ผมเคยเขียนเรื่องเหรียญสองด้านกับการต่อเกษียณอายุไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยสรุปคืออยากให้บริษัทที่จะต่อเกษียณอายุพนักงานได้คิดให้รอบคอบทั้งข้อดี-ข้อเสียและผลกระทบจากการต่อเกษียณว่ามีอะไรบ้าง และมีการพูดถึงการจ่ายค่าชดเชยรอบที่สองหากมีการต่อเกษียณอายุเอาไว้
ผมก็เลยอยากเอาเรื่องนี้มาขยายความให้ชัดขึ้นเพราะมักมีคำถามอยู่บ่อยครั้งว่าถ้าต่อเกษียณอายุไปสัก
3
ปีแล้วบริษัทจะไม่ต่อเกษียณอายุอีกจะต้องจ่ายค่าชดเชยรอบที่สองหรือไม่
ตอบได้ดังนี้ครับ
1. เมื่อพนักงานครบเกษียณอายุตามระเบียบของบริษัท
ก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงานตามกฎหมายแรงงาน (มาตรา 118)
ครับ เช่น ถ้าพนักงานที่เกษียณอายุมีอายุงาน 10 ปีไม่เกิน 20 ปีบริษัทก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย
300 วัน หรือถ้ามีอายุงาน 20 ปีขึ้นไปก็ต้องจ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย
400 วัน พูดง่าย ๆ ว่าบริษัทต้องจ่ายค่าชดเชยรอบที่หนึ่งครับ
2. สมมุติบริษัทต้องการจะต่อเกษียณอายุให้กับพนักงานซึ่งได้รับค่าชดเชยรอบแรกไปแล้ว
โดยต่อเกษียณให้พนักงานมาทำงานเหมือนเดิมในตำแหน่งเดิม ยังได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการเหมือนเดิม
ยังมีอำนาจในการบังคับบัญชา (กรณีเป็นผู้บริหาร) มีอำนาจอนุมัติเหมือนเดิม ฯลฯ
บริษัทก็สามารถทำสัญญาจ้างใหม่เพื่อต่อเกษียณออกไปได้ครับ
ซึ่งที่ผมเห็นมาส่วนใหญ่มักจะทำสัญญาแบบปีต่อปี
3. สมมุติว่าบริษัทจ้างพนักงานที่เกษียณไปอีก
3
ปี แล้วในปีที่ 4 ไม่ต้องการจะจ้างอีกต่อไปแล้วพนักงานที่ได้รับการต่อเกษียณก็ไม่เขียนใบลาออก
บริษัทก็ต้องแจ้งเลิกจ้างพร้อมทั้งจ่ายค่าชดเชยรอบที่สองให้กับพนักงานที่ได้รับการต่อเกษียณ
โดยนับอายุงานตั้งแต่วันแรกที่มีการต่อเกษียณครับ
4. บริษัทก็ต้องจ่ายค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่ได้รับการต่อเกษียณตามข้อ
3
ให้ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
(ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่าได้ค่าชดเชย 6 เดือน) ตามมาตรา 118
ของกฎหมายแรงงาน
5. ถ้าพนักงานที่ได้รับการต่อเกษียณเขียนใบลาออกยื่นให้กับบริษัทด้วยความสมัครใจบริษัทก็ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนะครับ
เพราะการที่ลูกจ้างยื่นใบลาออกถือเป็นการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจ้างด้วยตัวลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
จากที่ผมอธิบายมาทั้งหมดจึงสรุปได้ว่าในกรณีที่บริษัทมีการต่อเกษียณอายุให้กับพนักงานแล้วพอถึงวันหนึ่งที่บริษัทจะไม่ต่อเกษียณอายุให้อีก
บริษัทก็ต้องแจ้งเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยรอบที่สองครับ
เว้นแต่พนักงานยื่นใบลาออกด้วยความสมัครใจที่ไม่ได้เกิดจากการถูกบีบบังคับขู่เข็ญ
อย่างนี้บริษัทก็ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเพราะเป็นการสมัครใจลาออกเองของพนักงาน
แต่..ถ้าการต่อเกษียณอายุนั้นเป็นการต่อเกษียณในลักษณะของการจ้างที่ปรึกษา
คือจ้างพนักงานที่เกษียณแล้วเข้ามาเป็นที่ปรึกษาหรือมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับพนักงานรุ่นหลังที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนคนเดิมที่เกษียณ
โดยเข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาจริง ๆ โดยมีลักษณะการจ้าง เช่น....
1. เป็นการจ้างที่ปรึกษาเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการใด
ๆ จากบริษัท
2. บริษัทมุ่งผลลัพธ์ผลสำเร็จของงานหรือของโครงการที่ปรึกษาเป็นสำคัญ
เมื่องานบรรลุเป้าหมายก็จบโครงการนั้น ๆ ไป
3. ที่ปรึกษาไม่มีอำนาจในการบังคับบัญชาหรือให้คุณให้โทษใด
ๆ กับพนักงาน รวมทั้งไม่มีส่วนในการพิจารณาการให้บำเหน็จรางวัลใด ๆ
กับพนักงานประจำ และไม่มีอำนาจอนุมัติใด ๆ เหมือนเดิม
4. บริษัทไม่มีอำนาจในการควบคุมบังคับบัญชาใด
ๆ เช่น ที่ปรึกษาจะเข้ามาทำงานวันไหน หรือไม่เข้ามาทำงานวันไหนก็ไม่ต้องมาขออนุญาต
พูดง่าย ๆ ว่าจะมาจะไปก็แล้วแต่ตัวที่ปรึกษา บริษัทไม่มีสิทธิเข้ามายุ่งกับการทำงานของที่ปรึกษา
ที่บอกมาข้างต้นนี้ท่านจะเห็นได้ว่าลักษณะการจ้างเหล่านี้ก็เหมือนการจ้างที่ปรึกษาคนนอกเข้ามาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทนั่นแหละครับ
การจ้างแบบนี้จึงไม่ใช่การจ้างแรงงานและไม่มีสถานะความเป็นนายจ้างลูกจ้าง
ถ้าไม่พอใจการทำงานของที่ปรึกษาและจะเลิกจ้างเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเพราะไม่ใช่การจ้างแรงงานที่อยู่ในบังคับของกฎหมายแรงงานครับ
หวังว่าจะเข้าใจเรื่องของการต่อเกษียณอายุรอบสองในทุกแง่ทุกมุมแล้วนะครับ
……………………….