ในระหว่างการสัมภาษณ์งานมักจะมีคำถามหนึ่งที่มักจะเป็นประเด็นสอบถามกันอยู่เสมอ
ๆ ว่า..
ผู้สมัครงาน : “เราควรจะถามเรื่องเงินเดือนกับผู้สัมภาษณ์
(ไม่ว่าจะเป็น HR หรือ Line Manager ก็ตาม)
ดีหรือไม่”
ผู้สัมภาษณ์ : “เราควรจะตอบคำถามข้างต้นยังไงดี”
ผมว่าเป็นเรื่องปกตินะครับที่ผู้สมัครงานเองก็อยากจะรู้ว่าถ้าเรามาทำงานที่บริษัทนี้จะได้เงินเดือนสักเท่าไหร่
เพื่อจะได้เอาไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ไปสมัครงานอยู่
ถ้าบริษัทไหนให้เงินเดือนดีกว่าก็มีแนวโน้มจะไปทำงานกับบริษัทที่จ่ายดีกว่า
ก็เลยอยากจะรู้ว่าที่บริษัทนี้เขาจ่ายเท่าไหร่
แต่อันนี้เป็นมุมมองหรือความคิดของทางฝั่งผู้สมัครงานนะครับ
!
ผมอยากจะให้ท่านที่เป็นผู้สมัครงานลองคิดและมองในมุมของผู้สัมภาษณ์ที่อยู่ทางฝั่งบริษัทบ้าง....
ทุกบริษัทจะถือว่าเรื่องเงินเดือนเป็นความลับ
แทบทุกบริษัทก็มักจะมีแนวปฏิบัติคล้าย ๆ
กันก็คือก่อนเงินเดือนจะออกก็จะมีการแจกสลิปเงินเดือนเป็นรายบุคคลปิดผนึกอย่างดี
แถมบางแห่งก็ตีตรา “ลับ” หรือ “ลับเฉพาะ”
นัยว่าไม่อยากให้พนักงานรู้เงินเดือนกัน
เพราะสัจธรรมที่ผมมักจะพูดเสมอ ๆ ว่า....
“เงินเดือนเราได้เท่าไหร่..ไม่สำคัญเท่ากับเงินเดือนคนอื่นได้เท่าไหร่”
น่ะสิครับ
นี่ขนาดเป็นพนักงานของบริษัทนะครับ
ยังพยายามปิดเรื่องเงินเดือนกันขนาดนี้
แล้วท่านที่เป็น “คนนอก”
คือเป็นผู้สมัครงาน ซึ่งบริษัทเองก็ยังไม่รู้ว่าจะรับท่านเข้าทำงานหรือเปล่า
แล้วทำไมเขาถึงต้องเอาเรื่องความลับ (เงินเดือน)
ของบริษัทมาบอกกับคนภายนอกด้วยเล่า ?
แม้ว่าผู้สมัครบางท่านอาจจะบอกว่า “แหม..ก็บอกแบบกว้าง ๆ
ก็ได้ว่าอยู่ในโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทหรือเปล่า หรือบอกแบบประมาณ ๆ
เอาก็ได้
จะได้เอาไปเปรียบเทียบกับที่อื่นได้....ฯลฯ”
ผมก็อยากจะบอกว่า
การบอกแบบประมาณ ๆ เอา หรือบอกแบบกลาง ๆ ที่ว่า
“ก็คงจะอยู่ในโครงสร้างเงินเดือนของบริษัทนะ....น่าจะไม่มีปัญหานะ.... ฯลฯ”
ทำนองนี้ มันก็คือการให้คำรับรองโดยกลาย ๆ
ที่จะทำให้ผู้สมัครงานฟังแล้วพออนุมานและนำไป “มโน” ต่อได้แล้วนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น
ผู้สมัครงานแจ้งขอเงินเดือนมาในใบสมัครงานมาที่อัตรา 20,000 บาท แล้วถามกรรมการสัมภาษณ์ว่า “ที่ขอเงินเดือนมา 20,000 บาทเนี่ยะบริษัทจะจ่ายได้หรือไม่” ถ้ากรรมการสัมภาษณ์ตอบว่า
“ก็คิดว่าคงจะอยู่ในโครงสร้างเงินเดือนนะครับ” อย่างนี้ก็เท่ากับการยอมรับโดยปริยายแล้วว่าถ้าบริษัทรับเราเขาทำงานในตำแหน่งงานนี้เราก็จะได้เงินเดือนประมาณ
20,000 บาทนี่แหละ
แต่....โลกทุกวันนี้คือโลกของ Social media ครับ..เมื่อเรารู้..โลกต้องรู้ด้วย !!
ผู้สมัครรายนี้ก็เอาเรื่องนี้ไปโพสขึ้นกระทู้ในเว็บไซด์ดัง ๆ ทันทีว่า....
