วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

HR ควรแจ้งผลการสัมภาษณ์หรือไม่ ?


            ผมได้ไปดูกระทู้นี้ในเว็บไซด์ชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้ตั้งกระทู้ทำนองนี้ขึ้นมาแล้วก็มีหลากหลายความคิดเห็นต่อมาแบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่ ๆ คือ

1.      กลุ่มที่เห็นว่าควรจะต้องแจ้งผลการสัมภาษณ์

กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าการแจ้งผลให้ผู้สมัครงานภายหลังการสัมภาษณ์แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของฝ่ายทรัพยากรบุคคลบริษัทนั้น ๆ เพราะผู้สมัครงานจะได้ทราบว่าตนเองจะได้รับการคัดเลือกเข้าทำงานหรือไม่ ซึ่งการแจ้งผลการสัมภาษณ์อาจเป็นการโทรศัพท์แจ้ง, แจ้งทางอีเมล์ หรือแจ้งทางจดหมายก็ได้ ซึ่งการแจ้งผลการสัมภาษณ์ยังบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ขององค์กร, เป็นการให้เกียรติผู้สมัครงานที่อุตส่าห์เสียเวลามาสมัครงาน ฯลฯ

2.      กลุ่มที่เห็นว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งผลการสัมภาษณ์

ความเห็นของกลุ่มนี้ก็คือถ้าผู้สมัครงานอยากจะทราบผลก็ควรจะต้องติดต่อกลับมาที่บริษัทเอง, การแจ้งผลการสัมภาษณ์ (ทางโทรศัพท์หรือทางจดหมาย) ทำให้บริษัทจะต้องเสียค่าใช้จ่าย (ค่าโทรศัพท์หรือค่าไปรษณีย์), ทีผู้สมัครงานไม่ยอมมาสัมภาษณ์ตามที่นัดหมายก็ไม่เห็นจะโทรมาบอกยกเลิกหรือเลื่อนนัดเลยต้องให้ HR โทรไปตามทุกที, ขอกั๊กไว้ก่อนเผื่อเลือกถ้าแจ้งไปว่าไม่ผ่านสัมภาษณ์เดี๋ยวจะไปเลือกกลับเข้ามาอีกก็จะดูเป็นบริษัทโลเลกลับไปกลับมา ฯลฯ

3.      กลุ่มที่เห็นว่าแจ้งก็ได้ไม่แจ้งก็ได้

กลุ่มนี้บอกว่าไม่ค่อยสนใจกับการแจ้งผลการสัมภาษณ์จากบริษัทเท่าไหร่นัก เพราะถ้าบริษัทไม่แจ้งผลกลับมา ผู้สมัครเองก็มีทางเลือกที่ไปสมัครงานที่ไหนไว้อยู่แล้วถ้าบริษัทไหนติดต่อมาก่อนและมีเงื่อนไขน่าสนใจก็สามารถตอบตกลงทำงานกับบริษัทนั้นไปได้เลย ส่วนบริษัทที่ไม่ติดต่อมาก็พลาดโอกาสที่จะได้รับพนักงานที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานด้วย เรียกว่ากลุ่มนี้มีความมั่นใจในตัวเองประเภทหล่อเลือกได้ หรือสวยเลือกได้เลยครับ

            จากที่ผมเล่ามาให้ฟังข้างต้น ในความเห็นของผมแล้วผมมักจะบอกว่าการแจ้งผลใด ๆ ก็ตามดีกว่าไม่แจ้งครับ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งผลการปฏิบัติงานให้กับลูกน้องได้ทราบ หรือแม้แต่การแจ้งผลการสัมภาษณ์ให้กับผู้สมัครงานได้ทราบก็ตาม เพราะ....

1.      แสดงถึงความเป็นมืออาชีพของ HR และแสดงถึงภาพลักษณ์ของบริษัทนั้น ๆ ว่ามีการทำงานอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน จะรับเข้าทำงานก็บอก ไม่รับเข้าทำงานก็บอก

2.      ผู้สมัครงานเองก็จะชัดเจนด้วยเช่นเดียวกันว่าบริษัทเขาจะรับหรือไม่รับเรา จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลารอคอย ลองนึกถึงเวลาที่คนเป็นแฟนกันนัดไปเดทกินข้าวพูดคุยกันแล้วอีกฝ่ายก็เงียบหายไปดูสิครับ ผมว่าความรู้สึกคงประมาณนั้นจริงไหมครับ

3.      การแก้ปัญหาการแจ้งผลที่บอกว่าต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรือทางไปรษณีย์นั้น ตัดไปได้เพราะทุกวันนี้ติดต่อสื่อสารกันทางอีเมล์ได้ ซึ่งบริษัทก็เตรียมทำ Template ข้อความแจ้งผู้สมัครงาน (ในกรณีไม่รับเข้าทำงาน) เอาไว้ได้เลยครับ ซึ่งข้อความก็น่าจะเป็นประมาณนี้คือ

เรื่อง            แจ้งผลการสัมภาษณ์

เรียน           คุณ....

                  ตามที่บริษัทได้เชิญท่านมาสัมภาษณ์งานในตำแหน่ง...........กับทางบริษัทเมื่อวันที่.........................แล้วนั้น บริษัทได้พิจารณาความเหมาะสมของผู้สมัครงานที่มาสัมภาษณ์ทุกท่านอย่างรอบคอบแล้ว จึงใคร่ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทได้พิจารณารับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว

                  บริษัทขอขอบคุณท่านที่ให้ความสนใจในตำแหน่งงานของบริษัทและสละเวลามาสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และหวังว่าท่านจะประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต

                                                                                ขอแสดงความนับถือ

                                                                            (......................................)

                                                                              ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

                  สำคัญว่าทางฝั่งผู้สมัครงานก็ควรจะต้องเคลียอีเมล์ของตัวเองอย่าให้เมล์บ๊อกซ์เต็มล่ะครับ เดี๋ยวเขาแจ้งผลมาแล้วเมล์เด้งกลับก็เลยไม่รู้เรื่องกัน

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือผู้สมัครสามารถสอบถามกรรมการสัมภาษณ์ (หรือฝ่ายบุคคล) ในวันที่มาสัมภาษณ์ได้ว่าบริษัทจะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่จึงจะทราบผล และเมื่อถึงเวลาแล้วถ้าหากบริษัทยังไม่แจ้งผลกลับมาก็สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามกับทาง HR ได้นี่ครับ       

หวังว่าทั้ง HR และผู้สมัครงานคงจะสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้วนะครับ

 ......................................................