ใครที่ทำงานด้าน HR ในช่วงปี 2533-34 น่าจะต้องเคยได้ยินคำว่า “องค์การแห่งการเรียนรู้” หรือ Learning Organization และ The Fifth Discipline (คำว่า Discipline ต้องออกเสียงว่า “ดิสซิปพลิน” ไมใช่ “ดิสคลิปไลน์” นะครับ)
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับคนที่เป็นต้นทางของคำเหล่านี้กัน
ปีเตอร์
เซงเก้ (Peter
Michael Senge ค.ศ.1947 พ.ศ.2490) ชาวเมืองสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา เรียนจบปริญญาโท-เอกจาก MIT
(Sloan)
ค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) เขียนหนังสือ “The Fifth
Discipline : Th Art and Practice of The Learning Organization” ที่เป็นผลมาจากงานที่เซงเก้ไปวิจัยบริษัทดัง ๆ คือ ฟอร์ด ไครสเลอร์
เอทีแอนด์ที เชลล์ แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มดังกล่าว
พร้อมกันนั้นก็เลยเกิดคำว่า “องค์การแห่งการเรียนรู้” หรือ Learning
Organization ตามมา
หลายคนอาจไม่ทราบว่าคำหลายคำในหนังสือ “The Fifth Discipline” ของเซงเก้มาจากคำเดิมที่มีอยู่แล้วจากนักคิดหลาย ๆ
คนที่บัญญัติศัพท์เหล่านี้เอาไว้ก่อนหน้านี้ เช่น Systems Thinking, Mental Models, Shared Vision
เซงเก้บอกว่าองค์การที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ได้
จะต้องมีหลัก
5 ประการในการเปลี่ยนองค์การดังนี้ครับ
1.
Systems Thinking ต้องมีการคิดอย่างเป็นระบบเพื่อผลในระยะยาวโดยให้ใช้แผนผังระบบ
(System Map) เพื่อจะได้มองเห็นภาพความสัมพันธ์ที่โยงใยของทั้งระบบได้ทั้งหมด
เพราะคนที่มองไม่เห็นภาพทั้งระบบมักจะโทษคนอื่นเมื่อมีผลกระทบมาถึงตนเอง ถ้ามีการคิดอย่างเป็นระบบและเห็นภาพทั้งหมดแล้วจะลดปัญหาลงได้ในระยะยาว
2.
Personal Mastery การที่องค์กรจะพัฒนาให้ไปสู่ความเป็นเลิศได้ก็ต้องมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดเวลาและมีการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะพัฒนาให้คนในองค์กรมีความเชี่ยวชาญและมีความเป็นเลิศให้กับตนเอง
3.
Mental Models คนทุกคนจะแสดงพฤติกรรมออกมาจากความคิดที่มีผลจากจิตใจ
ถ้าคนในองค์การมีแบบอย่างทางจิตใจที่ดีก็จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
องค์การจึงต้องสนับสนุนให้มีการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาจะได้พัฒนาแบบอย่างทางจิตใจให้กับคนในองค์การให้เกิดพฤติกรรมในการเรียนรู้และทำให้กลายเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ในที่สุด
4.
Shared Vision วิสัยทัศน์ของผู้นำมีผลต่ออนาคตขององค์การและควรจะต้องเป็นวิสัยทัศน์ร่วมให้ผู้คนในองค์การได้รับรู้ร่วมกัน
ไม่ควรเป็นวิสัยทัศน์ส่วนตัวของผู้นำเพียงคนเดียวแล้วเขียนไว้ให้ดูสวยงามเพื่อให้คนท่องจำ
ทุกคนจึงต้องมีความมุ่งมั่น กระตือรือร้น
ทุ่มเทและร่วมมือกันเพื่อให้วิสัยทัศน์ร่วมกันบรรลุเป้าหมาย
5.
Team Learning เมื่อคนในองค์กรมีความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อให้วิสัยทัศน์บรรลุเป้าหมายแล้ว
ก็ควรจะต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์กันในทีมงานเพื่อให้เกิดความคิดร่วมกัน
การวางแผนและตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน
ปัจจุบันแนวคิดในเรื่ององค์การแห่งการเรียนรู้ก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรต่าง
ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศก็ผ่านยุคสมัยมาถึงตอนนี้ก็ 30 กว่าปีแล้ว
และก็ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาองค์กรในยุคต่อไปครับ