ทุกวันนี้หลายองค์กรยังไม่เห็นความสำคัญของกระบวนการสรรหาคัดเลือกคนเข้ามาทำงานเท่าไหร่นัก
สังเกตได้จากอะไร?
จะมีองค์กรไหนบ้างที่จะมีกระบวนการในการทดสอบผู้สมัครงานว่ามีคุณสมบัติตรงกับตำแหน่งงานที่ต้องการ
หรือมีการจัดอบรมให้ความรู้กับคนที่จะเป็นกรรมการสัมภาษณ์ได้เข้าใจเทคนิคการสัมภาษณ์อย่างที่ควรจะต้องรู้เพื่อให้มี
“ทักษะ” ในการคัดเลือกคนที่ “ใช่” ได้มากที่สุด
เพราะการสัมภาษณ์คือ “ทักษะ”
คือการฝึกฝนจนชำนาญนะครับ ไม่ใช่พรสวรรค์ที่อยู่ดี ๆ
ก็งอกขึ้นมาได้เองตามตำแหน่งที่สูงขึ้น!!
พอองค์กรไม่ให้ความสำคัญและไม่เคยให้ความรู้กับคนที่จะต้องไปทำหน้าที่สัมภาษณ์แล้วคิดว่าการสัมภาษณ์คือการพูดคุยซักถามทั่วไป
ถูกใจใครก็เลือกคนนั้น
ในที่สุดก็มักจะเกิดความผิดพลาดจากการใช้ความรู้สึกหรืออคติในการคัดเลือกคนในที่สุด!
เรามาดูกันไหมครับว่าความเสียหายที่เกิดจากการตัดสินใจรับคนที่ไม่ใช่เข้ามาทำงานมีอะไรบ้าง?
1.
องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณารับสมัครงาน
เช่น ค่าจัด Job
Fair, ค่าลงโฆษณารับสมัครงานตามสื่อต่าง ๆ เช่นสื่อสิ่งพิมพ์, สื่อออนไลน์ ฯลฯ ตรงนี้ HR สามารถตรวจสอบดูได้ว่าปีละกี่บาทสำหรับการลงโฆษณารับสมัครงาน
2.
ค่า Head Hunter ในบางตำแหน่งงานที่หายากก็จำเป็นต้องใช้บริการ
Head Hunter เช็คได้เหมือนกันว่าในแต่ละปี องค์กรของเราใช้บริการ
Head Hunter ไปเท่าไหร่
3.
ค่าพิมพ์ใบสมัครงานหรือค่ากระดาษ
ค่าหมึกพิมพ์ ค่าซีร็อก ในกรณีที่ผู้สมัครส่งใบสมัครมาทางอีเมล์แล้ว HR จะต้อง
Print out ไฟล์ต่าง ๆ ที่ผู้สมัครส่งมาซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในหมวด Stationary
ของบริษัทปีละเท่าไหร่
4.
ค่าเดินทางหรือค่าย้ายสถานที่ทำงาน
ในกรณีที่บางบริษัทอยู่ต่างจังหวัดและมีค่าใช้จ่ายจูงใจให้คนอยากมาทำงานกับเรา
เช่น ค่าขนย้าย, ค่าหอพัก, ค่าพาหนะขนย้ายของ ฯลฯ
ปีหนึ่งมีกี่คนและรวมเป็นเงินเท่าไหร่
5.
ค่าฝึกอบรม+ปฐมนิเทศ+ค่าใช้จ่ายในการสอนงาน
6.
เวลาที่ใช้ไปในการสัมภาษณ์ของผู้สัมภาษณ์คิดออกมาเป็นตัวเงินว่าใช้ไปกี่ชั่วโมง
ๆ ละกี่บาท
จากที่ผมบอกมาข้างต้นคือค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการสรรหาคัดเลือกพนักงานที่บริษัทจะต้องสูญเปล่าไปในกรณีที่เราคัดเลือกคนเข้ามาแล้วคน
ๆ นั้นมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมแล้วลงท้ายด้วยการลาออก
ลองคิดดูง่าย ๆ ก็เอาจำนวนค่าใช้จ่ายจากข้อ
1
ถึง 6 รวมกันแล้วหารด้วยจำนวนใบสมัครงานที่เราได้รับมาดูก่อนก็ได้
เราก็จะได้ข้อมูลว่าค่าใช้จ่ายต่อ 1 ใบสมัครเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
นี่คือต้นทุนในการหาคน 1
คนครับ!
แล้วเอาจำนวนคนที่เรารับเข้ามาแล้วลาออกไปคูณดูสิครับท่านอาจจะพบว่าเรามีค่าใช้จ่ายสูญเปล่าในการสรรหาคัดเลือกแต่ละปีไปไม่น้อยเลยแหละ
ยังไม่รวมคนที่ไม่เหมาะที่เกิดจากการคัดเลือกที่ผิดพลาดแล้วคน
ๆ นั้นทำงานไปเรื่อย ๆ ระยะยาวแล้วทำงานไม่ดี ไม่รับผิดชอบงาน,
มาสายเป็นประจำ, ทำงานผิดพลาดบ่อย,
ทัศนคติแย่ ด่าผู้บริหารทุกวัน คอยแต่คิดเรียกร้องโน่นนี่
ก่อปัญหาปวดหัวให้ฝ่ายบริหารอยู่เป็นประจำ ฯลฯ
เอาง่าย ๆ ก็แค่คน ๆ
นั้นคอยโพสด่าองค์กรในสื่อออนไลน์ให้เสียชื่อเสียงอยู่บ่อย ๆ
นี่ก็เกิดความเสียหายที่แก้ไขได้ยากแล้วจริงไหมครับ
ถ้าเป็นแบบนี้ท่านคิดว่าองค์กรจะมีค่าใช้จ่ายในการตามแก้ไขความเสียหายเท่าไหร่ครับ?
ทั้งหมดที่ผมบอกมานี้ก็เพื่ออยากให้ฝ่ายบริหารได้เห็นความสำคัญของการ
“คัดเลือก” คนที่ “ใช่” ที่ไม่ใช่แค่การสัมภาษณ์และพูดคุยทั่ว ๆ
ไปแล้วใช้ความรู้สึกแบบลางสังหรณ์หรือจิตสัมผัสรับคนเข้ามาทำงานแล้วก็ทำให้เกิดปัญหาต้องมาตามแก้กันเป็นดราม่าทั้งระยะสั้นและระยะยาวในอนาคตที่ล้วนแต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายมากมายตามมาในภายหลัง
องค์กรไหนจะชอบแก้ปัญหาแบบ
Reactive คือเกิดปัญหาแล้วค่อยตามแก้ หรือจะหาทางป้องกันปัญหาเรื่องคนเอาไว้ล่วงหน้าแบบ
Proactive คือหาคนที่ใช่ที่เหมาะเพื่อลดปัญหาคนในอนาคตและลดค่าใช้จ่ายในการสรรหาลงก็ลองนำกลับไปคิดดูนะครับ
……………………………………