“วันนี้
เราไปสมัครงานที่บริษัท....ตำแหน่ง....เขาให้เงินเดือนสองหมื่น เพื่อน ๆ
ว่างัย....” เท่านั้นแหละครับ เดี๋ยวก็จะมีพวกเข้ามาเม้นท์มาเม้าท์กันสนุกสนาน ทั้ง
ๆ ที่คนเม้นท์เองก็ไม่ได้ไปสัมภาษณ์ด้วย
ไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับงานในตำแหน่งนี้อะไรเลยอีกต่างหาก แต่อยากจะขอเม้าท์ออกความเห็นในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้รายละเอียดอ้ะ เพราะเม้นท์ไปแล้วเราไม่ต้องรับผิดชอบอะไรนี่
แต่ที่จะมีปัญหาดราม่ามากกว่านั้น
ก็คือพนักงานของบริษัทในตำแหน่งเดียวกัน ดันไปอ่านกระทู้นี้ด้วยก็จะปรี๊ดขึ้นทันที
เพราะตัวเองก็ทำงานตำแหน่งนี้อยู่แต่ได้เงินเดือน 18,000 บาทเอง
ทำไมใครก็ไม่รู้มาสมัครงานตำแหน่งเดียวกับเราดันได้มากกว่าเราตั้งสองพัน!!
เห็นไหมครับว่าสัจธรรม
“เงินเดือนเราได้เท่าไหร่..ไม่สำคัญเท่ากับคนอื่นได้เท่าไหร่” เริ่มทำงานแล้ว ! เกิดปัญหาภายในบริษัทขึ้นตั้งแต่บริษัทยังไม่ได้รับผู้สมัครคนนี้เข้ามาทำงานเลย
แถมในที่สุดก็อาจจะไม่ได้รับผู้สมัครรายนี้เข้าทำงานอีกตะหาก
ผมถึงมักจะแนะนำให้คนที่เป็นกรรมการสัมภาษณ์ตอบผู้สมัครงานแบบกลาง ๆ ไปว่า
“บริษัทกำลังหาผู้สมัครงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อยู่ ยังสัมภาษณ์ไม่หมด
ถ้าบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าคุณเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่าผู้สมัครรายอื่นและตัดสินใจรับคุณเข้าทำงาน
บริษัท (โดยฝ่าย HR) จะติดต่อกลับไปอีกครั้งพร้อมทั้งจะคุยรายละเอียดเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการกันต่อไป”
แปลว่าจบครับ
ยังไม่ต้องมาคุยกันเรื่องเงินเดือนเพราะบริษัทก็ยังไม่รู้ว่าจะรับผู้สมัครรายนี้เข้าทำงานหรือไม่
คุยกันไปก็ยังไม่มีประโยชน์ตอนนี้ สู้มาคุยกันเรื่องงานที่จะต้องทำต้องรับผิดชอบในตำแหน่งนี้กันก่อนจะดีกว่า
ว่าผู้สมัครมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงานนี้มากน้อยแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับรายอื่น
ๆ
จากที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้
ก็มาสู่คำตอบของทางฝั่งผู้สมัครงานว่า
“แล้วถ้ายังงั้นควรจะถามเรื่องเงินเดือนกันเมื่อไหร่ดี ?”
ก็ตอบว่า “ก็ถามตอนที่บริษัทเขาติดต่อกลับมาแจ้งว่ารับท่านเข้าทำงานแล้วและจะเรียกไปเซ็นสัญญาจ้างงานน่ะสิครับ”
เพราะตอนนี้แหละเป็นตอนที่ท่านได้รับการยืนยันแล้วว่าบริษัทรับเข้าทำงานเป็นพนักงานแน่นอน
เราก็มีสิทธิจะต้องรู้ค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของเราแล้ว เพราะเรื่องงานและความรับผิดชอบเราคุยกันไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์
ตรงนี้ท่านก็ต่อรองเรื่องเงินเดือนและผลตอบแทนกันตามที่จะ WIN-WIN ทั้งสองฝ่ายได้เต็มที่
แต่ถ้าผู้สมัครงานไปถามตอนที่ยังสัมภาษณ์อยู่
(ซึ่งยังไม่รู้ว่าบริษัทจะรับเข้าทำงานหรือเปล่า) ต่อให้บริษัทบอกว่าในตำแหน่งนี้จ้างอยู่
30,000
บาท ถ้าเขาไม่รับท่านเข้าทำงานเพราะคุณสมบัติไม่ตรงกับตำแหน่งงานนี้
ถึงจะรู้เงินเดือนไปก็ไม่มีประโยชน์ (สำหรับผู้สมัครงานที่เขาไม่ได้รับ)
จริงไหมครับ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะเข้าใจตรงกันแล้วทั้งสองฝ่ายว่าควรจะถามเรื่องเงินเดือนตอนไหน
และควรจะตอบเรื่องอัตราเงินเดือนยังไงถึงจะเหมาะสมนะครับ
………………………………..