วันนี้มีเรื่องแปลก ๆ ในการบริหารคนมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้วครับ
ก็เรื่องการมาสายนี่แหละครับ
ผมว่าทุกบริษัทก็จะมีข้อบังคับการทำงานที่พูดถึงเรื่องโทษทางวินัยเกี่ยวกับการมาสายอยู่แล้ว
เช่น การตักเตือนด้วยวาจา ถ้ายังมาสายซ้ำก็จะถูกตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
หรือมีผลกับเรื่องเบี้ยขยัน หรือมีผลกับการขึ้นเงินเดือนประจำปี/จ่ายโบนัส
การเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง ฯลฯ
จนกระทั่งถ้ามาสายผิดซ้ำคำเตือนก็อาจจะถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชยใด
ๆ
แต่บริษัทแห่งนี้มาแปลกอีกแล้วครับท่าน
!
คือบริษัทไปออกหลักเกณฑ์ว่าถ้าพนักงานมาสาย
1
ชั่วโมงก็ให้เขียนใบลาพักร้อน 1 ชั่วโมง
(สิทธิพักร้อน 1 วัน = 8 ชั่วโมง)
จะเรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการลงโทษคนมาสายด้วยวิธีที่พอฟังแล้วผมได้แต่บอกว่า
“อิหยังวะ” ก็ได้มั๊งครับ
เพราะเป็นการเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันมาโยงเข้าด้วยกันยิ่งกว่าวิชา
Gat เชื่อมโยงซะอีก 5555
เมื่อ
HR บริษัทแห่งนี้ถามผมว่าทำอย่างนี้ได้ไหม
ก็ได้แต่ตอบไปอย่างนี้ครับ
1.
การมาสายเป็นเรื่องของความผิดทางวินัย
เมื่อพนักงานทำความผิดทางวินัยก็ควรมีการดำเนินการทางวินัยตามข้อบังคับการทำงาน
เช่น การตักเตือนด้วยวาจา, ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ฯลฯ ไปจนถ้าพนักงานฝ่าฝืนผิดซ้ำคำเตือนจนต้องเลิกจ้างก็ว่ากันไปในเรื่องของความผิดทางวินัย
2.
การลาพักร้อน
ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ “วันหยุดพักผ่อนประจำปี”
เป็นสิทธิของลูกจ้างที่นายจ้างจะต้องกำหนดให้ลูกจ้างหยุดล่วงหน้าหรือตามที่ตกลงกัน
ไม่ใช่วันลาเหมือนกับลาป่วย ลากิจ ลาคลอดนะครับ ตามมาตรา 30 ก็บอกไว้ชัดเจนว่าเมื่อลูกจ้างทำงานมาครบ
1 ปี
นายจ้างต้องกำหนดให้ลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่าปีละ 6 วันทำงาน
แถมระเบียบของบริษัทต่าง
ๆ มักจะระบุเอาไว้ด้วยว่าการลาพักร้อนจะต้องยื่นใบลาล่วงหน้า (เช่น 3 วันหรือ
5 วัน)
ไม่ใช่เมื่อวานหายไปไม่มาทำงานแล้วโผล่มาวันนี้ก็มายื่นใบลาพักร้อนของเมื่อวาน
จะเห็นได้ว่าการมาสายกับการลาพักร้อนเป็นคนละเรื่องกันเลยนะครับ
แล้วบริษัทเอาสองเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันนี้มาโยงกันได้ยังไง
เหมือนกับเรากำลังดูหนังเรื่องขุนช้างกับขุนแผนกำลังแย่งตัวนางวันทองอยู่ดี
ๆ แล้วกัปตันอเมริกาก็โผล่เข้ามาชิงตัวนางวันทองไปจากทั้งสองขุนทำนองนั้นแหละครับ
นี่ก็เหมือนกัน
เมื่อพนักงานมาสาย 1
ชั่วโมง แต่บริษัทกลับไปให้พนักงานเขียนใบลาพักร้อนมา 1 ชั่วโมง
แทนที่จะถามว่าทำอย่างนี้ได้ไหม
?
ผมว่าฝ่ายบริหารควรกลับไปตั้งคำถามตัวเองดูอีกครั้งหนึ่งดีไหมครับว่าจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
ทำแล้วจะแก้ปัญหาการมาสายได้จริงหรือไม่
แล้วถ้าวันใดวันหนึ่งพนักงานไปฟ้องศาลแรงงานว่าบริษัทไม่ได้ทำตามมาตรา 30 ทำให้เขาไม่ได้รับสิทธิการหยุดพักผ่อนประจำปี
ขอให้บริษัทจ่ายค่าพักร้อนคืนกลับให้เขา เพราะบริษัทบังคับให้เอาไปหักกับเวลามาสาย
บริษัทจะไปตอบศาลว่ายังไง
ได้แต่บอกให้ HR ไปให้คำแนะนำฝ่ายบริหารให้คิดวิเคราะห์แยกแยะเหตุและผลตามที่ผมบอกไปข้างต้นนี้แหละครับ
ถ้าฝ่ายบริหารรับฟังก็ยังพอจะแก้ไขให้กลับมาปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อแก้ปัญหาการมาสายให้ตรงจุดได้
แต่ถ้าไม่ฟังและยังยืนยันจะเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันมาโยงเข้าด้วยกันอย่างนี้ต่อไป
ก็คงเหมือนกับการวางกับระเบิดไว้ในบริษัทที่รอวันเกิดปัญหาในอนาคตแหละครับ