมื่อพูดถึงทักษะคือการฝึกฝนจนชำนาญดังนั้นต้องฝึกครับยิ่งฝึกบ่อยยิ่งชำนาญ
4.
ไม่จ้องจับผิดและตักเตือนพนักงานทั้งบริษัท : ต้องเปลี่ยน
Mindset เสียใหม่จากความคิดเดิมที่ว่า HR จะต้องเป็นเหมือนครูผู้ปกครองจะดุด่าว่ากล่าวพนักงานฝ่ายไหนแผนกไหนก็ได้
จะเรียกใครมาตักเตือนก็ทำได้ เพราะถ้าคนทำงาน HR คิดแบบนี้ก็จะมีบทบาทเป็นคนคอยจับผิดพนักงานมาลงโทษ ซึ่งหน้าที่ในการตักเตือนพนักงานที่ทำผิดเป็นเรื่องของหัวหน้างานในหน่วยงานนั้น
ๆ โดยตรงนะครับ ไม่ใช่หน้าที่ของ HR ส่วน HR จะมีหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษากับหัวหน้าแต่ละหน่วยงานว่าถ้าลูกน้องของตัวเองทำผิดฝ่าฝืนกฎระเบียบต่าง
ๆ หัวหน้าควรจะทำยังไง ไม่ใช่ว่า HR ไปทำบทบาทหัวหน้าของพนักงานโดยตรงซะเอง
5.
ยึดหลักเกณฑ์มากกว่าหลักกู : ประเทศชาติมีกฎหมาย
องค์กรมีกฎระเบียบหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของ HR คือเป็นคนคอยดูแลให้ทุกหน่วยงานมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกาที่องค์กรกำหนดไว้ให้เป็นไปในกติกาเดียวกัน
ดังนั้น HR จำเป็นจะต้องยึดหลักเกณฑ์หรือระเบียบข้อบังคับต่าง
ๆ ในการตัดสินใจแก้ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้คนในองค์กร
เพราะถ้ายึดหลักกูคือใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจแก้ปัญหาโดยมีข้อยกเว้นให้กับคนนี้คนนั้นคนโน้นแล้วไม่สามารถตอบคำถามผู้คนในองค์กรได้ว่าทำไมคนนั้นถึงได้สิทธินั้น
ทำไมฉันถึงไม่ได้บ้างทั้ง ๆ ที่องค์กรก็มีกฎเกณฑ์เดียวกันนี่บอกได้เลยว่าพนักงานจะขาดความเชื่อมั่นใน
HR ไปเลยนะครับ HR
จึงจำเป็นต้องยึดหลักเกณฑ์มากกว่าหลักกู
แต่ถ้าหลักเกณฑ์หรือกฎระเบียบข้อบังคับใดล้าสมัยก็สามารถเสนอขอ Update แก้ไขได้นะครับ
แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อแก้ไขแล้วก็ต้องกลับมายึดกติกาไว้เหมือนเดิมครับ
เพราะปัญหาในการบริหารคนทุกวันนี้ตั้งแต่ระดับองค์กรยันประเทศชาติก็เพราะการใช้หลักกูมากกว่าหลักเกณฑ์นี่แหละครับ
6.
เป็นผู้ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเท่าเทียม : ข้อนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการยึดหลักเกณฑ์มากกว่าหลักกู
นั่นคือจะต้องเป็นคนกลางที่คอยดูแลให้ทุกหน่วยงานมีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือระเบียบตามที่บริษัทกำหนด
ไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติหรือมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับพนักงานครับ
7.
จำ ๆ ลืม ๆ เสียบ้าง : อันนี้นายเก่าผมสอนมาเองครับ
เพราะการทำงานเกี่ยวกับคนย่อมจะมีทั้งคนด่าและคนชม ถ้าถูกคนด่าในเรื่องที่เราไม่ได้ทำผิดแต่เขาอาจจะไม่พอใจที่เราไปยึดหลักเกณฑ์
พอเราทำตามหลักเกณฑ์แล้วพนักงานเสียประโยชน์เขาก็จะด่าว่าเรา
อันนี้ก็ต้องลืมไปบ้างอย่าไป Give a damn ให้มันมากเกินไปครับไม่งั้นมีหวังเป็นโรคเครียดนอนไม่หลับ
แต่ถ้าอะไรที่เราผิดพลาดจริง ๆ ก็ต้องจำเอาไว้ปรับปรุงแก้ไขไม่ให้ผิดซ้ำ
8.
สนใจใฝ่หาความรู้ในงาน HR ทุกด้าน : งานของ
HR จะมี 5 Functions ใหญ่ ๆ คือ
สรรหาว่าจ้าง, ค่าตอบแทนและสวัสดิการ, ประเมินผลการปฏิบัติงาน, พัฒนาพนักงาน,
แรงงานสัมพันธ์ เมื่อมาทำงาน HR แล้วควรหาโอกาสศึกษาเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้ครบทุกด้านจะได้มีประโยชน์กับตัวเราเองในอนาคต
ไม่ควรทำงานหน้าเดียว
9.
ยืนตรงกลางระหว่างผู้บริหารและพนักงาน : เมื่อพนักงานเรียกร้องหรือทำในสิ่งไม่ถูกต้องก็ต้องพร้อมจะอธิบายชี้แจงโดยต้องเตรียมใจให้พร้อมสำหรับข้อหาที่ว่า
HR เข้าข้างบริษัท
ในขณะที่ถ้าฝ่ายบริหารทำสิ่งไม่ถูกต้องก็ต้องกล้าที่จะบอกว่าสิ่งที่ฝ่ายบริหารจะทำนั้นจะเกิดปัญหาอะไรบ้างกับพนักงานและองค์กรและควรเสนอหาวิธีป้องกันแก้ไขให้ด้วย
ซึ่งก็จะถูกฝ่ายบริหารตำหนิว่า HR เข้าข้างพนักงาน พูดง่าย ๆ
ว่าโดยทั้งขึ้นทั้งล่องแหละครับ
ใครจะว่าเรายังไงก็เป็นเรื่องของเขาแต่เราต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่และสิ่งที่เราทำถูกต้องอยู่บนหลักเกณฑ์เหตุผลที่ดีก็พอแล้วครับ
10.
มีความละเอียดรอบคอบ : งานทุกชิ้นที่จะปล่อยออกไปสู่นอกหน่วยงาน
เช่น ประกาศ, คำสั่ง, กฎระเบียบ, ข้อบังคับ ฯลฯ
จะต้องมีความถูกต้องแม้แต่การสะกดชื่อ-นามสกุล, ตำแหน่ง, หน่วยงาน
ของพนักงานจะต้องไม่ผิดพลาด ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขออนุมัติต่าง ๆ เช่น
การเสนอขออนุมัติการปรับเงินเดือน, ขออนุมัติจ่ายโบนัส ฯลฯ ตัวเลขข้อมูลทั้งปลีกย่อยและยอดรวมจะต้องมีความถูกต้อง
ถ้าขาดความละเอียดรอบคอบและเกิดความผิดพลาดขึ้นมาบ่อย ๆ
ล่ะจะเสียความน่าเชื่อถือได้ทันที
ทั้ง
10 ข้อนี่แหละครับที่ผมแชร์มาจากประสบการณ์และคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ก้าวเข้ามาทำงานเป็น
HR มือใหม่
ไม่ว่าจะเป็นคนเพิ่งจบการศึกษามาใหม่หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วแต่ถูกย้ายให้มาทำงาน
HR ได้ทราบเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจในการทำงานด้านนี้ต่อไปครับ
……………………………….