บทนำ
ปัจจุบันนี้องค์กรต่าง ๆ
มีการว่าจ้างพนักงานจากบริษัทภายนอกเข้ามาทำงานทั่ว ๆ ไปมากขึ้น เช่น งานรับโทรศัพท์,
งานรับ-ส่งเอกสาร, พนักงานขับรถยนต์, แม่บ้าน, งานในสายการผลิต ฯลฯ และบางแห่งก็ขยายไปถึงงานเฉพาะด้าน
เช่น งานด้านคอมพิวเตอร์, เลขานุการ,
จ่ายเงินเดือนพนักงาน, งานด้านการตลาด ฯลฯ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการจ้างพนักงาน Outsource เหล่านี้ก็เพื่อเป็นการลดอัตรากำลังพนักงานประจำลงและจะมีผลต่อการลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
(Staff Cost) ลงไปด้วย
ไม่ต้องมามีภาระผูกพันว่าพอถึงสิ้นปีจะต้องคอยมาจ่ายโบนัสหรือต้องปรับเงินเดือนขึ้นให้
หรือแม้แต่การลดภาระในเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินสมทบประกันสังคม, ค่ารักษาพยาบาล
ฯลฯ เพราะเรื่องเหล่านี้บริษัทคู่สัญญาจะเป็นผู้รับผิดชอบไป
หรือถ้าปริมาณงานลดลง
หรือออเดอร์ลดลงก็ยังสามารถจะลดจำนวนคนลงตามปริมาณงานโดยไม่ต้องพะวงถึงเรื่องการจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานเหมือนกับการจ้างเข้ามาเป็นพนักงานประจำ
หรือแม้แต่หากพนักงาน Outsource
ทำงานไม่ดี หรือความประพฤติไม่เหมาะสมก็แค่บอกไปทางบริษัทคู่สัญญาให้เขาเปลี่ยนตัวให้คนใหม่เข้ามาทำงานทดแทนได้
จากที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่าการจ้างแบบ
Outsourcing
นี้จะมีแต่ข้อดีสำหรับองค์กรใช่ไหมครับ ?
เป็นธรรมดาของเหรียญที่ต้องมีทั้งสองด้านอยู่เสมอ
!
ดังนั้นผมจึงจะขอเล่าถึงอีกด้านหนึ่งของวิธีการจ้างพนักงาน
Outsource
ที่อาจจะเกิดปัญหาให้กับองค์กรของท่าน
เพื่อเป็นข้อคิดให้ท่านเตรียมการบริหารจัดการระบบ Outsourcing ในองค์กรของท่านให้ราบรื่นขึ้น
ปัญหาของการจ้างพนักงาน
Outsource
แม้ว่าการจ้างพนักงาน Outsource ดูเหมือนจะมีข้อดีในด้านต่าง ๆ
กับองค์กรดังที่ผมได้เล่าให้ท่านฟังในข้างต้นไปแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งเรามักพบปัญหาในการจ้างพนักงาน
Outsource ที่พบเห็นได้บ่อย ๆ มีดังนี้
1.
คุณภาพของพนักงาน Outsource ไม่เป็นไปตามที่องค์กรต้องการ : หาก
เป็นการจ้างในตำแหน่งงานงานทั่ว
ๆ ที่ไม่กระทบต่อองค์กรโดยตรง เช่น งานรับ-ส่งเอกสาร, งานแม่บ้านทำความสะอาด
ปัญหาในเรื่องนี้อาจจะยังไม่มีผลกระทบต่อองค์กรมากนัก
แต่หากเป็นพนักงานที่อยู่ในสายการผลิตที่จะต้องผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน
ให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดภายในเวลาที่กำหนดเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าทันตามเวลาแล้วพบว่าพนักงาน
Outsource
ที่จ้างเข้ามาไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมายที่องค์กรกำหนดไว้ ก็จะมีความเสียหายกับเนื้องานที่จะต้องมาแก้ไขกันอีก
รวมถึงการจ้าง Outsource มาให้บริการกับลูกค้าที่หน้างานโดยตรงถ้าพนักงาน Outsource แสดงพฤติกรรมการบริการลูกค้าที่ไม่เหมาะสมออกไปหัวหน้างานที่รับผิดชอบในจุดที่เป็นปัญหาเหล่านั้นจะต้องมาคอยตามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยความเหนื่อยอกเหนื่อยใจไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ
2.
