เมื่อตอนที่แล้วผมได้เกริ่นนำให้ท่านได้ทราบถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคลซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์
ทำให้แต่ละคนมีพฤติกรรมหรือสไตล์ในการใช้ชีวิตโดยมีการศึกษาในเรื่องนี้โดย Dr.William Moulton
Marston ได้ทำการวิจัยและเขียนหนังสือที่ชื่อว่า The
Emotions of Normal People โดยจัดแบ่งสไตล์หรือลักษณะของคนออกเป็น 4
ประเภทที่เรียกว่า D I S C ซึ่งผมจะขยายความให้ท่านทราบในตอนนี้ล่ะครับ
D
I S C คืออะไร ?
พอเห็นคำ ๆ
นี้หลายท่านอาจจะนึกถึงเบรครถยนต์ หรือ แผ่น CD ฯลฯ แต่ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดไว้นะครับ
D I S C ที่ผมจะพูดถึงในวันนี้เป็นตัวอักษรที่ย่อมาดังนี้
D - Dominance
I – Influence
S – Steadiness
C – Compliance
ทั้งสี่คำนี้คือสไตล์หรือคุณลักษณะของคนที่สามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่
ๆ 4 แบบ
แต่ก่อนที่ผมจะเล่าให้ท่านทราบมากกว่านี้ขอทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนนะครับว่าสไตล์ทั้ง
4 แบบนี้ไม่มีสไตล์ใดที่ดีกว่าหรือแย่กว่าสไตล์ใด
ซึ่งแต่ละสไตล์ก็จะมีลักษณะเด่นและด้อยในตัวของมันเอง
ไม่มีสไตล์ใดที่สมบูรณ์แบบหรือดีที่สุด
ทั้งผมทั้งท่านต่างก็มีสไตล์เป็นของตัวเองในสี่รูปแบบนี้แหละครับ
!
เรามาดูกันว่าแต่ละสไตล์จะมีจุดเด่นจุดด้อยยังไงกันบ้าง
D
= Dominance/Directive ผู้กร้าวแกร่ง ฉับไว
คนสไตล์ D หรือ
Dominance ท่านจะสังเกตลักษณะเด่นเขาและเธอได้จากการที่เป็นคนมุ่งมั่น
มุ่งผลสำเร็จของงาน(และชีวิต)สูง ของการควบคุม การตัดสินใจชัดเจน เด็ดขาด
ปากกับใจตรงกัน ชอบเปลี่ยนแปลง กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสี่ยง กล้าตัดสินใจแม้จะเกินอำนาจที่มี
ใจถึงพึ่งได้ ชอบการแข่งขัน ไม่กลัวใคร ชอบทำงานโดยอิสระ ไม่ชอบการถูกควบคุม
มีความรับผิดชอบในงานสูง ชอบความท้าทาย
จุดที่เป็นเงามืดของคนแบบ D คือ
หากเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากก็จะเป็นคนที่มีปากหาศัตรู
คนรอบข้างจะไม่ชอบในความก้าวร้าว และเข้ามาควบคุมงาน คนแบบ D มักจะถูกคน (แอบ) นินทาว่าเอาแต่ใจตัวเองแต่ไม่ยอมเข้าใจคนอื่น(รอบข้าง)เสียบ้างเลย
ทำให้ถูกมองว่าเป็นเผด็จการเอาง่าย ๆ
I
= Influence/Interactive ช่างเจ๊าะแจ๊ะ ชอบสังคม อารมณ์ศิลปิน
คนสไตล์ I จะเป็นคนที่ชอบเข้าหาพูดคุย พูดเก่ง เสียงดัง ร่าเริง มีอารมณ์ศิลปินสูง
มีความคิดสร้างสรรค์บรรเจิด ชอบงานสังคม งานรื่นเริงบรรเทิงปาร์ตี้
เข้ากับคนได้ง่าย
เจอคนแปลกหน้านี่จะพูดคุยกันได้อย่างกับเป็นญาติสนิทกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว
สามารถหว่านล้อมจูงใจให้คนมาร่วมมือได้อยู่เสมอ แต่เป็นคนไม่ชอบลงรายละเอียด
