วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทำไงดีถ้าจะมีการเลื่อนตำแหน่งพนักงานแบบก้าวกระโดด ?

            ปกติการเลื่อนตำแหน่งพนักงานก็มักจะเป็นไปตามสเต็ปเช่น เลื่อนจากเจ้าหน้าที่เป็น Supervisor หรือจาก Supervisor เป็น Manager ก็จะเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปตามหลักเกณฑ์ตามปกติของบริษัท

แต่ถ้าต้องการจะ Promote พนักงานแบบข้ามขั้น เช่น ถ้าพนักงานมีความสามารถมาก ๆ แบบข้ามสเต็ปจากพนักงานเป็น Manager ล่ะควรทำไงดี ?

ผมก็ขอเล่าสู่กันฟังอย่างนี้ครับ

1.      กำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน : HR ควรกำหนดหลักเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งให้ชัดเจนเสียก่อนว่าในการเลื่อนตำแหน่งนั้นสำหรับพนักงานทั่วไปนั้นบริษัทจะพิจารณาอะไรบ้าง เช่น อายุงานในตำแหน่งก่อนที่จะเลื่อนขึ้นไปจะต้องไม่น้อยกว่า....ปี, มีผลการปฏิบัติงานย้อนหลังเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเกรด......., จะต้องจบคุณวุฒิอะไร, จะต้องมีวันลา (ป่วย, สาย, ลา, ขาดงานต่าง ๆ ) ไม่เกินที่บริษัทกำหนด, ไม่ถูกลงโทษทางวินัยหรือถูกตักเตือนเป็นหนังสือในปีที่ผ่านมา, จะต้องผ่านการทดสอบปฏิบัติ.........ตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ฯลฯ ซึ่งผมมักจะพบว่าในหลายบริษัทไม่เคยมีหลักเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่งอย่างที่ผมบอกมาเลยนะครับ

2.       ควรพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งในรูปคณะกรรมการ : ที่บริษัทเดิมที่ผมเคยทำงานจะมีคณะกรรมการเรียกว่า “คณะกรรมการพัฒนาพนักงาน” ประกอบด้วย MD (หรือ CEO) เป็นประธานและมีผู้บริหารที่ MD แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการ แล้วก็มีผู้จัดการฝ่าย HR เป็นกรรมการและเลขานุการ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่ในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง, โยกย้ายพนักงาน, การให้รักษาการในตำแหน่ง, ให้พ้นจากรักษาการในตำแหน่ง โดยจะพิจารณาจากข้อมูลที่ทางฝ่าย HR จัดเตรียมไว้ให้

3.      มีหลักเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งแบบ Fast Track : กรณีที่บริษัทจะ Promote แบบข้ามขั้น (หรือ Fast Track) ยกตัวอย่าง เช่นบริษัทจะ Promote วิศวกรให้ไปเป็น Section Manager ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการเป็น Supervisor นี่แหละครับ บริษัทควรมีหลักเกณฑ์การ Promote แบบ Fast Track ที่ชัดเจน และเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒมาพนักงานที่จะร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมตามคุณสมบัติของวิศวกรคนดังกล่าว

ถ้ายังไม่แน่ใจ 100% อย่างที่ถามมา คณะกรรมการอาจจะมีมติให้วิศวกรคนนี้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ Section Manager 3-6 เดือนซึ่งมักจะเรียกว่าให้ไป “รักษาการ” ในตำแหน่งนั้นดูก่อน ถ้าหากทำได้คณะกรรมการก็จะประชุมลงมติให้ปลด (หรือพ้น) รักษาการและให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง Section Manager ต่อไป

แล้วบริษัทจะมีการปรับเงินเดือนเนื่องจากเลื่อนตำแหน่ง, จะให้ค่าตำแหน่ง หรือให้สิทธิประโยชน์สวัสดิการอื่น ๆ ก็จะได้หลังจากปลดรักษาการแล้วตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

แต่ถ้าไม่ผ่านรักษาการก็จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่วิศวกรตามเดิม ซึ่งระหว่างรักษาการจะยังไม่มีการปรับเงินหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ

4.      นำเสนอ Profile คนที่เป็น Talent ให้คณะกรรมการฯทราบล่วงหน้า : ก่อนที่คณะกรรมการจะพิจารณาวิศวกรที่เป็น High Potential ตามข้อ 3 นั้น ทาง HR ควรจะนำเรื่องศักยภาพของวิศวกร (รวมถึงพนักงานคนอื่น ๆ ที่เป็น Talent) เข้าที่ประชุมเพื่อให้คณะกรรมการรับทราบก่อนอย่างน้อย 1 ปี เพื่อที่คณะกรรมการจะได้วางแผนหารือการปรับเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเพื่อรองรับการเลื่อนตำแหน่งแบบ Fast Track สำหรับพนักงานกลุ่มนี้ในอนาคต จะได้ไม่เกิดปัญหาในกรณีการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote ให้เท่ากับ Min ของ Section Manager จะทำให้ไม่มีการปรับเงินเดือนเมื่อ Promote มากจนเกินไป

เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ผมก็เชื่อว่าท่านจะได้ไอเดียในการนำไปปรับใช้ในบริษัทของท่านได้แล้วนะครับ