คำว่า “โอที” หรือ Overtime จะแปลว่าค่าล่วงเวลา ซึ่งถ้าจะว่ากันตามกฎหมายแรงงานแล้วค่าล่วงเวลาจะมี
2 แบบคือ 1. ค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
และ 2. ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
แต่ในบางครั้งนายจ้างก็มีความจำเป็นจะต้องให้ลูกจ้างมาทำงานในวันหยุดตามเวลาทำงานปกติ
เช่น ปกติบริษัทมีเวลาทำงาน 8.00-17.00 น.
และมีวันหยุดประจำสัปดาห์คือวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วบริษัทก็สั่งให้พนักงานมาทำงานในวันอาทิตย์ระหว่าง
8.00-17.00 น. อย่างนี้พนักงานก็จะได้ค่าทำงานในวันหยุด
ดังนั้น
คนทำงานจึงมักจะเรียกทั้งค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ, ค่าทำงานในวันหยุด
และค่าล่วงเวลาในวันหยุดรวม ๆ ว่า “โอที” (หรือบางคนก็เรียกว่า “ค่าโอ”)
ผมก็เลยเรียกรวม ๆ แบบคนทำงาน
ซึ่งท่านผู้รู้เรื่องภาษาอาจจะเห็นว่าไม่ถูกต้องตามภาษาอังกฤษ แต่คนทำงานเขาเรียกกันอย่างนี้นะครับ
คราวนี้ปัญหาเรื่องโอทีมีอยู่ว่า
มีบางบริษัทที่กำหนดค่าโอทีให้กับพนักงานตามอัตราเงินเดือนแบบตายตัว
ยกตัวอย่างเช่น
อัตราเงินเดือน ค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ ค่าทำงานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
(1) ไม่เกิน 20,000 บาท 130 บาท/ชั่วโมง 85 บาท/ชั่วโมง 250
บาท/ชั่วโมง
(2) 20,001-25,000 บาท 140 บาท/ชั่วโมง 100 บาท/ชั่วโมง 280
บาท/ชั่วโมง
อย่างนี้จะทำได้หรือไม่
?
อันที่จริงแล้วคำตอบในเรื่องนี้ไม่ยากนะครับ
เพียงแต่ไปเปิดกฎหมายแรงงานมาตรา 61-63 โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
มาตรา
๖๑
ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงานให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ
หรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(๑)
สำหรับลูกจ้างซึ่งมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
ให้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(๒)
สำหรับลูกจ้างซึ่งไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
ให้จ่ายไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ
หรือไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
มาตรา
๖๓
ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ
หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
จากวิธีการคำนวณโอทีตามกฎหมายแรงงานข้างต้นจึงคิดได้ดังนี้ครับ
1.
พนักงานที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท ต้องได้ค่าทำโอทีในวันทำงานปกติไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ 125 บาท (20,000 หาร 240 = 83 แล้วคูณด้วย
1.5 = 125 บาท ที่หาร 240 เพราะทำงานเดือนละ 30 วัน ๆ ละ 8 ชั่วโมง) ส่วนค่าล่วงเวลาในวันหยุดจะต้องได้ชั่วโมงละ 250 บาท ดังนั้นตารางตาม (1) จึงไม่มีปัญหา
แถมพนักงานที่เงินเดือนต่ำกว่า 20,000 บาทก็ยังได้ประโยชน์มากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เสียอีก
(ซึ่งในทางกฎหมายแรงงานถือว่าเป็นคุณกับลูกจ้าง) เช่น คนที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 15,000
บาท แทนที่จะได้รับโอทีชั่วโมงละ 94 บาท
ก็ได้รับถึง 130 บาท เป็นต้น
2.
แต่พอมาดูตารางที่ (2) นี่สิครับ การจ่ายโอทีแบบนี้มีปัญหาแต่นอน
เพราะพนักงานที่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 22,400 บาทขึ้นไปจะเสียประโยชน์เนื่องจากบริษัทไปเหมาจ่ายให้ในอัตราที่ต่ำกว่ากฎหมายแรงงานกำหนดไว้
เช่น พนักงานที่มีเงินเดือน 23,000 บาท
ควรจะต้องได้รับค่าโอทีในวันทำงานปกติคือชั่วโมงละ 144 บาท
ก็ได้รับเพียง 140 บาท
ถ้าบริษัทยังบอกว่ากฎระเบียบของบริษัทเป็นอย่างนี้แล้วยังยึดถือการจ่ายตามกฎระเบียบของบริษัท
ก็ต้องถือว่าขัดต่อกฎหมายแรงงาน เมื่อไหร่พนักงานไปฟ้องศาลแรงงานบริษัทก็จะแพ้คดีและเสียชื่อเสียงได้
ข้อแนะนำสำหรับผมก็คือ
บริษัทควรจะคำนวณค่าโอทีแล้วจ่ายให้พนักงานตามกฎหมายแรงงานจะดีกว่าการมากำหนดอัตราโอทีแบบตายตัวตามฐานเงินเดือน
(แถมยังมาทำตารางการจ่ายให้วุ่นวายเสียอีก)
ซึ่งจะได้ไม่มีปัญหาการร้องเรียนหรือฟ้องร้องกันในภายหลังครับ
...............................................