ชื่อของบุคลิกภาพที่ฟังดูแปลกนี้มาจากนักการทูตชาวอิตาเลียนคือ
นิโคโล แมคคิเวลลี (Niccolò Machiavelli)
มีชีวิตอยู่ระหว่างปีพศ.2012-2070 คือราว ๆ
ยุคของพระไชยราชาธิราชสมัยกรุงศรีอยุธยานั่นและครับ
โดยนำชื่อของคนๆนี้มาตั้งเป็นชื่อของบุคลิกภาพเพราะแกไปเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับการใช้และจัดการคนอื่นด้วยเทคนิคกลอุบายต่าง
ๆ ให้สำเร็จผลอย่างที่ตนเองต้องการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งอาจจะขัดต่อความถูกต้อง
ทำให้หนังสือเล่มนี้โดนโจมตีในเรื่องของการขาดศีลธรรมอันดีจากพวกฝรั่งด้วยกัน
พฤติกรรมแบบนี้เป็นยังไง?
ท่านเคยเห็นคนที่มีพฤติกรรมในที่ทำงานเยี่ยงนี้ไหมล่ะครับ
เช่น....
-
มีวาทศิลป์ดีสามารถจูงใจคนให้คล้อยตาม
-
ซ่อนความมุ่งหวัง/เป้าหมายเอาไว้ลึก ๆ
ไม่บอกให้ใครรู้
-
เปลี่ยนจุดยืนได้อย่างรวดเร็วหน้ามือเป็นหลังมือทำเอาคนรอบข้างเหวออยู่บ่อย
ๆ ว่าวันนี้พูดอย่างงี้ทำไมอีกวันพูดแบบพลิกไปเป็นอีกอย่างหนึ่งได้หน้าตาเฉย
-
พยายามพูดให้คนอื่นเชื่อว่าตัวเองพูดความจริงอยู่
ทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้นตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่จริง
-
พูดในสิ่งที่คิดว่าคนฟังอยากได้ยินเพื่อหลอกเอาไว้ใช้งาน
-
ไม่เคยคิดตอบแทนบุญคุณใคร
-
ถ้าใครยอมหรืออ่อนแอกว่าก็พร้อมจะรุกไล่ในทันที
และพร้อมจะเอาเปรียบคนอื่นที่อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ
-
สามารถควบคุมจัดการหรือใช้งานคนอื่นให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองได้อย่างแยบยลแม้จะเป็นเรื่องผิดกฎระเบียบศีลธรรมก็จะใช้อำนาจในการสั่งการหรือโน้มน้าวให้คนอื่นทำแทนตัวเอง
-
เมื่อถูกตรวจสอบพบว่าทำผิดจะไม่ยอมรับสารภาพ
และหาทางเอาตัวรอดซึ่งก็มักจะโยนความผิดให้กับคนที่ตัวเองไปสั่งให้เขาทำเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด
คุ้น ๆ
ไหมครับกับพฤติกรรมของคนในที่ทำงานของท่านแบบนี้ลองสำรวจดูนะครับว่าใครบ้างที่มีพฤติกรรมแบบนี้
เรามักจะพบเห็นได้ว่าคนบางคนจะสามารถใช้วาทศิลป์ในการพูดเพื่อยืมมือหรือหลอกใช้คนอื่นให้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องจนเกิดความเสียหาย
ซึ่งคนที่ถูกหลอกใช้ก็เต็มใจทำให้เสียด้วย
พอเกิดความเสียหายเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมาก็จะชิ่งหนีทันทีและโยนความคิดให้กับคนที่ตัวเองหลอกใช้รับไปเต็ม
ๆ
คำพูดทำนองนี้เราจะได้ยินบ่อย ๆ
เช่น....
“งานนี้รีบทำไปเลยน้อง
พี่รับผิดชอบเอง....” คุ้น ๆ ไหมครับกับคำพูดทำนองนี้..
แต่คำพูดแบบนี้มักเป็นวาจานะครับ
ไม่มีเอกสารหลักฐานรองรับ พอลูกน้องทำไปแล้วเกิดปัญหาถูกสอบสวนขึ้นมาคนสั่งก็จะบอกกับคนที่มาตรวจสอบว่า
“ผมก็เตือนน้องเขาแล้วว่าอย่ารีบร้อน เขาก็ไม่ฟัง....”
พฤติกรรมแบบนี้แหละครับจะเรียกว่าพี่คนนี้แกมี
“บุคลิกภาพแบบแมคคิเวลเลียนสูง” ครับ
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าพฤติกรรมอย่างที่ผมบอกมาข้างต้นดีหรือไม่
แต่แปลกดีนะครับที่เราก็ยังพบเห็นคนที่มีพฤติกรรมแบบแมคคิเวลเลียนสูงได้อยู่เสมอ ๆ
แถมคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้กลับได้ดิบได้ดีมีหน้ามีตาในสังคมอีกต่างหาก
แล้วก็แปลกที่ยังมีคนเกรงใจยอมทำตามสิ่งที่คนพวกนี้หลอกใช้อยู่เสมอ
ๆ ซึ่งก็จะกลายเป็นเหยื่อในที่สุด
เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้วเรามาเรียนรู้เรื่องนี้ก็เพื่อเตือนใจตัวของเราเองเอาไว้ด้วยว่าเราควรจะต้องระวังอย่าตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเครื่องมือของคนที่มีบุคลิกภาพแบบแมคคิเวลเลียนสูงก็แล้วกัน
เพราะคนพวกนี้พร้อมที่จะเอาดีเข้าตัวเอาชั่วโยนใส่เหยื่อที่ตัวเองหลอกใช้ได้อยู่เสมอครับ
………………………….