วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เขียนภาษาไทยให้ถูกต้องสำคัญยังไง ?

             อาจจะเนื่องจากผมเริ่มต้นทำงานด้าน HR และก็ทำงานด้านนี้มาโดยตลอดซึ่งงานและความรับผิดชอบส่วนหนึ่งของผมก็จะถูกมอบหมายให้ร่างหนังสือติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งต้องทำรายงานวิเคราะห์และนำเสนอความคิดเห็นในการปรับปรุงระบบต่าง ๆ ขององค์กร ฯลฯ

            แน่นอนว่างานเอกสารเหล่านี้จะมีการสะกดคำผิดบ้างทั้งโดยที่ผมไม่รู้ว่าคำ ๆ นั้นสะกดผิด หรือพิมพ์ผิดไปเองทั้ง ๆ ที่รู้ แต่ไม่ได้ตรวจสอบงานให้ดีก่อนจะส่งให้หัวหน้าเพราะความรีบร้อนตามประสาเด็กใหม่ใจร้อนอยากทำงานให้เร็วทันใจหัวหน้า

            ผมก็จะถูกหัวหน้าส่วนเรียกไปกึ่งตำหนิกึ่งสอนเกี่ยวกับความสำคัญของการสะกดคำให้ถูกต้องและการตรวจข้อความทั้งหมดให้ละเอียดรอบคอบก่อนจะส่งงานออกไปนอกหน่วยงาน

            โดยเฉพาะการลำดับเรื่องราวในหนังสือก่อนส่งออก โดยอย่าไปคิดว่าคนที่อ่านหนังสือที่เราส่งไปเขารู้เรื่องนั้นมาแล้ว แต่ต้องคิดเสมอว่าคนรับหนังสือไปจากเราไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย เราต้องเขียนให้เขารู้ที่มาที่ไปและลำดับเรื่องไปจนถึงสรุปให้เขารู้และเข้าใจว่าเราต้องการให้เขาทำอะไร

            ซึ่งภายหลังสิ่งเหล่านี้ก็กลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญมากในการเป็นคนเขียนหนังสือของผม

ทั้ง ๆ ที่ในสมัยที่ยังเป็นเด็กที่เพิ่งเริ่มทำงานในยุคนั้นจะคิดในใจว่าพี่จะมาจุกจิกอะไรกันนักหนาแค่พิมพ์ผิดนิด ๆ หน่อย ๆ เอง

แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมกลับพบว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ความน่าเชื่อถือ” สำหรับคนเขียนครับ

ลองอ่านข้อความนี้ดูสิครับ

“หลักกาสำคัญในการทำโคงสร้างเงินเดือนคือกานำตำแหน่งงานต่าง ๆ ในแต่ละ Job Grad ไปเทียบกับตลาด แล้วมาหาค่าเฉลี่ยว่าใน Job Grade นั้น ๆ ตลาดเขาจ่ายเงินเดือนมูฐาน (Basic Salary) เฉลี่ยอยู่เท่าไหร่”

เป็นไงครับ

อ่านแล้วท่านรู้สึกดีกับคนเขียนไหมครับ ถึงแม้ว่าคนเขียนจะมีความรู้เรื่องนี้ดีแค่ไหนก็ตาม ?

ทุกวันนี้ผมก็ยังเห็นการสะกดผิดพลาดอยู่ไม่น้อย เช่น อนุญาติ, สังเกตุ, นะค่ะ, ลายเซ็นต์, เซ็นต์ชื่อ, โครต, ภาระกิจ, มาตราฐาน ฯลฯ  

(ที่ถูกต้องคือ อนุญาต, สังเกต, นะคะ, ลายเซ็น, เซ็นชื่อ, โคตร, ภารกิจ, มาตรฐาน ฯลฯ)

ซึ่งคนที่เป็นครูบาอาจารย์ที่ดี คนที่เป็นนักเขียนควรจะต้องหาความรู้เพิ่มเติม (ที่มีอยู่มากมายในโลกออนไลน์) และตรวจสอบคำผิดคำถูกให้แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะปล่อยข้อความออกไป

เพราะครูบาอาจารย์และนักเขียนจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์และคนอ่านอยู่เสมอ

ยิ่งผิดบ่อยความน่าเชื่อถือจากคนรอบข้างจะยิ่งลดลง

ต้องคิดเสมอว่าเมื่อมีคนมาทักท้วงว่าสะกดคำผิดก็อย่าไปโกรธเขา แต่ควรจะต้องขอบคุณที่เขาทำให้เราได้รู้ว่าเราสะกดผิดและแก้ไขให้ถูกต้อง

            ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้แปลว่าผมเป็นคนที่แตกฉานภาษาไทยและเขียนสะกดคำไม่เคยผิดนะครับ

            แต่จะขอบคุณคนที่ท้วงติงผมมาทุกครั้งที่เห็นผมพิมพ์ผิดสะกดผิด (ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) ซึ่งผมจะแก้ไขให้ถูกต้องไม่ให้ผิดพลาดซ้ำอีก

            อ่านแล้วใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็คงเป็นสิทธิของแต่ละคน ถ้าใครยังคิดว่าเรื่องนี้ไม่สลักสำคัญอะไร ก็ทำเหมือนเดิมเอาตามที่สบายใจครับ

.............................