ปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ที่มักจะเกิดการตั้งกระทู้แล้วมีดราม่าตามมาในโลกโซเชียลคือเรื่องที่ผมจั่วหัวเอาไว้ข้างต้นแหละครับ
ผู้สมัครงานที่เจอคำขอแบบนี้ในห้องสัมภาษณ์ก็มักจะนำมาขอความเห็นในห้องต่าง
ๆ บนโลกออนไลน์
ลองมาดูกันไหมครับว่ามีคำตอบอะไรจากชาวเน็ตกลับมาบ้าง
1.
ดูได้ครับ แต่ดูได้แล้วผมขอยกเลิกเพื่อนนะครับเพราะเป็นสิทธิส่วนตัวของผม
2.
เป็นสิทธิของเขาครับ
เขากำลังรับคนแปลกหน้ามีความเสี่ยง เขาควรมีสิทธิรู้ตื้นลึกหนาบางก่อนจะเปิดให้เข้ามาในบ้าน
3.
ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิก็เท่านั้น HR อาจต้องทำตามนโยบาย
คุณใช้สิทธิของคุณ
4.
ผมถือว่าเสียมารยาท
เป็นผมคงไม่ไปร่วมงานด้วย
5.
ถือว่าละเมิดพื้นที่ส่วนตัว ขัดแย้งกับหลัก Privacy และ Diversity คงร่วมงานกันไม่ได้
6.
มองในแง่พนักงานก็ถือว่าเป็นการก้าวล้ำ
มองในภาพของบริษัทก็ถือว่าเป็นการป้องกัน ไม่มีผิดไม่มีถูกเสมอกันทั้งสองฝั่ง
7.
ฯลฯ
นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ
ผมเชื่อว่าแต่ละคนก็จะมีเหตุผลเป็นของตัวเองที่จะตัดสินใจว่าควรให้บริษัทดูหรือไม่ให้ดู
แต่สำหรับผม ๆ มีข้อคิดอย่างนี้ครับ
1.
เรื่องนี้เป็น “นโยบายของบริษัท” หรือเป็น “ความต้องการส่วนตัวของผู้สัมภาษณ์แต่ละคน”
ถ้าเป็นนโยบายของบริษัทผู้สัมภาษณ์จะต้องขอดูทุกคน (ด้วยการ Add Friend กับผู้สมัคร) แต่ถ้าเป็นความต้องการส่วนตัวของผู้สัมภาษณ์ก็จะมีการขอดูบ้างไม่ขอดูบ้าง
เรื่องนี้ผู้บริหารควรจะต้องมีความชัดเจนว่าจะเอายังไง
2.
บริษัทจะใช้เกณฑ์อะไรที่ชัดเจนเพื่อใช้ในการตัดสินใจหรือไม่
ว่าการโพสแบบไหนบริษัทจะรับ หรือไม่รับเข้าทำงาน เช่น การโพสเรื่องการเมือง,
เรื่องศาสนา, ความเชื่อแบบมูเตลู ฯลฯ
ถ้าไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจนแล้วปล่อยให้เป็นดุลพินิจของผู้สัมภาษณ์แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
การขอดูเฟซบุ๊กก็ไม่มีประโยชน์เพราะผู้สัมภาษณ์แต่ละคนก็จะตีความและตัดสินไปตามความรู้สึกของตัวเอง
3.
บริษัทให้น้ำหนักกับการขอตรวจสอบเฟซบุ๊กกี่เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปัจจัยอื่น
ๆ ของผู้สมัครแต่ละคนเช่น ผลงานใน Portfolio, ความรู้และทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงาน,
บุคลิกภาพ, ไหวพริบและการแก้ปัญหา, การสื่อสารประสานงาน, การทำงานเป็นทีม,
มนุษยสัมพันธ์ ฯลฯ
4.
ถ้าผู้สมัครงานไม่ให้ดูเฟซบุ๊กเพราะถือสิทธิส่วนบุคคลและรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว (รู้สึกถูกบังคับให้รับ
Add Friend ทั้งที่ไม่ใช่ Friend) โดยที่ผู้สมัครรายนั้นไม่เคยโพสเรื่องเสียหายอะไร
และผู้สมัครรายนั้นก็มีคุณสมบัติเหมาะตรงกับงานในตำแหน่งที่สมัคร
บริษัทจะปฏิเสธไม่รับผู้สมัครรายนี้หรือไม่ หรือตัวผู้สมัครเองอาจจะปฏิเสธบริษัทเพราะไม่พอใจหรือไม่
5.
ถ้าผู้สมัครเปิดเฟซบุ๊กไว้หลายบัญชีแล้วให้ผู้สัมภาษณ์ดูบัญชีที่แต่งไว้แบบเฉพาะกิจ
บริษัทจะว่ายังไง
6.
บริษัทมีเครื่องมือในการคัดกรองผู้สมัครงานที่ดีแล้วหรือยัง
เคยให้ความรู้กับผู้สัมภาษณ์เพื่อเพิ่มทักษะในการสัมภาษณ์เช่น Structured
Interview บ้างหรือไม่ หรือยังปล่อยให้มีการสัมภาษณ์แบบจิตสัมผัส (Unstructured
Interview) อยู่
7.
ผู้สัมภาษณ์มีทักษะในการสัมภาษณ์และสังเกตผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติเหมาะตรงกับตำแหน่งงานมากน้อยแค่ไหน
เพราะการสัมภาษณ์คือทักษะ และทักษะการสัมภาษณ์ก็ไม่ได้มาตามตำแหน่ง
8.
ถ้าบริษัทรับผู้สมัครเข้ามาทำงานโดยไม่ต้องขอดูเฟซบุ๊ก
แล้วไปประเมินกันในช่วงทดลองงานว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมควรจะบรรจุหรือไม่ผ่านทดลองงานจะดีกว่าหรือไม่
สุดท้ายแล้วก็เป็นสิทธิของทั้งสองฝ่ายแหละครับว่าทางฝั่งของบริษัทยังอยากจะขอดูเฟซบุ๊กผู้สมัครงานหรือทางฝั่งผู้สมัครงานจะยินยอมให้ดูเฟซบุ๊กของตัวเองหรือไม่
ปิดท้ายด้วยคำถามว่า
“ถ้าบริษัทไม่ได้ขอดูเฟซบุ๊กจะมีผลกระทบกับการตัดสินใจรับผู้สมัครมากน้อยแค่ไหน ?”
ฝากให้คิดครับ