เรื่องที่เราจะคุยกันในวันนี้เกิดเนื่องจากผมไปเห็นกระทู้ในเว็บไซด์แห่งหนึ่งถามว่า
“ทำงาน HR
ดียังไง ?” ก็เลยอยากจะนำประสบการณ์ที่ผมทำงานด้านนี้มาตลอดชีวิตการทำงานมาถ่ายทอดในแบบย่อ
ๆ เพื่อให้ข้อคิดสำหรับคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาในวงการ HR ว่าการทำงาน
HR ในมุมมองผมมีข้อดีดังนี้
1.
ได้ “รู้จัก” คนมากยิ่งขึ้น
คำว่า “รู้จัก” ในเครื่องหมายคำพูดก็คือนอกจากจะรู้จักคนมากขึ้นด้วยลักษณะงานที่จะต้องติดต่อกับผู้คนอยู่โดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับผู้สมัครงาน,
พนักงานทุกคนขององค์กร, บุคคลภายนอกองค์กร ฯลฯ แล้ว ยังหมายถึงได้รู้จัก “พฤติกรรม”
ของคนแต่ละคนที่เราติดต่อไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงานว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะงาน
HR จะอยู่ตรงกลางระหว่างฝ่ายบริหารและพนักงานจะทำให้ท่านทราบวิธีคิด
การตัดสินใจ
และเบื้องหลังการตัดสินใจทั้งของผู้บริหารและพนักงานซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับท่านเมื่อจะก้าวสูงขึ้นไปในอนาคตซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นเข้าทำนองรู้เขา-รู้เราไงล่ะครับ
ข้อดีอีกประการหนึ่งอย่างที่ผมบอกไว้ตอนต้นก็คือ
ท่านจะรู้จักคนเยอะขึ้น มีเพื่อนมากขึ้น เนื่องจากลักษณะงานของท่านก็จะต้องเป็น
“ศิราณี” (คนสมัยนี้ยังรู้จักอยู่ไหมครับเนี่ยะ) ที่คอยให้คำปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของคนไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารมาขอคำปรึกษา
หรือพนักงานมาขอระบายปรับทุกข์สารพัดเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว
อ้อ
! อีกอย่างหนึ่งคือท่านจะมีทักษะการสื่อสารและให้คำปรึกษาที่ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะลักษณะของงานที่ต้องสื่อสารและให้คำปรึกษากับผู้คนบ่อย
ๆ นี่แหละครับ
2.
มีความรู้ในกระบวนการทำงานของคนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
การมาทำงานด้าน HR จะทำให้ท่านได้เรียนรู้ตั้งแต่การสรรหาคัดเลือกคนเข้ามาทำงานว่าองค์กรต่าง ๆ เขามีวิธีการหรือเครื่องมือใด
ๆ บ้าง, การจ่ายเงินค่าตอบแทนและสวัสดิการเขาทำกันยังไง,
มีการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบไหน, ขึ้นเงินเดือนหรือจ่ายโบนัสกันยังไง
รวมไปถึงที่สุดคือเรื่องของการตักเตือน การลงโทษทางวินัยเป็นยังไงบ้าง ฯลฯ
เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ท่านจะได้เรียนรู้ชนิดที่หลายเรื่องไม่มีสอนในตำราครับ
บางท่านอาจจะมีข้อโต้แย้งผมว่า
“แล้วในบริษัทเล็ก ๆ เขาจะมีงานอะไรให้เรียนรู้ล่ะ”
ก็ตอบได้ว่ายิ่งบริษัทเล็กท่านจะมีโอกาสได้ทำงานหลาย ๆ
อย่างเพราะเขาไม่มีเงินไปจ้าง HR เข้ามาเป็นกองทัพได้หรอกครับ
ดังนั้นจึงต้องสามารถทำทุกอย่าง
ถ้าจะแย้งต่ออีกว่า
“แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าบริษัทเล็ก ๆ เขาจะมีงาน HR ให้เรียนรู้
และคนเก่าเขาทำไว้ถูกต้องหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ก็ตอบได้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของแต่ละคนที่เข้าไปทำงาน
HR
ด้วยว่ามีความใฝ่เรียนรู้มาก-น้อยแค่ไหน
เพราะถ้าคิดจะทำงานของเราให้เป็นงาน
Routine
(งานประจำ) ตามที่เจ้านายเขาสั่งมา มันก็จะเป็นงานประจำแบบงั้น ๆ
แหละครับไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาได้หรอก
แต่ถ้าใครมี Self learning หรือความใฝ่เรียนรู้
อยู่ที่ไหนเขาก็จะขวนขวายใฝ่เรียนรู้ในสิ่งที่ถูกต้องได้อยู่เสมอ และจะบอกได้ด้วยว่าสิ่งที่มีคนทำมาก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้องและจะต้องแก้ไขอย่างไร
ไม่ว่าคน ๆ
นั้นจะอยู่ในองค์กรใหญ่หรือเล็กเขาก็จะเป็นคนรักเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอจริงไหมครับ
3.
ผลจากอานิสงส์ในข้อ 2
ไม่ว่าวันข้างหน้าท่านจะไปเป็นเถ้าแก่มีกิจการของตัวเอง
หรือจะเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลมืออาชีพที่ตลาดต้องการตัว
ท่านก็จะเป็นคนที่มี People
Skill ติดตัวอยู่ตลอด
หรือแม้แต่วันข้างหน้าท่านจะผันตัวเองมาเป็นวิทยากรหรือที่ปรึกษาด้าน HR ก็จะมีคนยอมรับในความเป็นมืออาชีพจากองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ท่านสั่งสมมา
4.
มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองด้าน HR อยู่เสมอ
ท่านจะมีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เรื่อย
ๆ แม้ว่าเราไม่ได้ทำงานนั้น ๆ เช่น ถ้าเรารับผิดชอบงานด้านฝึกอบรม
แต่ก็ไม่มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้เราไปสอบถามหาความรู้ในเรื่องเทคนิคการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกผู้สมัครงานจากพี่
ๆ ที่เขาเป็นกรรมการสัมภาษณ์ไม่ใช่หรือครับ
ดังนั้น
โดยลักษณะของงานแล้ว ท่านจะอยู่ใกล้กับเครื่องไม้เครื่องมือในการบริหารและพัฒนาคน
รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคน ซึ่งก็อยู่ที่ตัวของท่านเองที่จะอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่านี้หรือไม่
อยากจะรอบรู้มากขึ้นหรือไม่ เพราะท่านจะมีโอกาสพัฒนาตัวเองด้าน HR ได้อยู่เสมอครับ
5.
ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ
ถ้าท่านเป็น HR ที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้าง
และรอบรู้ในศาสตร์และมีศิลป์ในการบริหารคนแล้ว
สิ่งที่จะตามมาก็คือในที่สุดก็คือท่านจะได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากคนรอบข้างครับ
นี่คือข้อดีของการทำงาน
HR เท่าที่ผมคิดได้ในตอนนี้ แต่ถ้าจะถามผมว่าแล้ว “ข้อเสีย” ของการทำงาน HR
ล่ะมีไหม ?
ก็อาจจะมีนะแต่ผมไม่เคยคิด อาจจะเพราะตลอดชีวิตการทำงาน HR ของผมที่มาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะเห็นแต่ข้อดี และสนุกกับงานที่ทำอยู่เสมอ
เลยยังไม่ได้มานึกถึงข้อเสียของงาน HR ก็เท่านั้นแหละครับ
…………………………………………..