วันนี้มีน้องที่เคยทำงานในที่ทำงานเดียวกับผมมาเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้วโทรมาปรึกษาว่าสงสัยจะถูกเลิกจ้าง
เพราะเมื่อวานเจ้าของ (เรียกให้เพราะ ๆ คือ MD หรือ Managing
Director นั่นแหละ) เรียกไปคุยเพื่อขอลดค่าตำแหน่งลง 10,000 บาทโดยบอกว่างานน้อยลงน้องคนนี้ก็เลยมีความรับผิดชอบลดลง
คือที่บริษัทแห่งนี้เขาจ่ายเงินเดือนและค่าตำแหน่งเพื่อจะได้ลดต้นทุนลงในหลาย ๆ
เรื่อง เช่นโอที, โบนัส, ขึ้นเงินเดือนประจำปี ฯลฯ (ยกตัวอย่างเช่นจ่ายเงินเดือน 20,000
บาทแล้วจ่ายค่าตำแหน่ง 15,000 บาท เป็นต้น)
และที่สำคัญคือเจ้าของเขาบอกว่าเงินเดือนน่ะลดไม่ได้
แต่ค่าตำแหน่งไม่ใช่ “เงินเดือน” บริษัทสามารถลดค่าตำแหน่งได้ !?
ผมก็เลยตอบไปว่าในกฎหมายแรงงานไม่มีคำว่า
“เงินเดือน” นะครับ มีแต่คำว่า “ค่าจ้าง” ซึ่งผมขอคัดลอกมาบางส่วนของมาตรา 5 เพื่อให้เข้าใจความหมายของค่าจ้างคือ....
“เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง
รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น....”
ดังนั้น
ค่าตำแหน่งจึงเป็น “ค่าตอบแทนการทำงาน” ตามความหมายข้างต้นอย่างแน่นอนครับ
เพราะถ้าไม่ได้ทำงานในตำแหน่งนี้ก็จะไม่ได้รับค่าตำแหน่ง แต่เพราะทำงานในตำแหน่งนี้จึงได้รับค่าตำแหน่งเพื่อเป็นค่าตอบแทนการทำงาน
“ค่าจ้าง” ของน้องคนนี้คือ เงินเดือน+ค่าตำแหน่ง
= 20,0000+15,000 = 35,000 บาท ครับ
การที่จะไปลดค่าตำแหน่งลงโดยเจ้าตัวไม่ยินยอมก็จะทำไม่ได้
น้องคนนี้แกก็ถามต่อว่าถ้าตัวเขาไม่ยอมลดค่าตำแหน่งตามที่เจ้าของบอกมา
แล้วเจ้าของจะเลิกจ้าง (น้องคนนี้ทำงานที่นี่มาปีเศษ ๆ) โดยจะจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน
90 วัน และค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน โดยคิดจากฐานเงินเดือนจะถูกต้องหรือไม่
เพราะเจ้าของกิจการคนนี้เขาเพิ่งเลิกจ้างพนักงานคนหนึ่งไปเขาก็คิดจากเฉพาะฐานเงินเดือน
(โดยไม่รวมค่าตำแหน่ง)
มาจ่ายค่าชดเชยตามอายุงานโดยอ้างว่าทนายบอกว่าให้คิดค่าชดเชยจากฐานเงินเดือนเท่านั้น
ท่านที่ทำงาน
HR โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านแรงงานสัมพันธ์คงทราบคำตอบนี้แล้วนะครับว่าถูกหรือผิด....
แต่อยากจะแชร์ให้ท่านที่ไม่ได้ทำงานด้าน
HR หรือเจ้าของกิจการทราบด้วยว่า....
“ผิด”
ครับ
ค่าชดเชยที่จะต้องจ่ายตามมาตรา
118 ของกฎหมายแรงงานจะต้องคิดฐานการจ่ายค่าชดเชยจาก “ค่าจ้าง”
ถึงจะถูกต้องนะครับ และการจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าก็ต้องคำนวณจาก “ค่าจ้าง”
ด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะในกฎหมายแรงงานไม่มีคำว่า
“เงินเดือน” ครับ มีแต่คำว่าค่าจ้างอย่างที่ผมบอกไปแล้วข้างต้น
ดังนั้น
ถ้ายังใช้เพียงแค่เงินเดือนเป็นฐานในการคำนวณค่าชดเชยหรือค่าบอกกล่าวล่วงหน้าแล้วลูกจ้างไปฟ้องศาลแรงงานเมื่อไหร่ก็คงจะแพ้คดีร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับแถมบริษัทยังเสียชื่ออีกต่างหาก
ไหน
ๆ ถ้าจะเลิกจ้างแล้วก็ทำให้ถูกต้องจะดีกว่านะครับ
ส่วนที่เจ้าของอ้างว่าทนายมาแนะว่าให้ใช้แค่เงินเดือนเพียงตัวเดียวมาเป็นฐานในการคำนวณค่าชดเชยน่ะ
ถ้าเชื่อทนายที่แนะแบบนี้ผมก็คงทำได้แค่เบะปากมองบน....นะครับ
555
:- )
……………………………..