และไม่กล้าที่จะตัดสินใจถ้าจะต้องไปขัดใจใคร คนสไตล์ I จึงแคร์กับความรู้สึกของคนรอบข้าง
จะเข้าใจผู้คนมาก
วิธีคิดของคนแบบ I จึงจะมีอารมณ์
(Feeling) เข้ามาร่วมด้วยเสียเป็นส่วนมาก คนแบบ I จึงมองโลกในแง่ดี
ในขณะที่จุดอ่อนของคนแบบ I คือมักจะเป็นคนที่คุยแบบน้ำท่วมทุ่ง
ฝันเฟื่อง เชื่อคนง่ายโดยไม่แยกแยะว่าใครน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
การตัดสินใจมักจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล
ทำให้คนรอบข้างดูว่าตัดสินใจแบบไม่มีหลักการที่ชัดเจน
บ่อยครั้งที่ทำให้คนรอบข้างสับสนกับการตัดสินใจที่หาคำตอบที่มีเหตุผลไม่ได้
S
= Steadiness/Support เห็นใจผู้คน ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
อนุรักษ์นิยม ทำตามขั้นตอน
คนสไตล์ S จะเป็นคนที่มีความเป็นมิตรเป็นอันเอง
ดูอบอุ่นรับฟัง แต่งตัวตามสบายไม่พิถีพิถัน เป็นคนชอบทำอะไรตามกฎระเบียบที่มี
ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ชอบอะไรที่เร่งรีบ ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง
ไม่ชอบความเร่งด่วนฉุกเฉิน ชอบอยู่เบื้องหลังมากกว่าเบื้องหน้า
ตัดสินใจตามกฎระเบียบที่มีเท่านั้น และอนุรักษ์นิยมสูง
ดังนั้นจุดอ่อนของคนแบบ S ก็คือ
คนรอบข้างจะดูว่าเป็นคนเฉื่อย เปลี่ยนแปลงอะไรก็ยาก ยึดติดแต่ภาพอดีต
ขาดความกระตือรือร้น แถมเป็นคนดื้อเงียบ และมักจะผลัดวันประกันพรุ่ง
C
= Compliance/Cautious หญิงมั่นชายมั่น ละเอียด รอบคอบสุดฤทธิ์
คุยกันด้วยข้อมูลเท่านั้น
คนสไตล์ C เป็นคนที่ต้องการความละเอียดถี่ถ้วนสูงมาก(กว่าปกติคนทั่วไป)
ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ต้องมีข้อเท็จจริง
(หรือข้อมูล) ที่ยืนยันมาพิสูจน์กันได้เท่านั้น เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยจะพูดอะไรมากนัก
ชอบคิดการวิเคราะห์ เป็นคนที่ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบหรือเรียกว่าเป็น Perfectionist
มักจะมองว่าคนอื่นรู้น้อยกว่าตัวเอง มีข้อมูลน้อยกว่าตัวเอง
หรือหนักกว่านั้นคือมองว่าคนอื่นโง่กว่าตัวเองเพราะตัวเองเป็นคนมีข้อมูลเยอะรู้มาก
คนสไตล์ C กล้าตัดสินใจและเด็ดขาดจนหลายครั้งทำเอาคนรอบข้างเป็นงงว่าทำไมกล้าตัดสินใจแบบนี้ได้
ก็เพราะเขาเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก
จุดอ่อนของคนแบบ C ก็คือ
มักจะมองโลกในแง่ร้าย ขี้จุกจิก ค่อนข้างเก็บตัว ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
และชอบรายละเอียด
หรือจมอยู่กับเวลาของรายงานมากเกินไปจนทำให้งานที่จะต้องปฏิบัติหรืองานที่ต้องการการตัดสินใจไม่เดินหน้า
และมีปัญหาเรื่องมนุษยสัมพันธ์
ในตอนนี้ขอจบลงตรงนี้ก่อนนะครับ
แล้วตอนต่อไปค่อยมาว่ากันต่อ
…………………………..