ในตอนที่แล้วผมได้พูดถึงสาเหตุการจ้างพนักงาน
Outsource
เข้ามาทำงาน
รวมถึงปัญหาบางเรื่องที่ควรระวังเกี่ยวกับการจ้างพนักงาน Outsource ไปแล้ว ในตอนนี้เรามาว่ากันถึงเรื่องการจัดการเรื่อง Outsource กันต่อไปเลยนะครับ
เราจะจัดการในเรื่อง
Outsource
ได้อย่างไร ?
จากปัญหาในการจ้างพนักงาน
Outsource ที่ผมบอกไว้ในตอนที่แล้วก็ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องที่มีปัญหาจนกระทั่งถอดใจไม่จ้าง
Outsource นะครับ
เพราะคนเราเกิดมาเพื่อให้พบกับปัญหา
แต่ไม่ใช่เกิดมาเพื่อให้ยอมแพ้กับปัญหาจริงไหมครับ
เมื่อท่านได้ทราบถึงปัญหาในการจ้างพนักงาน
Outsource
แล้ว องค์กรของท่านควรจะต้องมีแนวทางในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
เช่น
1.
หาบริษัทคู่สัญญามากกว่าหนึ่งแห่ง : ท่านคงจะต้องหาบริษัทที่เป็นคู่สัญญาที่เรียกกันว่า
Contractor
ไว้หลาย ๆ ราย เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของพนักงาน Outsource ที่ส่งมาให้กับเราว่าพนักงานของบริษัทไหนมีคุณภาพในการทำงานที่ดีกว่ากัน
โดยไม่ผูกขาดการจ้างพนักงาน Outsource ไว้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพียงแห่งเดียว
เพราะจะทำให้ท่านลดความเสี่ยงในเรื่องของคุณภาพของพนักงานที่ไม่ได้มาตรฐาน
แถมยังลดความเสี่ยงในเรื่องการลาออกไปด้วยในตัว
เรียกว่ายังไงก็ยังมีแผนสองไว้รองรับดีกว่าถูกบังคับให้ใช้แผนเดียวโดยไม่มีทางเลือกครับ
2.
สร้างสมดุลอัตรากำลังระหว่างพนักงานประจำและ
Outsource
ให้เหมาะสม : ในเรื่องนี้ผมเชื่อว่าผู้บริหารระดับสูงขององค์กรน่าจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราส่วนที่จะมีผลกระทบต่อคุณภาพหรือมาตรฐานของสินค้าและบริการขององค์กรนั้น
ๆ แต่ในเรื่องแม้จะรู้กันดีอยู่ว่าต้องสมดุลอัตรากำลังให้ดี
แต่หลายครั้งความคิดที่จะประหยัดต้นทุนก็มาทำให้เสียสมดุลอยู่บ่อย ๆ ครับ
3.
มีโครงสร้างการจ่ายค่าจ้างพนักงาน Outsource ที่ชัดเจน : โดยทั่วไปหน่วยงานที่จะต้องจ้างพนักงาน
Outsource
จะต้องมีการจัดทำงบประมาณไว้เพื่อรองรับการจ้างอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ยังขาดอีกส่วนหนึ่งคือน่าจะมีการกำหนดอัตราการจ้างพนักงาน Outsource
ไว้ในลักษณะของ “โครงสร้างเงินเดือนพนักงาน
Outsource” ที่ชัดเจน คือท่านควรจะมีอัตราเริ่มต้น (Starting
Rate) และอัตราสูงสุด (Ceiling) ของการจ้างพนักงาน
Outsource ในแต่ละตำแหน่ง เช่น
สมมุติท่านต้องการจ้างเลขานุการแบ่งเป็น 3 ระดับคือ
-
เลขานุการผู้อำนวยการฝ่าย (อัตราเริ่มต้น 12,000 บาท)
-
เลขานุการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
(อัตราเริ่มต้น 16,000
บาท)
-
เลขานุการรองกรรมการผู้จัดการ
(อัตราเริ่มต้น 24,000
บาท)
จากตัวอย่างดังกล่าวท่านอาจจะกำหนดโครงสร้างเงินเดือนของพนักงาน
Outsource
ใน
ตำแหน่งเลขานุการโดยมีอัตราเริ่มต้นที่
12,000
บาท และมีเพดานการจ้างสูงสุดอยู่ที่ 24,000 บาท
ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ (ซึ่งก็คือ Competency) ของพนักงาน Outsource
ที่ท่านจะจ้างเป็นตัวกำหนด
การกำหนดโครงสร้างเงินเดือนของพนักงาน
Outsource
ดังกล่าวจะทำให้องค์กรของท่านมีอัตราการจ้างพนักงาน Outsource
ที่ชัดเจน ไม่เกิดการลักลั่นหรือเหลื่อมล้ำกันระหว่างพนักงาน Outsource
ที่ทำงานในตำแหน่งหน้าที่งานเดียวกัน
ทุกหน่วยงานก็จะมีการจ้างพนักงาน Outsource ในอัตราเดียวกัน
องค์กรส่วนใหญ่ก็มักจะให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นคนกลางในการจ้างพนักงาน
Outsource
เพื่อจะได้สามารถควบคุมอัตราจ้างให้เป็นไปด้วยความเท่าเทียมกัน
แต่ก็ยังมีหลายองค์กรที่ให้แต่ละหน่วยงานสามารถจ้างพนักงาน Outsource เองได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพราะถือว่าจะได้หาคนมาทันเวลาทันต่อความต้องการสำหรับงานของหน่วยงานนั้น ๆ ก็มีครับ
แต่ไม่ว่าองค์กรของท่านจะใช้วิธีไหน
หากมีการกำหนดโครงสร้างการจ้าง Outsource ที่ชัดเจนตามที่ผมได้บอกไปแล้วข้างต้น
จะทำให้ท่านมีเกณฑ์ในการจ้างที่ชัดเจน
ซึ่งหากอัตราจ้างพนักงาน Outsource ของท่านสามารถแข่งขันกับตลาดได้ และอัตราจ้างของท่านจูงใจกว่าหรือเป็นหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนกว่า
บริษัทที่เป็นคู่สัญญาของท่าน (Contractor) ก็ย่อมอยากที่จะส่งพนักงานที่มีคุณภาพให้กับองค์กรของท่านด้วยเช่นกันนะครับ
4.
ทำความเข้าใจกับพนักงานประจำเกี่ยวกับค่าจ้างพนักงาน
Outsource : ในเรื่องปัญหาของความรู้สึกเปรียบเทียบในเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการระหว่างพนักงานประจำกับพนักงาน
Outsource
นั้น ผู้บริหารในหน่วยงานนั้น ๆ
ร่วมกับฝ่ายบุคคลจะต้องช่วยกันอธิบายให้พนักงานประจำเข้าใจว่าค่าจ้างพนักงาน Outsource
ที่องค์กรจ่ายให้กับ Contractor นั้น พนักงาน Outsource
ก็ไม่ได้รับเต็มทั้งจำนวนหรอก
เพราะบริษัทผู้รับเหมาเขาจะต้องหักค่าหัวคิวจากพนักงาน Outsource เช่น ค่าสวัสดิการ, ค่าดำเนินการ ฯลฯ แถมพนักงาน Outsource ก็ไม่มีความมั่นคงในงานนักเพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกเรียกตัวกลับแล้วต้องไปปรับตัวเพื่อทำงานในที่ใหม่เสียอีก
5.
รับพนักงาน Outsource ที่มีผลการปฏิบัติงานที่ดีเข้ามาเป็นพนักงานประจำ : วิธีนี้ก็ใช้กันอยู่แล้วในหลายองค์กร
แต่ข้อคิดอีกด้านหนึ่งก็คือองค์กรของท่านจะมีต้นทุนด้านบุคลากร (Staff Cost) เพิ่มสูงขึ้น ในความเห็นส่วนตัวเรื่องนี้ผมว่าในที่สุดก็วนกลับไปจุดเดิมอีกคือ
ครั้งแรกเราอยากลดต้นทุนลงด้วยการจ้าง Outsource แต่ในที่สุดเราก็กลับมาเพิ่มต้นทุนให้ตัวเองใหม่ด้วยการรับ
Outsource กลับมาเป็นพนักงานประจำ
วนไปวนมาอยู่แบบนี้แหละครับ
ทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้คงจะเป็นข้อคิดให้กับท่านในการทบทวนบริหารจัดการเรื่องการจ้างพนักงาน
Outsource
ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นแล้วนะครับ
..................................................