เผลอแป๊บเดียวเราก็จะเข้าสู่ปีใหม่กันอีกปีหนึ่งแล้วนะครับ
ก่อนจะเข้าสู่ปี 2559 ผมกำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วก็คิดว่าเขียนอะไรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ดี
ก็เลยคิดเรื่องบางเรื่องได้เดี๋ยวนี้เองสด ๆ ร้อน ๆ
เลยอยากจะแชร์ความคิดให้กับท่านผู้อ่านไว้ตรงนี้ดังนี้ครับ
1. ทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะทัศนคติคือทุก ๆ อย่างในชีวิต
ไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนไหนที่มีทัศนคติเชิงลบมากกว่าบวก เพราะฉะนั้นอย่าไปอยู่ใกล้พวกคิดลบคิดร้ายให้มากนักโดยเฉพาะพวกหมอดูที่ทำนายแต่เรื่องร้าย
ๆ โดยไม่เคยทำนายเรื่องดี ๆ บ้างเลย (แถมพอไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ อย่างที่ทำนายไว้ก็ไม่เคยออกมารับผิดชอบคำพูดเสียอีกต่างหาก) ถ้าหากเราไปอ่านไปดูรายการทีวีหรือไปคุยกับคนพวกนี้บ่อย
ๆ เข้าเราจะไม่กล้าทำอะไรเลย
เสียโอกาสที่ดีในชีวิตเพราะมองเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี ผมเชื่ออยู่เสมอว่าถ้าเราคิดว่าเราทำได้เราจะทำได้เสมอแม้ว่าสิ่งนั้นจะยากเพียงใดก็ตาม
แต่ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้มันก็ทำไม่ได้
แต่ไม่ใช่ว่าเราทำไม่ได้เพราะเราไม่เก่งนะครับ
เราทำไม่ได้เพราะเรามีแต่ทัศนคติเชิงลบอยู่เสมอต่างหาก
2. การวางแผนคือการคิดไว้ล่วงหน้า
ชีวิตต้องมีการวางแผน ท่านได้วางแผนชีวิตของท่านในปี 2559 หรือยังครับว่าในปีหน้าที่จะมาถึงนี้ท่านจะทำอะไรบ้าง
แผนที่ท่านวางไว้ควรจะเป็นเรื่องที่ทำให้การงานของท่านดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น
มีสิ่งที่ต้องทำหรือมีกิจกรรมที่ชัดเจน
มีตัววัดผลสำเร็จได้ชัดเจนเพื่อทบทวนในตอนปลายปีว่าเราได้ทำตามแผนไปได้แค่ไหนเพื่อจะได้เป็นข้อมูลสำหรับแผนในปีถัดไปเพื่อให้ชีวิตของเราดีขึ้น
แต่ถ้าเราไม่มีการวางแผนเราก็จะทำงานไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีทิศทาง
3. ความสำเร็จไม่เคยเกิดขึ้นได้ด้วยการอธิษฐานร้องขอเพียงอย่างเดียว
ผมดูซีรีย์เรื่องพระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลกตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
“ถ้าท่านอยากจะข้ามลำน้ำจากฝั่งนี้ไปฝั่งโน้นท่านควรทำอย่างไร”
พระเจ้าปเสนทิโกศลตอบว่า “ถ้าลำน้ำนี้ตื้นเราก็ต้องเดินลุยน้ำข้ามไป
ถ้าลำน้ำนี้ลึกเราก็ต้องพายเรือข้ามไป” พระพุทธเจ้าท่านถามต่อไปว่า “ถ้ามีใครสักคนสวดอ้อนวอนร้องขอให้ฝั่งโน้นย้ายมาหาเราในฝั่งนี้ล่ะจะเป็นไปได้ไหม”
พระเจ้าปเสนทิโกศลตอบว่า “มีแต่คนโง่หรือไร้สติเท่านั้นแหละที่ทำอย่างนั้น”
พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าก็เช่นเดียวกันทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราที่จะต้องเป็นคนลงมือทำไม่ใช่อยากได้อะไรแล้วอธิษฐานอ้อนวอนร้องขอโดยไม่ทำอะไรเลย
เพราะการทำเช่นนั้นก็เหมือนคนไร้สตินั่นแหละ
4. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อย่าไปหวังพึ่งแต่คนอื่น เมื่อทำอะไรแล้วต้องไม่จับจด ไม่ท้อถอยง่าย ๆ
ต้องมีความมุ่งมั่น
5. ปัญหาทำให้เรารู้จักวิธีการแก้ปัญหา
ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนแต่เจอปัญหาหนัก ๆ
และรู้จักวิธีจัดการกับปัญหาหนัก ๆ มาแล้วทั้งนั้น ปัญหากับปัญญาจึงเป็นของคู่กัน
คิดง่าย ๆ ว่าเมื่อไหร่มีปัญหา ปัญญาจะตามมาเสมอ
6. มีหลักกาลามสูตรอยู่เสมอ
(หาดูคำนี้ในกูเกิ้ลเอาเองนะครับ) อย่าเชื่ออะไรง่ายจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ให้ไม่เชื่ออะไรเลย
แต่ก่อนจะเชื่ออะไรก็ควรจะหาข้อมูลข้อเท็จจริงและกลั่นกรองให้ดีว่าข้อมูลอะไรจริงอะไรเท็จ
แล้วคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาของท่านให้ดีเสียก่อนแล้วจึงตัดสินใจเชื่อครับ
7. Work life balance เป็นสิ่งสำคัญ ทำงานอย่างมีสติพอเหมาะพอควร Work
hard แล้วต้อง Work smart ด้วยอย่าบ้างานมากจนเกินไป
อะไรที่มากไปหรือน้อยไปย่อมไม่ดีทั้งนั้น หาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ ดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเองให้ดีด้วย
เพราะหากสุขภาพของเราแย่ไปไม่มีใครจะมาดูแลได้นอกจากตัวเราเองนะครับ
ข้อคิดที่สำคัญ ๆ เท่าที่นึกออกตอนนี้มีเท่านี้แหละครับ ที่เหลือท่านลองไปคิดต่อจากที่ผมบอกมาอีกก็ได้นะครับ
ปีใหม่นี้ผมก็ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ
ได้เป็นกำลังใจให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสำเร็จในสิ่งดี ๆ ที่ท่านได้ปฏิบัติ มีความสุขกายสบายใจในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยนะครับ
สวัสดีปีใหม่ 2559 ครับ
…………………………………………