มีคนถามมาว่า “ผมปวดหัวเวียนหัวพอโทรมาขอลาป่วยกับหัวหน้า
หัวหน้าก็ให้โทรไปลาป่วยกับ HR แต่ HR บอกว่าให้ไปหาหมอแล้วเอาใบรับรองแพทย์มายืนยัน
แต่ผู้ถามบอกว่าเขาลาป่วยแค่วันเดียวไม่ได้ไปหาหมอจะไปเอาใบรับรองแพทย์มาจากไหน
แต่ HR ยืนยันให้ไปเอาใบรับรองแพทย์มาให้”
ผมก็เลยอยากจะทำความเข้าใจในเรื่องการลาป่วยนี่แบบตรงไปตรงมาดังนี้ครับ
1.
HR ไม่มีหน้าที่ไปอนุญาตให้พนักงานฝ่ายอื่นลาป่วยนะครับ
เพราะพนักงานฝ่ายอื่นไม่ใช่ลูกน้องของฝ่าย HR สักหน่อย ถ้าอยากจะให้พนักงานทุกฝ่ายมาลาป่วยกับฝ่าย
HR ก็ควรจะทำผังองค์กรเสียใหม่ให้พนักงานทุกฝ่ายมาเป็นลูกน้องขึ้นตรงกับฝ่าย
HR ดีไหมครับ น่าแปลกใจที่หลายบริษัทยังมีกฎเกณฑ์แปลก ๆ
ทำนองนี้อยู่ ว่าเรื่องเหล่านี้ต้องไปให้ HR เป็นคนอนุญาต
ทั้ง
ๆ ที่เป็นบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างานโดยตรงของหัวหน้างานในหน่วยงานนั้น ๆ ที่จะต้องเป็นคนพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ลูกน้องของตัวเองลาป่วยหรือไม่
ไม่ควรโยนหน้าที่นี้ไปให้ HR นะครับ
2.
ตามมาตรา 32 ของกฎหมายแรงงานบอกไว้ชัดเจนว่า
“ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง....” ผมขีดเส้นใต้คำว่า
“ป่วยจริง” (หลายคนจะตอบว่าพนักงานมีสิทธิลาป่วยได้ปีละไม่เกิน 30 วันนี่ไม่ถูกต้องนะครับ
ที่ถูกต้องคือมีสิทธิลาป่วยได้ตามที่ป่วยจริงแต่นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้ไม่เกิน 30
วัน)
ซึ่งถ้าพนักงานไม่ป่วยจริงหัวหน้าก็ไม่อนุญาตให้ลาป่วยและจะถือว่าพนักงานขาดงานในวันนั้น
โดยหัวหน้างานก็สามารถออกหนังสือตักเตือนในเรื่องการขาดงานไป 1 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรพร้อมทั้งบริษัทก็ไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ขาดงาน 1
วันนั้นได้ (กรณีนี้ไม่ใช่การหักเงินเดือนนะครับ
แต่เป็นการไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ลูกจ้างขาดงานหรือ No work no pay ครับ)
3.
ตามมาตรา 32 ยังบอกต่อไปอีกว่าการลาป่วยตั้งแต่
3 วันทำงานขึ้นไปนายจ้าง “อาจ”
ให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้น 1 หรือของสถานพยาบาลของรัฐบาล
แต่ถ้ากรณีลูกจ้างไม่อาจแสดงใบรับรองแพทย์ได้ก็ให้ลูกจ้างชี้แจงให้นายจ้างทราบมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่านายจ้างจะไปบังคับให้เขาไปหาหมอเพื่อไปเอาใบรับรองแพทย์มาให้ดูก็ไม่ได้นะครับ
4.