อัตราการลาออกของพนักงาน Outsource สูง :
นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มักจะพบ
อยู่เสมอ
ๆ เพราะในวันนี้เขามาทำงานกับองค์กรเราเป็นพนักงาน Outsource แต่วันใดที่เขาหางานประจำได้ เขาก็ย่อมต้องการความมั่นคงจากการเป็นพนักงานประจำในองค์กรที่มีชื่อเสียง
หรือมั่นคงกว่าการเป็นพนักงาน Outsource เป็นธรรมดาครับ
โดยเฉพาะคนที่มีคุณภาพหรือมีศักยภาพ หรือเป็นคนเก่ง ๆ
ก็ย่อมจะมีโอกาสได้งานประจำง่ายขึ้นไปอีก
เราจึงมักจะพบอยู่เสมอ ๆ
ว่าพนักงาน Outsource
ที่ทำงานดี มีความรับผิดชอบสูงเมื่อเข้ามาทำงานในองค์กรของเราไม่นานก็จะหายหน้าหายตาไปอีกแล้ว
เพราะได้งานประจำ
แม้บริษัทต้นสังกัดจะส่งคนมาทดแทนแต่ก็ต้องมาเริ่มต้นสอนงานกันใหม่อีกทุกครั้ง ผลก็คือทำให้งานเกิดการสะดุดไม่ต่อเนื่อง หลายครั้งที่ผมไปบรรยายในองค์กรต่าง ๆ
มักจะมีคำบอกเล่าปนความเหน็ดเหนื่อยทำนองนี้จากหัวหน้างานหรือคนที่จะต้องเป็นครูสอนงานพนักงาน
Outsource อยู่บ่อย ๆ ครับ
3.
การวางแผนอัตรากำลังที่ไม่เหมาะสมระหว่างพนักงานประจำกับพนักงาน
Outsource : ในบางองค์กรมีการจ้างพนักงาน Outsource เข้ามามากโดยอาจเป็นอัตราส่วนระหว่างพนักงาน Outsource ต่อ พนักงานประจำ 30 : 70 หรือ บางที่อาจจะเป็น 40
: 60 หรืออาจจะมากกว่านี้
ซึ่งเท่ากับว่าองค์กรนั้นกำลังฝากอนาคตไว้กับพนักงาน Outsource ซึ่งไม่ใช่พนักงานประจำ และมีความเสี่ยงต่อการควบคุมคุณภาพในการผลิตหรือการบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
4.
พนักงานประจำรู้สึกว่าตนเองมีรายได้ต่ำกว่าพนักงาน
Outsource
: ยกตัวอย่างง่าย
ๆ ว่าสมมุติว่าเดิมองค์กรของเราเคยจ้างพนักงานปฏิบัติการเป็นพนักงานประจำเดือนละ 10,000 บาท แต่พอเราเปลี่ยนนโยบายมาเป็นการจ้างพนักงานปฏิบัติการแบบ Outsource
เราจะต้องจ้างที่เดือนละ 12,000 ถึง 13,000
บาท เพราะบริษัทที่เป็น Outsourcing เขาจะต้องมีค่าใช้จ่ายดำเนินการต่าง
ๆ เช่นต้องดูแลเรื่องเงินเดือน, สวัสดิการ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของพนักงาน Outsource
ที่ส่งมาให้องค์กรของเรา เมื่อพนักงานของเรามาทำงานร่วมกับพนักงาน Outsource
ก็คงอดที่จะสอบถามเรื่องผลประโยชน์กันไม่ได้และก็แน่นอนว่าจะต้องเกิดการเปรียบเทียบ
เพราะเรื่องสำคัญก็คือ
“เงินเดือนของเราได้เท่าไหร่..ไม่สำคัญเท่ากับเพื่อนได้เท่าไหร่” จริงไหมครับ ?
ก็เลยทำให้เกิดปัญหาการเกี่ยงงานกัน,
จับผิดซึ่งกันและกัน หรือทำให้พนักงานประจำเกิดทัศนคติไม่ดีต่อองค์กรหรือผู้บังคับบัญชาคิดว่าองค์กรไม่ยุติธรรมต่อตนเองทำไมให้เงินเดือนต่ำกว่าพนักงาน
Outsource ฯลฯ
ผมได้ให้ข้อสังเกตกับท่านในเรื่องปัญหาบางประการของการจ้างพนักงาน
Outsource ไปแล้ว
ในตอนหน้าเราจะมาพูดกันในเรื่องที่ว่าแล้วเราจะจัดการเรื่อง Outsource กันยังไงต่อนะครับ
..................................................