เห็นว่ากระแสล๊อตเตอรี่รวมถึงเรื่องหวยกำลังมาแรงผมจึงอยากจะนำเรื่องนี้มาแชร์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังชอบหารายได้พิเศษด้วยการเสี่ยงโชคโดยคิดว่าเงินคงจะได้มาง่าย
ๆ ด้วยการเล่นการพนัน
แถมยังเล่นการพนันเสี่ยงโชคในบริษัทอีกต่างหากน่ะสิครับ !
เรื่องก็มีอยู่ว่านายใหญ่
(นามสมมุติ) ชวนเพื่อน ๆ รวม 7 คนตั้งวงเล่นไฮโลกันในบริษัทอย่างสนุกสนานทั้ง ๆ
ที่บริษัทก็มีกฎระเบียบประกาศแจ้งให้พนักงานทุกคนรับทราบอยู่แล้วว่าห้ามเล่นการพนันภายในบริษัท
พนักงานต้องไม่ทำความผิดอาญาโดยเจตนาแม้ว่าจะไม่ถูกดำเนินคดีก็ตามถ้าบริษัทจับได้มีโทษถึงไล่ออก
แต่นายใหญ่และพวกก็ยังฝ่าฝืน
พอบริษัทจับได้ว่านายใหญ่และพวกเล่นการพนันก็เลยลงโทษไล่ออก
(ภาษากฎหมายแรงงานจะเรียกว่า “เลิกจ้าง”) โดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน
เพราะถือว่านายใหญ่และพวกฝ่าฝืนข้อบังคับการทำงานเป็นการกระทำความผิดในกรณีร้ายแรง
ปรากฏว่านายใหญ่และพวกรวม
7 คนก็เลยยกโขยงไปฟ้องศาลแรงงานเพื่อเรียกร้องขอค่าชดเชยตามอายุงาน,
ค่าเสียหาย, ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า แถมด้วยดอกเบี้ยอีกร้อยละ 15 ต่อปีอีกแน่ะ (แหม..ช่างกล้านิ อิ อิ)
ยัง..ยังไม่พอยังฟ้องขอให้ศาลท่านพิพากษาให้บริษัทรับนายใหญ่และพวกกลับเข้าทำงานโดยนับอายุงานต่อเนื่องอีกต่างหาก
(คิดได้ยังไงเนี่ยะ....)
เรื่องก็เลยต้องขึ้นศาลแรงงานตามคดีที่
ฎ.1839/2554
ปรากฏว่าศาลแรงงานกลางท่านตัดสินยกฟ้อง
พูดง่าย ๆ ว่านายใหญ่และพวกรวม 7 คนตกงานไปโดยไม่มีสิทธิในการเรียกร้องอะไร (ตามข้างต้น) ทั้งหมด
แต่นายใหญ่และพวกก็ยังอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาโดยบอกว่า...พวกเขาเพิ่งเล่นการพนันเป็นครั้งแรกแม้จะเป็นการทำผิดทางวินัยในด้านชื่อเสียงของบริษัท
ดังนั้นบริษัทจึงต้องลงโทษด้วยการตัดเตือนด้วยวาจาหรือตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อนถึงจะถูกต้อง
จะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยทันทีอย่างนี้ไม่ได้
ศาลฎีกาท่านมีคำพิพากษาอย่างนี้ครับ....
“....การที่โจทย์กับพวกเล่นการพนันประเภทไฮโลในบริเวณบริษัทจำเลย
นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นบ่อเกิดอาชญากรรม
เป็นชนวนให้เกิดการวิวาทบาดหมางในหมู่พนักงานด้วยกัน
ทำลายความสามัคคีของหมู่คณะทั้งยังทำให้ผลงานของลูกจ้างลดน้อยลงและอาจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายทางชื่อเสียง
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดครั้งแรกและโจทก์สำนึกผิดหรือไม่ก็ตาม
การกระทำของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นการผิดวินัยร้ายแรงตามข้อบังคับการทำงานของจำเลยและเป็นการฝ่าฝ่นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมกรณีที่ร้ายแรง
จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ.2541 มาตรา 119 (4) การกระทำของโจทก์มิใช่เป็นเพียงการกระทำผิดวินัยที่ทำให้เสียหายด้านชื่อเสียงต่อจำเลยเพียงอย่างเดียว
อันจะลงโทษได้โดยการตักเตือนเท่านั้น
เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยสาเหตุที่โจทก์ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมกรณีที่ร้ายแรง
จึงเป็นการเลิกจ้างโดยมีเหตุผลสมควร
การเลิกจ้างโจทก์จึงไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม”
จากคำพิพากษาศาลฎีกาข้างต้นคงจะทำให้คนที่คิดหาลำไพ่พิเศษในบริษัทด้วยการเล่นการพนันจะได้รับทราบไว้นะครับว่า
ผลสุดท้ายจะเป็นยังไงแม้จะมาอ้างว่าเพิ่งจะทำความผิดเป็น “ครั้งแรก” ก็ตาม
ก่อนปิดท้ายเรื่องนี้ผมก็อยากจะฝากเอาไว้ว่าการเล่นหวย หรือเล่นพนันบอล ฯลฯ ก็อยู่ในข่ายความผิดในเรื่องเล่นการพนันเช่นเดียวกัน อย่าคิดว่าการพนันคือการตั้งวงเล่นไพ่เท่านั้นนะครับ
มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า
“โจรขึ้นบ้านสิบครั้งยังไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว..แต่ไฟไหม้บ้านสิบครั้งก็ยังไม่เท่ากับการเล่นการพนันเพียงครั้งเดียว”
เพราะการพนันจะทำให้คน ๆ นั้นสูญเสียทุกสิ่งอย่างไปในที่สุด
………………………………….