จากข้อ 3 แทนที่ HR หรือหัวหน้างานจะคิดแบบ “ซี้ปังเท้า” (ไปหาคำแปลเอาเองนะครับ 555) คิดแต่จะทำตามระเบียบโดยไม่รู้จักคิดหาเหตุผลตามความเป็นจริงลองมาหาทางพิสูจน์ว่าพนักงาน
“ป่วยจริง” (ตามข้อ 2) หรือไม่จะดีกว่าไหมครับ
โดยทำดังนี้
4.1
กรณีพนักงานไปหาหมอ เขาจะต้องได้ใบรับรองแพทย์อยู่แล้วซึ่งใบรับรองแพทย์จะมี
2 แบบคือ
4.1.1
ในใบรับรองแพทย์เขียนไว้ว่า “ได้มาทำการตรวจรักษาจริง”
กรณีนี้มักจะเป็นการไปตรวจรักษาตามที่หมอนัด ไป Follow up โรคประจำตัว
เช่นหมอนัดตรวจเช้าพนักงานก็มาทำงานตอนสาย ๆ หรือบ่าย ๆ ได้
หรือหมอนัดบ่ายก็มาทำงานตอนเช้าก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอนุญาตให้ลาป่วยทั้งวัน
4.1.2
ในใบรับรองแพทย์เขียนไว้ว่า “เห็นสมควรหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา......วัน”
อันนี้หัวหน้าก็ต้องอนุญาตให้ลาป่วยตามความเห็นของแพทย์ครับ
4.2
กรณีพนักงานไม่ได้ไปหาหมอ หัวหน้าก็ไปเยี่ยมลูกน้องที่บ้านที่หอพักห้องพักสิครับ
(ควรพาพยานไปด้วยว่าเราไม่ได้ปรักปรำ)
และควรไปเยี่ยมโดยไม่ต้องบอกให้พนักงานรู้ล่วงหน้า ถ้าไปเยี่ยมแล้วเห็นว่าป่วยจริงนอนซมอยู่ก็อนุญาตให้ลาป่วย
ถ้าไม่ป่วยจริงเช่นไปที่หอพักก็ไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน หรือไปเจอพนักงานที่อ้างว่าป่วยแต่ไปนั่งชิล
ๆ ซดเบียร์อยู่ใต้ถุนหอพักหัวหน้าก็ต้องไม่อนุญาตและถือว่าขาดงานโดยไม่เหตุผลอันสมควรและออกหนังสือตักเตือนตามข้อ
2
ดังนั้นหัวหน้าจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันลูกน้องด้วยว่าใครป่วยจริงหรือป่วยปลอมเพื่อเป็นการปรามลูกน้องคนอื่น
ๆ ที่กำลังจะเอาอย่างพวกที่ป่วยปลอม
5.
ทั้งหมดที่บอกมานี้ผมไม่ได้ให้ท่านที่เป็นหัวหน้าเป็นคนใจร้ายไม่มีมนุษยธรรมนะครับ
แต่อยากให้ดูตามข้อเท็จจริงซึ่งคนที่เป็นหัวหน้าควรจะต้องเท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของลูกน้องเกเร
(บางคน..ถ้ามี) ถ้าลูกน้องคนไหนที่ทำงานดีไม่มีปัญหาแล้วจะเจ็บไข้ไม่สบายลาป่วยน่ะคงไม่มีหัวหน้าใจร้ายเคี่ยวเข็ญให้ลากสังขารมาทำงานให้ได้
(เอ๊ะ..หรือจะมี?) แต่ถ้าลูกน้องเกเรที่เป็นเหล่ามือวางอันดับต้น ๆ ประเภทนักป่วยมืออาชีพทั้งหลาย
หัวหน้าก็จะเป็นจะต้องรู้ทันและหาทางพิสูจน์ว่า “ป่วยจริง” หรือเปล่า
6.
ส่วนหัวหน้าสายโลกสวยประเภทเป็นยูนิคอร์นใจดีเดินอยู่ที่ทุ่งลาเวนเดอร์
ไม่ว่าลูกน้องคนไหนโทรมาขอลาป่วยก็จะอนุญาตทุกกรณีโดยไม่ดูตามความเป็นจริงว่าใครป่วยจริงป่วยปลอม
เพราะกลัวว่าถ้าไม่อนุญาตแล้วลูกน้องจะเคืองเดี๋ยวดอกลาเวนเดอร์จะช้ำ ถ้าเป็นหัวหน้าประเภทนี้ผมมักจะพบว่าในหน่วยงานนั้น
ๆ มักจะมีการขาดงานสูง บางหน่วยงานนี่ลูกน้องจะหาโอกาสป่วย (ปลอม ๆ) วันพฤหัส-อาทิตย์แบบลองวีคเอนด์กันได้ทุกเดือน
ที่ผมแชร์มาทั้งหมดเมื่อท่านที่เป็นหัวหน้างานอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็คงจะพอมีไอเดียในเรื่องการลาป่วยของลูกน้องพอสมควรแล้วนะครับ ส่วนจะทำยังไงเมื่อลูกน้องขอลาป่วยในครั้งต่อไปก็คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าแต่ละคน
และขอย้ำในตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่า HR ไม่มีอำนาจและหน้าที่ที่จะอนุญาตให้พนักงานทั้งบริษัทลาป่วยหรือไม่
แต่อำนาจและหน้าที่ในการอนุมัติการลาป่วยจะต้องอยู่ที่หัวหน้างานของหน่วยงานนั้น ๆ ครับ
…………………………………