วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จะกดปุ่มดีหรือไม่?

             ผมเคยดูหนังทีวีเป็นซีรีย์แนวลึกลับเรื่อง Twilight Zone มานานมากแล้วน่าจะเกิน 30 ปีขึ้นไป แต่ก็ยังจำเนื้อเรื่องนี้ได้เพราะเนื้อหาของหนังเรื่องนี้มันโดนใจและทำให้ผมได้ข้อคิดสะกิดใจจนจำได้ถึงเดี๋ยวนี้เลยล่ะครับ

            ค่ำวันหนึ่งมีชายแปลกหน้ามากดกริ่งหน้าห้องพักของชายหนุ่มเจ้าของห้องที่กำลังนั่งคิดนั่งเครียดเพราะตกงานมาหลายเดือนแล้วยังหางานทำไม่ได้ เงินทองก็ร่อยหรอไปมากกำลังกลุ้มใจว่าจะทำยังไงกับชีวิตของตัวเองดี

            เมื่อชายหนุ่มเจ้าของห้องเปิดประตูก็พบกับชายแปลกหน้าคนดังกล่าวพร้อมกับกล่องสีดำสนิทปิดทึบหมดทุกด้านขนาดกล่องใส่นาฬิกาใบหนึ่งถืออยู่ในมือ

          ที่ด้านบนของกล่องมีปุ่มสีแดงปุ่มหนึ่งเด่นชัด

            เมื่อชายหนุ่มเจ้าของห้องอนุญาตให้ชายแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ที่มีบุคลิกขรึมนิ่งแววตาเป็นประกายกล้าแข็งก้าวเข้ามาในห้อง

            ชายแปลกหน้าก็พูดทักทายปฏิสันถารกับชายหนุ่มราวกับจะล่วงรู้ปัญหาของชายหนุ่มเป็นอย่างดี แล้วก็ถามว่าอยากจะได้เงินก้อนโตไหม

เงินนี้จะได้มาง่าย ๆ และไม่ได้ให้เขาไปทำผิดกฎหมายบ้านเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น

            ซึ่งแน่นอนว่าใครล่ะครับจะตอบว่าไม่อยากได้ในยามที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน

            ชายแปลกหน้าจึงบอกกับชายหนุ่มว่า “สิ่งที่คุณจะต้องทำไม่ยากเย็นอะไรเลย เพียงแค่คุณกดปุ่มสีแดงบนกล่องใบนี้เท่านั้น

และเมื่อคุณกดปุ่มสีแดงบนกล่องใบนี้จะมีสัญญาณออกจากกล่องไบนี้ไปยังระบบเชื่อมต่อของเรา แล้วคุณก็จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 100,000 ดอลลาร์ทันที”

            ชายหนุ่มแทบจะคว้ากล่องใบนี้มากดปุ่มเลยนะครับ แต่ชายแปลกหน้ายกมือห้ามไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบและเยือกเย็นว่า

          “คุณฟังเงื่อนไขให้จบเสียก่อน ทันทีที่คุณกดปุ่มจะมีคนเสียชีวิตทันที 1 คน

แต่คุณไม่ต้องกังวลใจไปเพราะคนที่เสียชีวิตจากการกดปุ่มจะไม่ใช่ตัวคุณหรือไม่ใช่ญาติพี่น้องของคุณอย่างแน่นอน

และเมื่อคุณกดปุ่มลงไปแล้วจะมีสัญญาณจากกล่องใบนี้ไปยังระบบของเรา

แล้วเราจะโอนเงินเข้าบัญชีของคุณทันที

            คุณมีเวลาคิดและตัดสินใจตั้งแต่เวลานี้จนถึงหกโมงเช้า

และเมื่อถึงหกโมงเช้าวันพรุ่งนี้ผมจะมารับกล่องใบนี้คืน”

แล้วชายแปลกหน้าก็วางกล่องเอาไว้และขอตัวกลับไป

            ชายหนุ่มพยายามหาเครื่องไม้เครื่องมือในบ้านเช่นไขควงมางัดแงะเจ้ากล่องใบนี้เพื่ออยากจะรู้ว่ามันมีอะไรอยู่ในกล่องบ้างโดยพยายามไม่ให้ไปถูกปุ่มสีแดงบนกล่อง

            เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่เขาพยายามงัดแงะเพื่อสำรวจกล่องใบนี้ให้ได้  

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักเท่าไหร่เขาก็ไม่สามารถจะเปิดกล่องใบนี้ออกมาได้

          ในที่สุดเขาก็ตั้งกล่องใบนี้เอาไว้บนโต๊ะแล้วก็เริ่มคิดว่าเราควรจะกดปุ่มดีหรือไม่

            ใจหนึ่งก็คือว่ากดไปเถอะก็เงินตั้งหนึ่งแสนเหรียญแน่ะไม่ใช่น้อยเลยนะ แต่อีกมโนธรรมฝ่ายดีก็แย้งว่าแต่ถ้าเรากดปุ่มลงไปเราได้เงินมาก็จริง แต่จะต้องมีคนตายเพราะเรานะ  

แล้วคนที่ตายเพราะเราเขาก็มีญาติพี่น้องมีคนที่เขารัก

แล้วญาติพี่น้องของคนที่ตายเพราะเราเขาจะรู้สึกยังไงที่เราเป็นคนฆ่า เราเป็นฆาตกรนะ

            แต่ความคิดอีกฝั่งหนึ่งก็โต้กลับมาว่าก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ก็คนที่ตายไม่ใช่ญาติพี่น้องเราสักหน่อย เป็นใครก็ไม่รู้ที่เราก็ไม่รู้จัก ญาติพี่น้องของคนที่ตายเพราะเราเขาก็ไม่รู้จักเราอยู่แล้ว

ทุก ๆ นาทีโลกนี้ก็ต้องมีคนตายอยู่แล้วนี่นา จะมีคนตายเพิ่มอีกสักคนก็ไม่เห็นเป็นไร เขาไม่ได้ตายเพราะเราหรอกน่า กดปุ่มไปเถอะ

            เรียกว่าชายหนุ่มคนนี้มีทั้งความคิดฝั่งชั่วร้ายและความคิดฝ่ายดีต่อตีต่อสู้กันอยู่ในหัวตลอดทั้งคืนจนรุ่งสางว่าจะกดปุ่มดีหรือไม่ เดี๋ยวก็เอื้อมมือไปจะกดปุ่มแต่ก็ชะงักแล้วดึงมือกลับ

            จนกระทั่งอีกไม่กี่วินาทีจะหกโมงเช้าตามเงื่อนไข 5-4-3-2

          ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจกดปุ่มสีแดง!!

            พร้อม ๆ กันนั้นเองเสียงกริ่งประตูห้องก็ดังขึ้นจนชายหนุ่มสะดุ้งโหยง

            เมื่อชายหนุ่มไปเปิดประตูก็เจอชายแปลกหน้าคนเดิมเดินเข้ามาหยิบกล่องสีดำแล้วพูดว่า “เงินหนึ่งแสนดอลล่าร์ถูกโอนเข้าบัญชีของคุณเรียบร้อยแล้วขอให้คุณมีความสุขกับเงินจำนวนนี้อย่างเต็มที่ ผมจะนำกล่องใบนี้ไปตั้งรหัสใหม่ และค่ำคืนนี้ผมจะนำไปให้คนที่มีปัญหาอย่างคุณตัดสินใจแบบเดียวกัน

            แต่คุณวางใจได้ว่าเราจะไม่นำกล่องนี้ไปให้ญาติพี่น้องของคุณ”

            และประโยคสุดท้ายสิ ชายลึกลับบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนชายหนุ่มรู้สึกเย็นวาบว่า....

            “และแน่นอนว่าเงื่อนไขก็จะเหมือนกับของคุณ นั่นคือคนที่จะเสียชีวิตไม่ใช่ญาติพี่น้องของคนกดปุ่มอย่างแน่นอน”

            ชายหนุ่มเจ้าของห้องยืนงงตกตะลึง แล้วชายแปลกหน้าลึกลับก็เดินออกจากห้องไป....

            ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว

          ลองถามใจตัวเองดูสิครับว่า....

ถ้าเป็นเรา ๆ จะกดปุ่มไหม?

#กฎแห่งกรรม

#อิทัปปัจจยตา